80 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน

บทความนี้ให้คุณได้เรียนภาษาอังกฤษแบบสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย แม้ว่าคุณจะยังไม่แน่นไวยากรณ์ภาษาอังกฤษก็ตาม เหล่านี้เป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย เพียงแค่เลือกใช้ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานให้เหมาะสมกับสถานการณ์และเติมคำในช่องว่างให้เข้ากับสถานการณ์ของตัวคุณเองก็ใช้ได้แล้ว

ประโยคภาษาอังกฤษ ทักทาย

ต่อไปนี้เป็นคำทักทายภาษาอังกฤษ ใช้เมื่อคุณต้องการกล่าวสวัสดีภาษาอังกฤษกับเพื่อน, คนรู้จัก, หรือคนแปลกหน้าก็ได้

Hi!ไฮสวัสดี
Hello!เฮลโลวสวัสดี
Good Morning!กู้ด มอร์นิ่งสวัสดีตอนเช้า
Good Afternoon!กู้ด อาฟเตอร์นูนสวัสดีตอนกลางวัน
Good Evening!กู้ด อีฟนิ่งสวัสดีตอนเย็น

คำทักทายด้านบนนี้เป็นคำสุภาพ เหมาะใช้กับคนทุกวัยวุฒิ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท ครู หรือแม้แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ตาม หากคุณต้องการดูคำทักทายอื่นๆ ที่คุณอาจจะชอบมากกว่า เช่น คำทักทาย น่ารักๆ เท่ๆ หรือคำทักทายแบบเป็นทางการสำหรับภาษาอังกฤษที่ทำงานและเขียนภาษาอังกฤษในอีเมล คุณอาจสนใจดูบทความรวมคำทักทายภาษาอังกฤษ เพื่อเลือกใช้คำทักทายที่เหมาะสำหรับคุณมากกว่าได้

ประโยคภาษาอังกฤษ สบายดีไหม

การถามว่าสบายดีไหมใช้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ แสดงถึงมิตรไมตรี และความเป็นห่วงเป็นใย จึงมักเป็นประโยครอง ที่จะใช้พูดหลังจากกล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษ

How are you?ฮาว อาร์ ยูคุณสบายดีไหม
How is it going?ฮาว อิส อิท โกอิ้งเป็นอย่างไรบ้าง
What’s new?ว้อทส์ นิวเป็นไงบ้าง, มีอะไรใหม่บ้าง
  • How is it going?/What’s new? — มักใช้กับคนที่เรารู้จัก เพื่อถามความเป็นไปหลังจากไม่ได้เจอกันมาระยะหนึ่ง
  • How are you? — สบายดีไหม ใช้ถามใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า คนรู้จัก หรือคนในครอบครัว ในภาษาอังกฤษประโยคนี้ยังนับเป็นคำทักทายคำหนึ่งด้วย นั่นหมายความว่าเป็นการถามตามมารยาท คุณไม่จำเป็นต้องตอบตามความเป็นจริงว่าคุณสบายดีหรือไม่ บ่อยครั้งเจ้าของภาษาอาจจะแค่ตอบกลับด้วยประโยคเดียวกัน How are you? ซึ่งอาจฟังดูเป็นสถานการณ์ที่แปลก แต่เป็นเรื่องปกติในภาษาอังกฤษ เช่น

David: “Alan! How are you?”

Alan: “How are you, David?”

วิธีตอบรับคำทักทาย หรือคำถาม How are you? คุณอาจใช้ประโยคใดประโยคหนึ่งดังต่อไปนี้

I’m fine. Thank you.แอม ไฟน์ แต๊งค์ กิ้วฉันสบายดี ขอบคุณนะ
I’m okay. Thank for asking.แอม โอเคย์ แต๊งส์ ฟอร์ อาส์กกิ้งฉันโอเค ขอบคุณที่ถาม
I’m excellent! What about you?แอม เอ็กเซลเล้นท์! ว้อท อะเบ้าท์ ยูวฉันสบายดีสุดๆ ไปเลย! แล้วคุณล่ะ เป็นไงบ้าง

มีวิธีตอบรับคำถาม How are you? อีกหลายวิธี บางครั้งคุณอาจจะไม่ต้องการสาธยายเรื่องราวในชีวิตประจำวันทั้งหมดของคุณให้ทุกคนที่ถามคำถามนี้ได้รู้ ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความ 25 วิธีตอบ “ฉันสบายดี” ภาษาอังกฤษ จะช่วยให้คุณตอบคำถามนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่รู้สึกอึดอัดใจทั้งสำหรับผู้ถามและผู้ตอบ

ประโยคภาษาอังกฤษ แนะนำตัวเอง

ประโยคภาษาอังกฤษ แนะนำตัวเอง

การแนะนำตัวภาษาอังกฤษจะใช้เมื่อเราต้องทำความรู้จักกับคนแปลกหน้า ซึ่งคนๆ นั้นอาจจะเป็นเพื่อนใหม่ในโรงเรียน ลูกค้าจากที่ทำงาน หรือแม้แต่การแนะนำตัวเองแก่เพื่อนร่วมงานในวันทำงานวันแรกก็ได้

I am…ไอ แอม…ฉันคือ…
My name is…มาย เนม อีส…ชื่อของฉันคือ…
Let me introduce myself.เล็ท มี อินโทรดิ๊วส์ มายเซล์ฟขอฉันแนะนำตัวหน่อย

หลายๆ ครั้ง บทสนทนาการแนะนำตัวภาษาอังกฤษมักไม่ได้จบลงแค่ “คุณชื่ออะไร” เท่านั้น แต่อาจมีการถามอายุ ที่อยู่ หรือหน้าที่การงานอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ที่คุณคุยด้วยรู้สึกว่าคุยกันถูกคอ ก็อาจจะถามคำถามมากขึ้น และหวังให้คุณถามคำถามกลับด้วย กดที่บทความต่อไปนี้เพื่อดูบทสนทนาแนะนำตัวภาษาอังกฤษตั้งแต่ต้นจนจบ รับรองว่าคุณตอบรับบทสนทนาได้อย่างราบรื่นแน่นอน

ประโยคภาษาอังกฤษ บอกลา

การบอกลาในภาษาไทยบ่อยครั้งเราจะบอกว่าด้วยคำว่า “สวัสดี” ซึ่งเป็นคำเดียวกันกับคำที่เราใช้ทักทายเลย แต่ภาษาอังกฤษเราจะบอกว่าด้วยคำว่า สวัสดี (“Hello”) ไม่ได้ ต่อไปนี้คือวิธีบอกลาภาษาอังกฤษที่นำไปใช้ได้ทุกสถานการณ์ และทุกช่วงเวลาเลยทีเดียว

Goodbye!กู้ด บายลาก่อน
See you!ซี ยู!แล้วเจอกัน!
Take care!เท็ค แคร์!รักษาตัวด้วย!
Nice to meet you.ไนซ์ ทู มีท ยูยินดีที่ได้พบคุณ
Hope to see you again.โฮพ ทู ซี ยู อะเกนหวังว่าจะได้พบคุณอีก

หากคุณอยากหาคำบอกลาที่ลึกซึ้ง หรือสร้างความประทับใจให้คู่สนทนาได้มากกว่านี้ ดูบทความรวมคำกล่าวลาภาษาอังกฤษที่รวบรวมคำบอกลาทั้งหมดไว้ให้คุณได้เลือกใช้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการบอกลาซึ้งๆ หรือบอกลาทางจดหมายที่ต้องเขียนให้เหมาะสมและเป็นทางการมากกว่าการกล่าวลาทั่วไป

ประโยคภาษาอังกฤษ ขอความช่วยเหลือ

ประโยคต่อไปนี้เป็นประโยคที่ควรจำเอาไว้ให้ดี เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันแน่ที่เราจะต้องการความช่วยเหลือ หากรู้ประโยคเหล่านี้ คุณจะได้ใช้มันได้ทันทีในสถานการณ์คับขัน

Could you help me please?คู้ด ยู เฮล์พ มี พลีสได้โปรดช่วยฉันหน่อย
Could you give/lend me a hand?คู้ด ยู กีฟ/เล็นด์ มี อะ แฮนด์ ขอยืมมือหน่อย/ช่วยหน่อย
I need help.ไอ นี๊ด เฮล์พฉันต้องการความช่วยเหลือ
Help me please.เฮล์พ มี พลีสได้โปรดช่วยฉันหน่อย
Could you please suggest me?คู้ด ยู พลีส ซักเจ็สท์ มีคุณแนะนำฉันหน่อยได้ไหม

การร้องขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน คุณอาจจะใช้ประโยคสั้นๆ เช่น

“Help me!”
เฮล์พ มี
ช่วยด้วย!

และเปร่งเสียงให้ดังที่สุด การขอความช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสถานการณ์คอขาดบาดตาย สามารถดูที่บทความขอความช่วยเหลือภาษาอังกฤษทุกสถานการณ์ มีประโยคทุกรูปแบบให้คุณนำไปใช้ได้ ไม่ว่าจะขอให้ช่วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ขอยืมเงิน และวิธีขอบคุณเมื่อได้รับความช่วยเหลือด้วย

ประโยคภาษาอังกฤษ ให้ความช่วยเหลือ/คำแนะนำ

เราคงเคยเห็นคนลำบากและอยากยื่นมือเข้าไปช่วยกันมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอยากเข้าไปช่วยตรงๆ หรือช่วยด้วยการให้คำแนะนำ การถามเขาก่อนว่าเขาต้องการความช่วยเหลือหรือไม่เป็นมารยาทที่ควรปฏิบัติ และประโยคต่อไปนี้คือประโยคที่คุณต้องรู้เมื่อเสนอความช่วยเหลือเป็นภาษาอังกฤษ

How can I help you?ฮาว แคน ไอ เฮล์พ ยูฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร
What can I do for you?ว้อท แคน ไอ ดู ฟอร์ ยูฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง
In my opinion, you should…อิน มาย โอพินเนี่ยน ยู ชู้ด…ในความเห็นของฉัน คุณควร…
It might be better to…อิท ไม้ท์ บี เบ็ตเตอร์ ทู…มันอาจดีกว่าหาก…
If I were you, I would…อีฟ ไอ เวอ ยู ไอ วู้ด…หากฉันเป็นคุณ ฉันจะ…

การเสนอให้คำแนะนำภาษาอังกฤษจะขาดไม่ได้เลยที่จะต้องใช้คำขึ้นต้นภาษาอังกฤษที่เหมาะสม อย่าง

“In my opinion, …”
อิน มาย โอพินเนี่ยน
ในความเห็นของฉัน

เพื่อเน้นให้ผู้ฟังเข้าใจว่านี่เป็นแค่ความคิดเห็นของคุณเท่านั้น คุณไม่มีเจตนาจะสั่งการเขา และเขาไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม คำขึ้นต้นภาษาอังกฤษมีประโยชน์มาก หลายคำช่วยให้บทสนทนาราบรื่นและผ่อนคลายมากขึ้น ในขณะที่หลายคำจะช่วยแสดงจุดยืนของผู้พูดให้ชัดเจนมากขึ้น ใช้บ่อยมากในการต่อรองเรื่องต่างๆ ดูบทความรวมคำขึ้นต้นภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุด และเลือกใช้ในสถานการณ์ที่คุณต้องการได้เลย

ประโยคภาษาอังกฤษ ขอบคุณ

คนต่างชาติพูดขอบคุณกันบ่อยมาก เพราะคำขอบคุณภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้แค่เวลาที่คุณได้รับความช่วยเหลือใหญ่ๆ เท่านั้น แต่ยังใช้แสดงความขอบคุณในเรื่องเล็กๆ ด้วย เช่น หากมีคนเปิดประตูให้, เมื่อจ่ายเงินค่าสินค้า, เมื่อไปรับบริการใดๆ เป็นต้น ต่อไปนี้คือวิธีขอบคุณแบบสุภาพที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันที

Thank you!แต้งค์ กิ้ว!ขอบคุณ
Thanks!แต้งส์!ขอบคุณ
Thank you very much!แต้งค์ กิ้ว เวอรี่ มัชขอบคุณมาก
  • Thanks! — เป็นคำย่อของ “Thank you!” ใช้ในการกล่าวขอบคุณแบบสบายๆ และนับเป็นคำสุภาพด้วย
  • Thank you very much! — เป็นคำแสดงความซาบซึ้งว่า “ขอบคุณอย่างมาก” ควรเลือกใช้เมื่อคนที่ให้ความช่วยเหลือนั้นช่วยเหลือเราในเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ หรือเมื่อเรารบกวนสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ เพื่อแสดงความซาบซึ้งที่เขาละมือจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ และหันมาช่วยเราแทน แต่ประโยคนี้ไม่ควรนำไปใช้ขอบคุณในสถานการณ์ที่สิ่งๆ นั้นเป็นเรื่องที่เขาจำเป็นต้องทำอยู่แล้ว เพราะมันจะฟังเหมือนเรากำลังกะแนะกะแหนเขาอยู่ เช่น

    “John. Thank you very much for coming to work on time today. I appreciated it.”
    (จอห์น แต๊งค์ กิ้ง เวอรี่ มัช ฟอร์ คัมมิ่ง ทู เวิร์ค ออน ไทม์ ทูเดย์ ไอ อะพริซิเอ็ท อิท)
    จอห์น ขอบคุณมากเลยนะที่เข้างานทันเวลาวันนี้อะ ฉันซึ้งใจจริงๆ เลยนะเนี่ย

การขอบคุณในภาษาอังกฤษจริงๆ แล้วมีมากกว่า 30 คำเลยทีเดียว คนเก่งภาษาอังกฤษจะรู้ว่าเราสามารถแสดงความขอบคุณแบบสุภาพ หรือเลือกแสดงความขอบคุณที่แสดงความซาบซึ้งได้มากกว่าการกล่าว “Thank you” และเป็นเรื่องโชคดีที่การกล่าวขอบคุณวิธีอื่นๆ นั้นง่ายมาก แต่คนไทยอาจไม่ทราบว่านี่คือวิธีขอบคุณในภาษาอังกฤษเพราะเราไม่ได้เรียนคำเหล่านี้มา บทความรวมคำขอบคุณภาษาอังกฤษจะสอนวิธีกล่าวขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ให้คุณได้นำไปใช้ได้เหมือนคนเก่งภาษาอังกฤษคนอื่นๆ เลย

ประโยคภาษาอังกฤษ ไม่เป็นไร

ประโยคภาษาอังกฤษ ไม่เป็นไร

เมื่อเราได้รับขอบคุณ เราอาจจะแค่ส่งยิ้ม พยักหน้า แล้วเดินจากไป แต่หากเราอยู่ในสถานการณ์ที่เราเรายังต้องคุยกับคนๆ นั้นอยู่ หรือคนที่ขอบคุณเราเป็นคนสนิทของเรา เราก็ต้องพูดตอบรับอะไรสักหน่อย ต่อไปนี้คือวิธีพูดตอบรับ “ไม่เป็นไร” ภาษาอังกฤษง่ายๆ

You’re welcome.ยัวร์ เวลคั่มด้วยความยินดี
Don’t mention it.ด้อนท์ เม็นชั่น อิทไม่เป็นไร, อย่าพูดถึงเลย
It’s all right.อิทส์ ออล ไรท์ไม่เป็นไร
My pleasure.มาย เพล็ซเช่อร์ฉันยินดี

จำไว้ว่า ประโยค “ไม่เป็นไร” ภาษาอังกฤษด้านบนนี้ หมายถึง คุณไม่ได้รู้สึกลำบากอะไรที่จะช่วยเหลือ หากคุณต้องการบอกว่า คุณไม่เป็นอะไรมาก หรือคุณสบายดี ให้ดูวิธีตอบฉันสบายดีภาษาอังกฤษแทน

ประโยคภาษาอังกฤษ คุณพูดภาษา…ไหม

เวลาได้รู้จักคนใหม่ๆ และดูไม่ออกจริงๆ ว่าเขาน่าจะมาจากไหน พูดภาษาอะไร และเราไม่แน่ใจว่าเราควรใช้ภาษาไหนคุยกับเขาดี เราอาจถามเขาไปตรงๆ เลยก็ได้ว่าเขาพูดภาษาไทย หรือพูดภาษาอังกฤษหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้ประเมินได้ว่าบทสนทนานี้จะราบรื่นแค่ไหน

Do you speak Thai?ดู ยู สะปี๊ค ไทยคุณพูดภาษาไทยไหม
Can you speak Thai?แคน ยู สะปี๊ค ไทยคุณพูดภาษาไทยได้ไหม
Do you speak English?ดู ยู สะปี๊ค อิงลิชคุณพูดภาษาอังกฤษไหม
Can you speak English?แคน ยู สะปี๊ค อิงลิชคุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม
Can you speak slowly?แคน ยู สะปี๊ค สะโลวลี่คุณพูดช้าๆ ได้ไหม
How do you spell it?ฮาว ดู ยู สะเปวล์ อิทคุณสะกดมันยังไง
I don’t understand.ไอ ด้อนท์ อันเด้อร์สะแตนฉันไม่เข้าใจ
Can you say that again?แคน ยู เซย์ แด็ท อะเก็นคุณพูดอันนั้นอีกครั้งได้ไหม
Do you understand this?ดู ยู อันเด่อร์สะแตน ดิสคุณเข้าใจอันนี้ไหม

ระหว่าง Do you speak …? และ Can you speak …?
แม้ว่า 2 ประโยคนี้จะคล้ายกันและใช้ในสถานการณ์เดียวกัน แต่จริงๆ แล้วมีความหมายต่างกันเล็กน้อย คือ

  • Do you speak …? — คุณพูดภาษา…ได้ไหม
  • Can you speak …? — คุณสามารถพูดภาษา…ได้ไหม

สังเกตว่าประโยค Can you speak …? จะเป็นการถามความสามารถในการพูดภาษา หรือการถามทักษะความรู้ได้ด้วย ซึ่งบางคนอาจมองว่าไม่สุภาพเท่าไหร่หากนำมาใช้ถามคนที่เพิ่งรู้จักกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนๆ นั้นกำลังพูดภาษาที่คุณกำลังถามอยู่ จะฟังเหมือนคุณกำลังดูถูกเขาว่าพูดไม่ดี/พูดไม่รู้เรื่องได้ เช่น

A: Hello! Could you please tell me how to go to this hotel?
(เฮลโลว์ คู้ด ยู พลีส เทล มี ฮาว ทู โกว ทู ดิส โฮเทล)
สวัสดีครับ ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับว่าจะไปโรงแรมนี้ได้อย่างไร

B: Sorry. I don’t understand. Can you speak English?
(ซอร์รี่ ไอ ด้อนท์ อันเด้อร์สะแตน แคน ยู สะปี๊ค อิงลิช)
ขอโทษค่ะ ฉันไม่เข้าใจ คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม

ประโยคนี้สามารถนำไปใช้ได้อย่างดี หากผู้พูดพูดภาษาอื่น และภาษาที่คุณต้องการถามเป็นอีกภาษาหนึ่ง ดังนั้นหากคุณแค่ต้องการทราบว่าคุณควรจะคุยกับเขาด้วยภาษาไหนดี ให้ยึดประโยค “Do you speak …?” ไว้จะดีกว่า

ประโยคภาษาอังกฤษ ถามทาง

ประโยคถามทางภาษาอังกฤษสำคัญอย่างมากเมื่อคุณเดินทางไปต่างประเทศ ต่อไปนี้คือประโยคถามทางที่ใช้บ่อยที่สุด

How can I get to …?ฮาว แคน ไอ เก็ท ทู…ฉันจะไปที่…อย่างไร
Where is the …?แวร์ อิส เดอะ……อยู่ที่ไหน
Which is the best way to …?วิช อิส ดิ เบสท์ เวย์ ทู…ทางที่ดีที่สุดที่จะไป…คือทางไหน

หากคุณอยากรู้รายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติม คุณอาจจะต้องถามด้วยประโยคถามทางภาษาอังกฤษอื่นๆ ที่เรารวมไว้ให้แล้วที่บทความ 50 ประโยคถามทางภาษาอังกฤษ ให้คุณแน่ใจว่าไปไหนก็ไม่หลงทางแน่นอน

ประโยคภาษาอังกฤษ หาหมอ

ความเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากไม่สบายขึ้นมาก็ต้องไปหาหมอ จำประโยคเหล่านี้ไว้ แล้วเดินหน้าไปโรงพยาบาลได้เลย

I need a doctor.ไอ นี๊ด อะ ด็อกเตอร์ฉันต้องการหมอ
I want to see a doctor.ไอ ว้อนท์ ทู ซี อะ ด็อกเตอร์ฉันต้องการพบหมอ
I will take my mom/dad/sister/brother to see a doctor.ไอ วิว เท็ค มาย มัม/แด๊ด/ซิสเตอร์/บราเตอร์ ทู ซี อะ ด็อกเตอร์ฉันจะพา แม่/พ่อ/น้องสาว/พี่ชาย ไปหาหมอ
I feel poorly.ไอ ฟีล พัวลี่ฉันรู้สึกไม่สบาย
My … hurts.มาย…เฮิร์ตส์รู้สึกเจ็บ/ปวดที่…

หากคุณต้องการคุยกับคุณหมอเกี่ยวกับรายละเอียดอาการป่วย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถดูวิธีประโยคหาหมอและคำศัพท์ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ แค่นี้คุณก็รู้รายละเอียดเกี่ยวกับการป่วยและไม่งงกับคำอธิบายต่างๆ ของคุณหมอแล้ว

ประโยคภาษาอังกฤษ เรียกตำรวจ

ประโยคภาษาอังกฤษ เรียกตำรวจ

เมื่อเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แน่นอนว่าเราคงนึกถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนแรก ต่อไปนี้เป็นประโยคที่ควรรู้ไว้ เพื่อหาทางไปสถานีตำรวจ หรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภาษาอังกฤษ

I will call the police.ไอ วิว คอล ดิ โปลิสฉันจะเรียกตำรวจ
Where is the police office?แวร์ อิส ดิ โพลิส ออฟฟิศสถานีตำรวจอยู่ที่ไหน
I’m lost.แอม ล็อสต์ฉันหลงทาง
My … got stolen.มาย…ก็อต สะโตเล่น…ของฉันถูกขโมย
Please leave me alone.พลีส ลีฟ มี อะโลนอย่ามายุ่งกับฉัน
Go away.โกว อะเวย์ไปไกลๆ, อย่ามายุ่ง
  • I will call the police. — “ฉันจะเรียกตำรวจ” สามารถใช้ขู่คนร้ายที่บุกรุกเข้ามาในที่พักของเรา หรืออาจเข้ามาทำอันตรายแก่เราบนท้องถนน เพื่อบอกให้เขาทราบว่าเรามีโทรศัพท์อยู่กับตัว และพร้อมโทรขอความช่วยเหลือ หากเขาไม่ออกไป หรือไม่เลิกเข้ามายุ่งกับเรา เราก็พร้อมจะโทรเรียกตำรวจทันที ประโยคนี้อาจใช้ไม่ได้ในประเทศไทย เนื่องจากระบบการทำงานของตำรวจแตกต่างจากที่อื่น แต่เป็นประโยคที่มีประโยชน์ในประเทศอื่นๆ แถบอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น เนื่องจากตำรวจจะเดินทางมาช่วยคุณทันทีที่คุณโทร
  • Please leave me alone. — “อย่ามายุ่งกับฉัน” แปลตรงๆ ว่า “โปรดปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว” มีความหมายว่า อย่ามายุ่งกับฉัน อย่ามาคุยกับฉัน สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ที่มีคนเข้ามาวอแวกับคุณ แต่คุณไม่สนใจ หรือการขอร้องให้คนดังกล่าวอย่ามายุ่งกับคุณแบบสุภาพ
  • Go away — “อย่ามายุ่ง” ประโยคนี้ค่อนข้างมีความรุนแรงมากกว่า คนพูดอาจจะขึ้นเสียงดังเพื่อขู่ให้คนที่เข้ามายุ่งกลัว และถอยห่างออกไป การนำประโยคนี้ไปใช้ในสถานการณ์ที่คุณได้กำลังจะได้รับอันตราย และคนร้ายไม่กลัวคุณ อาจไม่ช่วยคุณมากนัก คุณอาจขอร้องเขาไม่ให้ทำอันตรายต่อคุณด้วยประโยค “Please leave me alone” จะดีกว่า

ประโยคภาษาอังกฤษ ถามคำถาม

การพูดภาษาอังกฤษก็มีทั้งประโยคบอกเล่าและประโยคคำถามเหมือนภาษาไทย ต่อไปนี้คือประโยคคำถามที่ใช้บ่อยที่สุด และใช้ได้ครอบคลุมแทบทุกสถานการณ์

What is this/that?ว้อท อิส ดิส/แด็ทนี่/นั่นคืออะไร
Where is this/that?แวร์ อิส ดิส/แด็ทที่นี่/นั่นคือที่ไหน
Where will we go?แวร์ วิว วี โกวเราจะไปที่ไหน
What do you think?ว้อท ดู ยู ติ๊งค์คุณคิดอย่างไร
Which one do you prefer?วิช วัน ดู ยู พรีเฟอร์คุณชอบอันไหนมากกว่า
Do you want to …?ดู ยู ว้อน ทู…คุณอยากจะ…ไหม
How about you?ฮาว อะเบ้าท์ ยูแล้วคุณล่ะ

ภาษาอังกฤษมีวิธีถามคำถามหลายแบบ แม้จะมีความซับซ้อนกว่าภาษาไทย แต่หากคุณเข้าใจวิธีวิธีถามคำถามภาษาอังกฤษแล้ว คุณจะพบว่าการถามคำถามภาษาอังกฤษนั้นตรงประเด็นและชัดเจนกว่าภาษาไทยมาก

ประโยคภาษาอังกฤษ ไม่แน่ใจ

นี่เป็นหนึ่งในวิธีแสดงความคิดเห็นภาษาอังกฤษ เมื่อเราไม่แน่ใจว่ามันดีหรือไม่ดี ควรทำหรือไม่ควรทำ เราสามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้

I’m not sure.แอม น็อท ชัวร์ฉันไม่แน่ใจ
Maybe.เมย์บีอาจจะ, อาจเป็นไปได้
I guess.ไอ เกสคงงั้นมั้ง
Probably.โพรเบรบลี่อาจจะ, น่าจะ, คงจะ

I guess. แปลตรงๆ ว่า “ฉันเดาเอา” ความหมายของประโยคนี้แสดงถึงความไม่รู้จริงและความไม่แน่นอน เหมือนประโยคในภาษาไทยว่า “คงงั้นมั้ง” ดังนั้นความหมายของประโยคนี้จะเอียงไปทาง ไม่รู้, ไม่แน่ใจ, ไม่แน่นอนมากกว่า ใช้ตอบสถานการณ์ที่เราอยากจะเห็นด้วย แต่ก็ไม่แน่ใจ เช่น

A: I think we can buy this new expensive car.
(ไอ ติ๊งค์ วี แคน บาย ดิส นิว เอ็กส์เพ็นซีฟ คาร์)
ฉันคิดว่าเราสามารถซื้อรถใหม่ราคาแพงคันนี้ได้นะ

B: I guess.
(ไอ เกส)
คงได้มั้ง
(อาจจะมีเงินพอมั้ง แต่ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่)

ประโยคภาษาอังกฤษ เห็นด้วย

แน่นอนว่าเราสามารถตอบรับ หรือแสดงความเห็นด้วยด้วยคำว่า “Yes” แต่จริงๆ คุณควรเลือกใช้คำอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่ใช้ Yes ทุกสถานการณ์กับทุกประโยค มิเช่นนั้นการพูดของคุณอาจฟังดูตลกได้

I agree.ไอ อะกรีฉันเห็นด้วย
Sure.ชัวร์แน่นอน, แน่ใจ
Deal.ดีลตกลง
Absolutely.อับโซลูทลี่อย่างแน่นอน
  • Deal. — “ตกลง” มีหลายความหมาย สามารถทำหน้าที่เป็นคำนาม แปลว่า “การซื้อขาย” หรือ “ข้อตกลง” ด้วยก็ได้ และหากทำหน้าที่เป็นคำกริยา จะแปลว่า “ขาย”, “ซื้อ”, “ตกลง” เพื่อแสดงการตกลงสำหรับ 2 ฝ่ายสำหรับข้อเสนอใด ดังนั้นคุณสามารถใช้คำนี้ได้ หากอีกฝ่ายหนึ่งยื่นข้อเสนอใดให้กับคุณ และคุณตกลงรับข้อเสนอนั้น
  • Absolutely. — “อย่างแน่นอน” ใช้เมื่อคุณรู้สึกมั่นใจในคำตอบ 100% เช่น หากเพื่อนคุณถามว่าวันหยุดนี้คุณจะออกไปเที่ยวไหม และคุณจัดกระเป๋าเตรียมเดินทางเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถตอบว่า “Absolutely!” ได้

ประโยคภาษาอังกฤษ ไม่เห็นด้วย

การตอบไม่เห็นด้วยอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคู่สนทนาได้ หากคุณไม่เห็นด้วยจริงๆ คุณสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้ได้ เลือกประโยคที่เหมาะกับสถานการณ์ที่ของคุณมากที่สุด

I disagree.ไอ ดิสสะกรีฉันไม่เห็นด้วย
No way.โนว เวย์ไม่มีทาง
Absolutely not.อับโซลูทลี่ น็อทไม่อย่างแน่นอน
You must be kidding.ยูว มัสต์ บี คิดดิ้งคุณต้องล้อเล่น/พูดเล่นแน่ๆ เลยเนี่ย
I don’t think so.ไอ ด้อนท์ ติ๊งค์ โซฉันไม่คิดอย่างนั้น
Is there any other way?อิส แดร์ เอ็นนี่ ออเท่อร์ เวย์มีวิธีอื่นอีกไหม
  • I disagree. — “ฉันไม่เห็นด้วย” เป็นการปฏิเสธแบบตรงๆ ว่าในความเห็นของคุณนั้น คุณไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้พูดกำลังพูด หรือข้อเสนอที่ได้รับ
  • No way. — “ไม่มีทาง” ประโยคค่อนข้างแข็งกร้าว และปิดกั้นความคิดเห็นอื่นๆ หรือข้อเสนออื่นๆ อย่างสิ้นเชิง
  • Absolutely not. — “ไม่อย่างแน่นอน” ให้ความรู้สึกคล้ายประโยค “No way” ฟังดูแข็งกร้าวน้อยกว่า แต่แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของผู้พูดว่าจะไม่ตอบรับหรือตกลงอย่างแน่นอน
  • You must be kidding. — “คุณต้องล้อเล่น/พูดเล่นแน่ๆ” เลยเนี่ย ใช้เมื่อข้อเสนอหรือความคิดเห็นนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลยและคนพูดก็น่าจะรู้ดีว่ามันเป็นไปได้ ดังนั้นเหตุผลเดียวที่เขาพูดออกมาคือแค่ล้อเล่นเท่านั้น ประโยคนี้เป็นประโยคล้อเลียน และไม่เหมาะจะใช้กับเจ้านายในที่ทำงาน
  • I don’t think so. — “ฉันไม่คิดอย่างนั้น” เป็นการปฏิเสธข้อเสนอแบบนุ่มนวลและพยายามรักษาน้ำใจคนถาม แต่ก็คงไว้ซึ่งจุดยืนของตัวเอง คือ “ไม่” หรือ “ไม่เห็นด้วย”
  • Is there any other way? — “มีวิธีอื่นอีกไหม” ประโยคนี้ใช้เมื่อคุณต้องการต่อรอง คุณไม่ได้ปฏิเสธคนพูดเสียทีเดียว แต่ก็บอกให้เขาเข้าใจว่าคุณไม่เห็นด้วยกับเขา 100% และอยากได้ข้อเสนอที่ดีกว่านี้ แต่คุณก็ไม่ได้ปัดข้อเสนอที่เขาเพิ่งเสนอให้ทิ้งไปเสียทีเดียว

การเริ่มต้นเรียนประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นวิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองจะช่วยให้คุณสามารถเริ่มสนทนาเป็นภาษาอังกฤษได้ทันทีด้วยประโยคพื้นฐานที่คุณรู้เหล่านี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเผชิญหน้ากับความกลัวในการพูดภาษาใหม่ๆ และนำความรู้เท่าที่มีออกไปใช้ทันที ลดความกลัว และความเขินอายได้ ช่วยให้การเรียนภาษาของคุณง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณได้ฝึกกับครูชาวต่างชาติที่ให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่คุณได้ ไม่ใช่แค่ผู้เรียนภาษาอังกฤษเท่านั้นที่นำวิธีนี้ไปใช้ได้ คนที่เริ่มต้นเรียนภาษาจีนด้วยตัวเองก็สามารถจำประโยคภาษาจีนง่ายๆ ไปพูดในชีวิตประจำวัน และคนที่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองก็สามารถใช้จำประโยคภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน สั้นๆ ไปฝึกพูดกับเพื่อนได้เช่นกัน

อัพเดทล่าสุด: