7 วิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ฟรีและได้ผลจริง
การเรียนภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้นอาจเป็นเรื่องท้าทาย และบางคนอาจจะรู้สึกกังวล แต่จริงๆแล้วหากคุณค่อยๆเรียนรู้ไปทีละขั้นตอน คุณจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องสนุก และคุณจะรู้ว่าภาษาอังกฤษสำคัญอย่างไรในชีวิตประจำวัน
เมื่อคุณเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง คุณสามารถเลือกใช้วิธีต่างๆได้ต่อไปนี้ โดยเแต่ละวิธีก็มีความเหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน
1. เรียนจากรูปภาพ/บัตรคำภาษาอังกฤษ
อาจไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ นักเรียนบางคนชอบที่จะเรียนผ่านสื่อการเรียนการสอนที่สามารถจับต้องได้มากกว่า เช่นการเรียนผ่านบัตรคำ นักเรียนหลายคนสามารถจำคำศัพท์และความหมายของคำต่างๆได้ดีกว่าเมื่อมีรูปภาพประกอบ บนบัตรคำจะแสดงคำศัพท์ที่คุณต้องการเรียนอยู่ที่ด้านหนึ่งของบัตร และมีรูปภาพประกอบของคำนั้นอยู่อีกด้านหนึ่ง ผู้เรียนสามารถผลัดกันอ่านบัตรคำ โดยเริ่มจากดูภาพประกอบก่อน และพยายามจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษและภาพประกอบบัตรคำนั้น จากนั้นจึงพลิกบัตรคำเพื่อดูคำเฉลย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเขียนคำแปลของคำแทนการวาดภาพประกอบของคำศัพท์แทนได้
2. ดูหนังภาพยนต์ต่างประเทศแบบซับไตเติ้ล
การฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดคือ การนำสิ่งที่เรียนไปใช้ในชีวิตประจำวัน และฝึกภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา แต่หากไม่มีชาวเจ้าของภาษาให้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย การเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่ง่ายที่สุด และได้รับความนิยมมากที่สุดวิธีหนึ่ง คือการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยการดูหนัง ทุกวันนี้มีหนังสำหรับเรียนภาษาอังกฤษมากมายที่ทำให้ผู้เรียนใช้เข้าใจสถานการณ์การใช้คำหรือประโยคนั้นๆ จากหนังได้ เราสามารถดูหนังต่างประเทศแบบซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้เข้าใจประโยคภาษาอังกฤษที่ตัวละครพูดในขณะเรียนการออกเสียงภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเราแปลไม่ออก เราสามารถกดเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้ การเข้าใจประโยคที่เหมาะสมกับสถานการณ์จะทำให้ผู้เรียนใช้ประโยคและคำได้อย่างมั่นใจมากกว่าการท่องจำความหมายแต่ไม่ได้ใช้จริง นอกจากนี้ทุกคนควรเลือกหนังที่ตัวเองชอบ หรือสนใจจริงๆ เพราะจะทำให้เรารู้สึกสนุกกับการเรียนมากขึ้น และทำให้จำคำศัพท์ต่างๆได้ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น
3. หนังสือ/นวนิยาย
มีหนังสือฝึกอ่านภาษาอังกฤษ หรือนวนิยายมากมายที่ไม่ใช่หนังสือเรียน แต่เราก็สามารถเก่งภาษาอังกฤษได้จากการอ่านหนังสือเหล่านี้ เพียงแค่คุณอ่านหนังสือที่เป็นเขียนด้วยภาษาอังกฤษบ่อยๆ คุณจะก็เริ่มคุ้นเคยกับคำภาษาอังกฤษนั้นๆ และสามารถจำรูปประโยคต่างๆได้ง่ายขึ้น การเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษอาจไม่ได้ทำให้เรารู้วิธีการออกเสียงประโยคที่เราอ่านได้เหมือนการเรียนจากภาพยนต์ แต่การอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษทำให้เราได้ฝึกทักษะการเขียนและฝึกทักษะการเรียบเรียงประโยคได้สละสลวย
4. เรียนจากเพลง
หลายคนคงคุ้นเคยกับร้องเพลง ABC เป็นภาษาอังกฤษเพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษสมัยเรียนในโรงเรียนได้ การเรียนจากเพลง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกวิธีหนึ่ง และถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายกับนักเรียนทุกระดับชั้น โดยเฉพาะนักเรียนวัยเด็กเล็ก ความคิดเห็นของนักเรียนที่เรียนจากบทเพลง คือ เป็นการเรียนที่ไม่เครียดเกินไป และให้ความรู้สึกสนุกมากกว่าการท่องจำเฉยๆ ทำให้นักเรียนไม่รู้สึกกดดันในการเรียน สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง และอยากจะขอแนะนำให้ผู้ที่อยากเลือกใช้วิธีนี้ในการฝึกภาษาอังกฤษ คือ เราควรเข้าใจว่าการสร้างประโยคในบทเพลง หลายประโยคอาจจะผิดหลักไวยากรณ์บ้างเล็กน้อย เพราะผู้แต่งจำเป็นต้องคำนึงถึงคำคล้องจองของบทเพลง หากเราต้องการนำประโยคเหล่านี้มาใช้ในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ เราอาจจะต้องแก้ไขประโยคที่ผิดหลักไวยากรณ์ให้มันถูกต้องก่อนนำมาใช้
6. ฝึกพูดกับเพื่อนเจ้าของภาษา หรือคนอังกฤษ
สิ่งที่ช่วยสนับสนุนให้เราได้ฝึกภาษาอังกฤษอย่างดีที่สุด คือ การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน การเรียนแบบนี้จะทำให้คุณพัฒนาทักษะการสื่อสารได้รวดเร็ว เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่มีเพื่อน คนรู้จัก หรืออาจารย์ชาวต่างชาติ หากคุณอยู่ในวัยเรียน คุณอาจจะเห็นนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวในโรงเรียนของคุณอยู่บ้าง และอาจารย์ชาวต่างชาติในโรงเรียนของคุณ ส่วนใหญ่ก็มีความยินดีที่จะพูดคุยฝึกภาษาอังกฤษกับคุณในเวลาที่เหมาะสมอยู่แล้ว นอกจากนั้นอาจารย์บางคนอาจยินดีสอนพิเศษให้คุณโดยมีค่าสอนที่ไม่แพง
7. แอพพลิเคชั่นสอนภาษาอังกฤษ
ส่วนใหญ่จะเป็นแอพฯที่มีค่าใช้จ่าย และมีการเพิ่มเนื้อหาอยู่เรื่อยๆ นอกจากนั้นสไตล์การสอนก็ต่างกันออกไปอีกด้วย หากคุณเลือกเรียนผ่านแอพฯที่ต้องชำระเงินค่าสมาชิก คุณควรใช้ระบบทดลองเรียนก่อน เพื่อดูว่าสไตล์การเรียนแบบนั้นๆเหมาะกับคุณหรือไม่
วิธีเหล่านี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เรานำมาเสนอเท่านั้น ยังเทคนิคเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมายที่จะช่วยให้คุณเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลสำเร็จมากขึ้นได้ และหากคุณต้องการวิธีเรียนอย่างได้ผลแน่นอน คุณควรเรียนภาษาอังกฤษกับครูที่รู้ภาษาอังกฤษและมีประสบการณ์สอน โดยเฉพาะการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษ เช่น เรียน IELTS หรือการเตรียมสอบ TOEIC เป็นต้น ที่เป็นการเรียนที่มีความเข้มข้นมากกว่า นอกจากนั้นคุณจะพบว่าด้วยเทคนิคต่างๆที่ครูสอนพิเศษมี จะช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว