สรุป Past simple Tense วิธีใช้ หลักการ ตัวอย่างประโยค

Past Simple Tense เป็นส่วนหนึ่งของ Past Tense ซึ่งประกอบด้วยประโยคอดีตกาลแบบอื่นๆ อีก คือ

Past Simple Tense คือ ประโยคอดีตกาล เป็นรูปแบบพื้นฐานของประโยคที่ใช้เล่าเหตุการณ์ในอดีตที่จบลงแล้ว โดยอาจเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลงใหม่ๆ หรือเหตุการณ์ที่จบลงนานแล้วก็ได้

ประโยคอดีตกาลมักมีคำบอกวันที่ที่เกิดในอดีต คำกริยาวิเศษณ์บอกความเป็นอดีต ตัวอย่างเช่น

  • already = แล้ว, เสร็จแล้ว, เรียบร้อยแล้ว, ผ่านไปแล้ว
  • previously, formerly = ก่อนหน้านี้, ที่ผ่านมา

หรือคำวิเศษณ์แสดงเวลา เช่น

  • yesterday = เมื่อวาน
  • last night = คืนที่ผ่านมา
  • last month = เดือนที่ผ่านมา

ประโยคอดีตกาลในภาษาอังกฤษสามารถเขียนได้ 2 วิธี คือ

  • Active Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรงในอดีต ประโยคเช่นนี้จะมีกรรมมารองรับหรือไม่ก็ได้
  • Passive Voice คือ ประโยคที่เน้นไปที่กรรมหรือผู้ถูกกระทำในอดีต ประโยคเช่นนี้จะย้ายกรรมหรือผู้ถูกกระทำในอดีตมาทำหน้าที่ประธานในประโยค คำกริยาในประโยคแบบ Passive Voice จะเป็นคำกริยาช่อง 3 (V.3) หรือที่เรียกว่า Past Participle

การผันกริยาสำหรับประโยคอดีตกาล (Past Simple Tense)

  • กริยาปกติ (Regular Verb) ให้เติม -ed เพื่อเปลี่ยนกริยารูปปกติเป็นกริยารูปอดีต เช่น opened, washed, called
  • กริยาปกติที่ลงท้ายด้วย -e ให้เติม d หลัง e ได้เลย เช่น closed, shared, arrived
  • กริยาปกติที่ลงท้ายด้วย -y และหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o,u) ให้เติม -ed เช่น stayed, played, slayed
  • กริยาปกติที่ลงท้ายด้วย -y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i และเติม -ed เช่น studied, paid, said
  • กริยาปกติพยางค์เดียวที่ลงท้ายด้วย สระ+พยัญชนะ ให้เพิ่มพยัญชนะดังกล่าวอีกหนึ่งตัวและเติม -ed เช่น stopped, dragged, shopped
  • กริยาปกติมากกว่า 1 พยางค์ที่ลงเสียงหนักที่พยางค์สุดท้าย และพยางค์สุดท้ายลงท้ายด้วย สระ+พยัญชนะ ให้เพิ่มพยัญชนะดังกล่าวอีกหนึ่งตัวและเติม -ed เช่น committed, preferred, occurred
  • กริยาปกติมากกว่า 1 พยางค์ที่ไม่ได้ลงเสียงหนักที่พยางค์สุดท้าย และพยางค์สุดท้ายลงท้ายด้วย สระ+พยัญชนะ ให้เติม -ed ได้เลย เช่น offered, discovered, exhibited
  • กริยาไม่ปกติ (Irregular Verb) เป็นกริยาที่เปลี่ยนรูปแบบไม่เป็นไปตามกฏการเปลี่ยนรูปข้างต้น เป็นกริยาที่ต้องท่องจำเท่านั้น เช่น run เปลี่ยนเป็น ran, forget เปลี่ยนเป็น forgot, go เปลี่ยนเป็น went
  • กริยาช่วย(auxiliary verb) จะเปลี่ยนรูปไปเลย เช่น verb to have เปลี่ยนเป็น had, verb to do เปลี่ยนเป็น did เป็นต้น ในขณะที่กริยาช่วยบางตัวจะเปลี่ยนรูปตามประธาน เช่น verb to be

การผันกริยา Verb to be ในประโยครูปอดีต

ประธานVerb to be
Iwere
Wewere
Youwere
Theywere
Hewas
Shewas
Itwas
สรุปโครงสร้าง Past Simple Tense
สรุปโครงสร้าง Past Simple Tense

ประโยคบอกเล่ารูปอดีต

คือ การเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นและจบลงแล้ว

โครงสร้างประโยคบอกเล่ารูปอดีต active voice

ประธาน + กริยาช่อง 2 (V.2)

ตัวอย่าง

This car hit a woman last week.
รถคันนี้ชนผู้หญิงคนหนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว

I already had breakfast.
ฉันทานอาหารเช้าแล้ว

โครงสร้างประโยคบอกเล่ารูปอดีต passive voice

กรรม + was/were, got + กริยาช่อง 3 (V.3)

ตัวอย่าง

She got hit by a car last week.
เธอถูกรถชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

This letter was written by Mark.
จดหมายฉบับนี้ถูกเขียนโดยมาร์ค

ประโยคปฏิเสธรูปอดีต

คือ ประโยคที่ปฏิเสธการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดในอดีต ประโยคปฏิเสธจะมีคำว่า not ที่แปลว่า “ไม่ได้…” กำกับอยู่ในประโยค และจะใช้ร่วมกับกริยารูปปกติที่ไม่ได้มีการผัน

เมื่อเราใช้ประโยคปฏิเสธที่มีคำว่า “not” ตามหลังคำกริยา บ่อยครั้งที่เราพบเจ้าของภาษาจะย่อคำนั้นให้สั้นลง เรียกว่า Contraction หรือ การย่อคำ ในประโยคอดีตกาลเราจะพบการย่อคำ เช่น wasn’t หรือ didn’t เป็นต้น

โครงสร้างประโยคปฏิเสธรูปอดีต active voice

ประธาน + did + not + คำกริยารูปปกติ (Verb Infinitive)

ตัวอย่าง

Jen did not go to the school yesterday.
เจนไม่ได้ไปโรงเรียนเมื่อวานนี้

Kyle didn’t ask for soup at the restaurant the day before yesterday.
ไคล์ไม่ได้ขอซุปที่ร้านอาหารเมื่อวานซืนนี้

โครงสร้างประโยคปฏิเสธรูปอดีต passive voice

ประโยค passive voice เช่นนี้จะมีโครงสร้าง 2 แบบ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ verb to be หรือ get ในประโยค

กรรม + was/were + not + กริยาช่อง 3 (V.3)

กรรม + did not + get + กริยาช่อง 3 (V.3)

ตัวอย่าง

Anne was not received a gift for the last Christmas.
Anne did not get a gift for the last Christmas.
แอนไม่ได้รับของขวัญสำหรับวันคริสต์มาสที่ผ่านมา

The restaurant was not ordered to close yesterday.
The restaurant did not get ordered to close yesterday.
ร้านอาหารไม่ได้ถูกสั่งให้ปิดเมื่อวานนี้

ประโยคคำถาม Yes/No รูปอดีต

คือ การถามเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต โดยต้องการคำตอบเป็นคำว่า ใช่/ไม่ใช่ (Yes/No) เท่านั้น

โครงสร้างประโยคคำถาม Yes/No รูปอดีต active voice

Did + ประธาน + คำกริยารูปปกติ (Verb Infinitive)?

Did + ประธาน + not + คำกริยารูปปกติ (Verb Infinitive)?

ตัวอย่าง

Did you make dinner already?
เธอเตรียมอาหารเย็นแล้วใช่ไหม

Did you not make dinner?
เธอไม่ได้เตรียมอาหารเย็นใช่ไหม

Did Nick tell you about the game last week?
นิคบอกคุณเกี่ยวกับเกมสัปดาห์ที่แล้วใช่ไหม

Did Nick not tell you about the game last week?
นิคไม่ได้บอกคุณเกี่ยวกับเกมสัปดาห์ที่แล้วใช่ไหม

โครงสร้างประโยคคำถาม Yes/No รูปอดีต passive voice

Were/Was + กรรม + กริยาช่อง 3 (V.3)

Were/Was + กรรม + not + กริยาช่อง 3 (V.3)?

ตัวอย่าง

Was Anne hit by the car last night?
แอนถูกรถชนเมื่อคืนใช่ไหม

Was Anne not hit by the car last night?
แอนไม่ได้ถูกรถชนเมื่อคืนใช่ไหม

Were cups cleaned well before you kept them in the drawer?
ถ้วยถูกล้างอย่างดีก่อนที่คุณจะเก็บมันในชั้นใช่ไหม

Were cups not cleaned well before you kept them in the drawer?
ถ้วยไม่ได้ถูกล้างอย่างดีก่อนที่คุณจะเก็บมันในชั้นใช่ไหม

ประโยคคำถาม Wh- question รูปอดีต

ประโยคคำถามแบบ Wh- question เป็นประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำถามดังต่อไปนี้

Whoใคร
Whomใคร
Whatอะไร
Whichอันไหน
Whenเมื่อไหร่
Whereที่ไหน
Whyทำไม
Howอย่างไร

โครงสร้างคำถาม Wh- question รูปอดีต

โครงสร้างนี้ใช้สำหรับคำถามที่เรารู้ว่าประธานเป็นใคร หรือเป็นสิ่งของสิ่งใดเท่านั้น

คำถาม + did + ประธาน + คำกริยารูปปกติ (Verb Infinitive)?

ตัวอย่าง

Whom did Joe meet yesterday?
โจพบใครเมื่อวานนี้

What did you do last night?
เมื่อคืนนี้คุณทำอะไร

When did the phone run out of battery?
โทรศัพท์แบตหมดไปเมื่อไหร่

Where did this bus stop?
รถบัสคันนี้จะไปหยุดที่ไหน

Why did he buy a new chair?
ทำไมเขาถึงซื้อเก้าอี้ตัวใหม่

โครงสร้างคำถาม Wh- question แบบ negative รูปอดีต

ประโยคคำถามเช่นนี้ เป็นการถามประธานถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ไม่ได้เกิดในอดีต

คำถาม + did + ประธาน + not +คำกริยารูปปกติ (Verb Infinitive)?

ตัวอย่าง

Whom did Joe not talk to yesterday?
ใครคือคนที่โจไม่พูดด้วยเมื่อวานนี้

What did you not do in the exam room?
อะไรคือสิ่งที่คุณไม่ได้ทำในห้องสอบ

When did the phone not turn on?
เมื่อไหร่ที่โทรศัพท์เปิดเครื่องไม่ได้

Where did the bus not stop?
รถบันคันนี้ไม่จอดที่ไหน

Why did he not buy a new chair yesterday?
ทำไมเขาไม่ซื้อเก้าอี้ตัวใหม่เมื่อวานนี้

โครงสร้างคำถาม Who รูปอดีต

ประโยคคำถาม Who ถูกใช้เมื่อมีการกระทำหรือเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ไม่ทราบประธานผู้กระทำเหตุการณ์นั้น

Who + กริยาช่อง 2 (V.2)?

ตัวอย่าง

Who dumped this trash yesterday?
ใครทิ้งขยะนี้เมื่อวาน

Who finished homework in time?
ใครทำการบ้านเสร็จทันเวลา

โครงสร้างคำถาม Who รูปอดีต แบบ negative

ประโยคคำถาม Who แบบ negative ถูกใช้เมื่อมีประธานที่เราไม่ทราบว่าเป็นใคร ไม่ได้กระทำหรืองดเว้นกระทำสิ่งใด

Who + did + not + คำกริยารูปปกติ (Verb Infinitive)?

ตัวอย่าง

Who did not submit homework in time?
ใครไม่ได้ส่งการบ้านทันเวลา

Who did not clean the table?
ใครไม่ได้ทำความสะอาดโต๊ะ

โครงสร้างคำถาม Which รูปอดีต

คำถามที่ใช้ Which เป็นการบอกให้เลือกอย่างสิ่งใด จะมีโครงสร้างดังต่อไปนี้

Which + กรรม + did + ประธาน + คำกริยารูปปกติ (Verb Infinitive)?

ตัวอย่าง

Which pencil did Penny choose?
ดินสอแท่งไหนที่เพนนีเลือก

Which street did you turn to?
ถนนเส้นไหนที่คุณเลี้ยวเข้าไป

โครงสร้างคำถาม Which รูปอดีต แบบ negative

คำถามเช่นนี้เป็นการถามประธานให้เลือกตอบสิ่งที่ประธานไม่ได้เลือกในอดีต

Which + กรรม + did + ประธาน + not + คำกริยารูปปกติ (Verb Infinitive)?

ตัวอย่าง

Which pencil did Penny not choose?
ดินสอแท่งไหนที่เพนนีไม่ได้เลือก

Which dish did you not eat?
อาหารจานไหนที่คุณไม่กิน

ในภาษาอังกฤษยังมี tense อื่นๆ อีกหลายแบบ

นักเรียนไม่ควรละเลยการเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เพราะไวยากรณ์ภาษาอังกฤษจะช่วยให้นักเรียนสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องเขียนภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนวิทยานิพนธ์ เขียนอีเมล เป็นต้น ปัจจุบันมีหนังสือเรียนภาษาอังกฤษมากมายที่เน้นสอนไวยากรณ์ และยังมีแบบฝึกหัดท้ายบทให้ทำอีกด้วย ช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น

อัพเดทล่าสุด: