ความรู้สึกภาษาอังกฤษ Emotions & Feelings แต่งประโยคอารมณ์

อารมณ์ ภาษาอังกฤษ คือคำว่า

emotion
อีโมชั่น
อารมณ์

ส่วนคำว่า ความรู้สึกภาษาอังกฤษ คือคำว่า

feeling
ฟีลลิ่ง
ความรู้สึก

การถาม และการตอบเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกภาษาอังกฤษเป็นบทเรียนแรกๆ ที่เราจะได้เรียนในคลาสเรียนภาษาอังกฤษกับครูภาษาอังกฤษ เช่น การถามว่า สบายดีไหมภาษาอังกฤษ ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งในการถามเกี่ยวกับอารมณ์หรือความรู้สึกเช่นกัน

ในภาษาอังกฤษ เราสามารถถามว่าสบายดีไหมได้หลายวิธี เช่น

How are you feeling today?
วันนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?

หรือ

What’s going on with you?
เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?

และ

Are you all right?
คุณสบายดีไหม?

โดยส่วนใหญ่คำตอบว่า ฉันสบายดีภาษาอังกฤษ จะพูดว่า

I am good, thanks!
ฉันสบายดี ขอบคุณนะ!

อย่าลืมว่าเราควรพูดต่อท้ายด้วยคำ ขอบคุณภาษาอังกฤษด้วย แต่หากเรารู้สึกไม่ได้สบายขนาดนั้น ในบทเรียนนี้มาดูกันว่าเราจะมีวิธีตอบสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างไร

ก่อนที่เราจะต้องตอบคำถาม “How are you feeling? ” หรือ “คุณรู้สึกอย่างไร” ต่อไปนี้เป็นโครงสร้างประโยคที่ใช้ตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้สึก

I am + ความรู้สึก
ฉันมี…

I feel + ความรู้สึก
ฉันรู้สึก…

ยกตัวอย่างเช่น :

I am happy.
ฉันมีความสุข

I feel happy.
ฉันรู้สึกมีความสุข

หรือเราจะตอบแค่คำบอกความรู้สึก แบบไม่ต้องสร้างเป็นประโยคก็ย่อมได้ เช่น

Happy!
มีความสุขจัง!

เมื่อเราตอบคำถามว่าเรารู้สึกอย่างไร อีกฝ่ายอาจจะตอบว่าเห็นด้วย คิดเหมือนกันภาษาอังกฤษกลับมาว่า “me too” หรือ “I do too” เพื่อแสดงว่าเขามีความรู้สึกแบบเดียวกับเรา

ต่อไปนี้เป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้อธิบายอารมณ์ความรู้สึกที่แบ่งออกเป็นสามกลุ่มตามความรู้สึกแบบต่างๆ ทั้งความรู้สึกที่ดีและไม่ดี รวมถึงความรู้สึกอื่นๆ ด้วย

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับความรู้สึกดีๆ

หากเราอารมณ์ดีหรือคิดบวก มีโอกาสสูงที่เราจะรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

1. Glad (แกลด) แปลว่า ดีใจ, ยินดี, เบิกบานใจ

ความหมาย : ความรู้สึกดีใจ (glad) หมายถึงเรามีความรู้สึกสนุกสนาน สุขใจหรือพึงพอใจ

เราจะรู้สึกดีใจเมื่อเรามีข่าวดีหรือมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นในชีวิต แม้เรื่องนั้นอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น เมื่อเราได้ยินหรือมีใครพูดคำชมภาษาอังกฤษ อย่างคำว่า เก่งมาก หรือยอดเยี่ยม เพียงเท่านี้ก็ทำให้เรารู้สึกดีใจแล้ว

Jane was glad when she found out that she had passed her English exam.
เจนรู้สึกดีใจเมื่อพบว่าเธอสอบผ่านข้อสอบภาษาอังกฤษ

2. Content (คอนเทนท์) แปลว่า พอใจ

ความหมาย : ความรู้สึกพอใจ (content) นั้นหมายความว่าเราพึงพอใจหรือมีความสุขกับสิ่งต่างๆที่เป็นอยู่ และไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว

He is content living in his hometown because his whole family and his best friend live there too.
เขาพอใจกับการใช้ชีวิตที่บ้านเกิดเพราะทั้งครอบครัวและเพื่อนสนิทของเขาก็อาศัยอยู่ที่นั่นด้วย

3. Elated (อิเลทิด) แปลว่า มีความสุขมาก, ปิติยินดี, ภูมิใจมาก, อิ่มอกอิ่มใจมาก

ความหมาย : ความปิติยินดี หรือ Elatedเกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกมีความสุขมากๆกับบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งความสุขนั้นมากกว่าระดับปกติ

เราจะรู้สึกปิติยินดีหรือ Elated ถ้าในที่สุดผู้ชายที่เราแอบชอบมาขอออกเดต หรือเมื่อการทำงานหนักของเราประสบผลสำเร็จ อีกคำที่มักสามารถใช้แทนคำว่า Elated ได้ นั่นคือคำว่า overjoyed ซึ่งแปลว่า ดีใจเหลือเกิน

I was elated when I won $100 for first place in the art competition.
ฉันรู้สึกภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันงานศิลปะเป็นจำนวนเงิน 100 ดอลล่าร์

4. Ecstatic (เอคสแทททิค) แปลว่า ปลาบปลื้มยินดี, ดีใจเหลือล้น

ความหมาย : หากคำว่า elated คือ ดีใจมากๆ, คำว่า ecstatic ก็เป็นความดีใจที่มากขึ้นไปอีก เป็นความรู้สึกมีความสุขสูงสุดที่เราสามารถรู้สึกได้อย่างเข้มข้น

เมื่อเราดีใจมากๆ เราจะรู้สึกเปี่ยมไปด้วยความสุข สำราญ เบิกบานใจ

Maria was ecstatic when she found out her parents were taking her to Paris this summer.
มาเรียดีใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าพ่อแม่ของเธอจะพาเธอไปปารีสในฤดูร้อนนี้

5. Excited (เอคไซทิด) แปลว่า ตื่นเต้นดีใจ

ความหมาย : ความตื่นเต้นดีใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (excited) คือ การตั้งตารอสิ่งนั้นด้วยความยินดีและเบิกบานใจ

She was excited to finally see her cousins after spending the summer abroad.
เธอรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ในที่สุดจะได้เจอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอเสียที หลังกลับจากพักร้อนที่ต่างประเทศ

6. Eager (อีเกอะ) แปลว่า กระตือรือร้น, ทะเยอทะยาน

ความหมาย : เราจะรู้สึกกระตือรือร้น หรือ Eager เมื่อเรากำลังตั้งตารอให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น หากเรารู้สึกมีความทะเยอทะยานหรือกระตือรือร้น เราจะมีแรงจูงใจมากขึ้นในการทำสิ่งต่างๆให้เป็นจริง

Rowena is so eager to learn English that she practices her speaking skills every day.
โรวีน่ามีความกระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมาก เธอจึงฝึกพูดทุกวัน

7. Proud (เพราด์) แปลว่า ภูมิใจในตัวเอง

ความหมาย : ความรู้สึกภูมิใจในตนเองอาจจะเกิดขึ้นจากการที่เราตั้งใจทำบางสิ่งบางอย่างอย่างหนักและผลลัพธ์ที่ได้ออกมาในเชิงบวก

I worked on that painting for two months, and I was very proud of how well it turned out.
ฉันวาดภาพชิ้นนั้นมาสองเดือนแล้ว และฉันก็ภูมิใจมากที่ทำผลงานออกมาดีได้ขนาดนี้

8. Tranquil (แทรงควิล) แปลว่า สงบสุข, ราบรื่น

ความหมาย : ความรู้สึกสงบ หรือ Tranquil คือภาวะที่จิตใจของเราสงบร่มเย็น ไม่ตื่นเต้น ใจเย็น นิ่งเฉยกับสิ่งต่างๆ

I felt very tranquil after walking along the beach at sunrise.
ฉันรู้สึกสงบสุขหลังจากที่เดินเล่นไปตามชายหาดตอนพระอาทิตย์ขึ้น

9. Hopeful (โฮพฟูล) แปลว่า มีหวัง, เต็มไปด้วยความหวัง

ความหมาย : การมีความหวังหมายความว่าเราต้องการให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น และเรารู้ว่ามีโอกาสสูงที่มันจะเกิดขึ้นด้วย

The coach was impressed by the team’s hard work and was quite hopeful that they would win the next game.
โค้ชรู้สึกประทับใจในการทำงานหนักของทีมและค่อนข้างคาดหวังว่าพวกเขาอาจจะชนะในเกมต่อไป

10. Confident (คอนฟิเดินท์) แปลว่า ซึ่งไว้วางใจ, มั่นใจ, กล้า, เชื่อมั่น

ความหมาย : หากเรารู้สึกมีความมั่นใจ (confident) นั่นแปลว่าเราเชื่อมั่นในตัวเองและเชื่อในความสามารถของเรา เราแน่ใจว่าเราเป็นใครและสามารถทำอะไรได้บ้าง

Jeet was pretty confident that he did well in the job interview.
จี๊ดค่อนข้างมั่นใจว่าการสัมภาษณ์งานครั้งนี้เขาทำได้ดี

11. Loved(บิลัฟวิด) แปลว่า ที่รัก, สุดที่รัก, เป็นที่รัก

ความหมาย : เราจะรู้สึกเป็นที่รัก (loved) เมื่อเรารู้ว่ามีคนที่คอยห่วงใยเราอยู่และต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา

When I was recovering in the hospital, the kind wishes from my friends and family made me feel loved.
ตอนที่ฉันพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล ความปรารถนาดีของเพื่อนและครอบครัวของฉันทำให้ฉันรู้สึกเป็นที่รักของทุกคน

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับความรู้สึกไม่ดี

หากมีอะไรมากวนใจหรือกำลังอารมณ์ไม่ดี คำศัพท์ต่อไปนี้อาจจะช่วยให้เราสามารถแสดงความรู้สึกเหล่านั้นได้

12. Sad (แซด) แปลว่า เศร้า, เสียใจ

ความหมาย : เมื่อมีเรื่องเลวร้ายหรือโชคไม่ดีกำลังเกิดขึ้นในชีวิตของเรา เราอาจจะรู้สึกเศร้าหรือไม่มีความสุข

She was sad when she heard that her best friend was moving out of town.
เธอเสียใจที่ได้ยินว่าเพื่อนสนิทของเธอกำลังจะย้ายออกนอกเมืองไป

13. Depressed (ดีเพรสด์) แปลว่า หดหู่ใจ, เศร้าสลด, ซึมเศร้า

ความหมาย : ถ้าเรารู้สึกเศร้ามากๆ และความเศร้านั้นยังคงอยู่กับเราเป็นระยะเวลาหนึ่ง อาจจะพูดได้ว่าเรากำลังรู้สึกหดหู่ซึมเศร้า สังเกตว่าความรู้สึกซึมเศร้าหรือ depressed เป็นความเจ็บป่วยทางจิตประเภทหนึ่งที่สามารถจะวินิจฉัยได้ แต่บางครั้งเจ้าของภาษาเองใช้คำนี้เพื่อบรรยายความรู้สึกที่เศร้ามากๆ (อย่างเช่น หากมีบางสิ่งที่ทำให้เสียใจมากๆ เราอาจจะพูดว่า “เรื่องนั้นมันน่าหดหู่จริงๆ” หรือ “That’s depressing

After her husband’s death, Rey was depressed for years.
หลังจากสามีของเธอเสียชีวิต เรย์ก็รู้สึกซึมเศร้ามานานหลายปี

14. Disgusted (ดิสกัสทิด) แปลว่า ซึ่งน่ารังเกียจ, รู้สึกสะอิดสะเอียน, ขยะแขยง

ความหมาย : เราจะรู้สึกสะอิดสะเอียน หรือ Disgusted เมื่อเราไม่ชอบบางสิ่งบางอย่างมากจริงๆ หรือสิ่งนั้นมันทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวหรือไม่สบายใจ

Harry was disgusted when he saw a lizard drinking from his glass of water.
แฮร์รี่รู้สึกขยะแขยงเมื่อเห็นจิ้งจกตัวหนึ่งกำลังดื่มน้ำจากแก้วของเขา

15. Guilty (กิลที) แปลว่า รู้สึกผิด

ความหมาย : เราอาจจะรู้สึกผิด (Guilty) ถ้าเราทำอะไรผิดหรือไม่ถูกต้องลงไป เช่น ทำให้ผู้อื่นรู้สึกแย่ เป็นต้น

Martha felt very guilty for shouting at the shopkeeper.
มาร์ธารู้สึกผิดมากที่ตะโกนใส่เจ้าของร้าน

16. Hurt (เฮิร์ท) แปลว่า เจ็บปวด, เจ็บใจ, เสียใจ

ความหมาย : ความรู้สึกเจ็บปวดเสียใจ หรือ Hurt คือ ความรู้สึกแย่และเจ็บปวดทั้งทางร่างกายหรือทางจิตใจ

He was very hurt when his parents forgot his birthday.
เขารู้สึกเสียใจมากตอนที่พ่อแม่ลืมวันเกิดของเขา

17. Lonely (โลนลี่) แปลว่า เหงา, โดดเดี่ยว, เปล่าเปลี่ยว, เดียวดาย

ความหมาย : หากเรารู้สึกเศร้าเสียใจและอยู่เพียงลำพัง เรามีโอกาสที่จะรู้สึกเหงา รู้สึกโดดเดี่ยว หรือ “lonely” จริงๆแล้วเราก็รู้สึกเหงาได้ ทั้งๆที่เราอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงกับใคร หรือในอีกกรณีคือเราอาจจะรู้สึกแปลกแยกด้วยก็ได้

After his girlfriend broke up with him, he was feeling very lonely.
หลังจากที่แฟนสาวบอกเลิกกับเขา เขาก็รู้สึกเหงามาก

18. Angry (แองกรี) แปลว่า โกรธ, ฉุนเฉียว

ความหมาย : เราอาจจะรู้สึกโกรธ หรือ Angry เมื่อพบว่าบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ดั่งใจ หรือมีใครทำอะไรผิดต่อเราหรือทำร้ายเรา

The captain of the ship was angry at the sailors for disobeying his orders.
กัปตันเรือโกรธกะลาสีเรือที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา

19. Jealous (เจลลัส) แปลว่า อิจฉา, หึงหวง, หวาดระแวง

ความหมาย : เราอาจจะรู้สึกอิจฉาใครบางคน เมื่อพวกเขามีสิ่งที่เราต้องการแต่เราไม่มี คำว่า “อิจฉา” ในภาษาอังกฤษอีกคำหนึ่งคือ “envy

Joe and Ben stopped being friends because Ben was too jealous of Joe’s successful career.
โจและเบ็นไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้ว เพราะเบ็นอิจฉาโจที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

20. Scared (สแคร์ด) แปลว่า กลัว, เข็ด, ตกใจ, ขวัญหนีดีฝ่อ, ตื่นตระหนก

ความหมาย : ความรู้สึกตกใจกลัว หรือ “scared” คือ ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความกังวลใจและความกลัว เราสามารถตกใจกลัวอะไรก็ได้ ตั้งแต่กลัวแมงมุมไปจนถึงการนั่งเครื่องบิน

She was very scared to swim in the lake after she saw a big snake near the water.
เธอกลัวที่จะว่ายน้ำในทะเลสาปมากหลังจากเคยเห็นงูตัวใหญ่อยู่บริเวณนั้น

21. Anxious (แองเชิส) แปลว่า ห่วงใย, กังวลใจ, เป็นทุกข์, ร้อนใจ, กระวนกระวาย

ความหมาย : เมื่อคิดว่ามีสิ่งเลวร้ายอาจจะเกิดขึ้นหรือเราไม่แน่ใจในสถานการณ์ต่างๆ เราจะเริ่มรู้สึกวิตกกังวล (Anxious)

While my brother was in the hospital, I was so anxious that I could not sleep.
ขณะที่น้องชายของฉันอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันรู้สึกกังวลมากจนนอนไม่หลับ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษอื่นๆเกี่ยวกับความรู้สึกทั่วไป

เราจะรู้สึกดีกว่ามั้ย ถ้าเราหาคำศัพท์ที่ช่วยให้เราสามารถแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อไปนี้เป็นคำศัพท์ที่จะช่วยให้เราสามารถอธิบายความรู้สึกเหล่านั้นพร้อมตัวอย่างประโยคที่ถูกต้อง

22. Confused (คันฟิวซท์) แปลว่า สับสน, งงงวย, ยุ่งเหยิง

ควาหมาย : เราจะรู้ว่าเรามีความรู้สึกนั้นได้ก็ต่อเมื่อเราไม่รู้ว่าถูกหรือผิด หรือทุกอย่างดูไม่มีความชัดเจนและไม่แน่นอน และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เราเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่า ”สับสน“ หรือ ”confused

The topic was very challenging, and the professor’s lesson confused me even more.
หัวข้อนี้ท้าทายมากและบทเรียนของอาจารย์ทำให้ฉันรู้สึกงงงวยมากขึ้นไปอีก

23. Surprised (เซอร์ไพรซท์) แปลว่า ประหลาดใจ, แปลกใจ, ตกตะลึง

ความหมาย : เราจะรู้สึกประหลาดใจ (Surprised) ก็ต่อเมื่อมีสิ่งที่เราไม่คาดคิด ไม่ได้วางแผนไว้หรือมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

She felt so surprised when her boyfriend brought home a puppy.
เธอรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อแฟนของเธอพาลูกสุนัขกลับมาที่บ้าน

24. Curious (คิวเรียส) แปลว่า อยากรู้อยากเห็น, สงสัย

ความหมาย : เราอาจจะรู้สึกสงสัยหรืออยากรู้อยากเห็น (curious) เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างน่าสนใจ และเราต้องการเรียนรู้หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม

Brad was curious about what was in the closet that his parents always kept locked.
แบรดอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่พ่อแม่ของเขาล็อคไว้เสมอ

25. Bored (บอร์ด) แปลว่า เบื่อ, ระอา, เหนื่อยหน่าย

ความหมาย : เราอาจจะรู้สึกเบื่อเมื่อไม่มีอะไรทำหรือไม่มีความสนใจกับอะไรบางอย่าง

คำว่า “bored” เป็นอีกหนึ่งเหมือนคำว่าเหมือนเดิมภาษาอังกฤษที่คนไทยมักใช้ผิด ที่เราชอบพูดว่า same-same ซึ่งไม่ถูกต้อง คำนี้เรามักพูดเป็น ”boring“ ซึ่งแปลว่า “น่าเบื่อ” ไม่ใช่ “รู้สึกเบื่อ”

และคำว่า เบื่อภาษาอังกฤษ ยังสามารถพูดอธิบายเพิ่มเติมได้ว่าน่าเบื่อขนาดไหนหรือใช้สำนวนเปรียบเทียบเพื่ออธิบายระดับความเบื่อของเราได้ด้วย เช่น It bores me to death. แปลว่า น่าเบื่อจนอยากตาย เป็นต้น

I felt so bored watching that movie that I fell asleep.
ฉันรู้สึกเบื่อหนังเรื่องนั้นจนฉันเผลอหลับไป

26. Nostalgic (นอสแทลจิค) แปลว่า โหยหา, อาลัยอาวรณ์, คิดถึงเรื่องในอดีต

ความหมาย : หากเรานึกถึงบางสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและปรารถนาที่จะย้อนเวลากลับไป (แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้) แสดงว่าเรากำลังรู้สึกคิดถึงความหลังครั้งเก่า หรือ nostalgic

Talking to his granddaughter about the trip they took together over 10 years ago made him feel very nostalgic.
การได้คุยกับหลานสาวเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยกันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทำให้เขาคิดถึงอดีตมาก

27. Indifferent (อินดิฟเฟอเรินท์) แปลว่า ไม่สนใจ, เมินเฉย, ไม่แยแส

ความหมาย : เราจะรู้สึก indifferent ต่อสิ่งใด หากเราไม่ได้รู้สึกดีหรือไม่ดีกับสิ่งนั้น หรือเราไม่แยแสหรือไม่สนใจมันนั่นเอง

I suggested that she learn to play an instrument in her free time, but she seemed indifferent to my idea.
ฉันแนะนำให้เธอเรียนดนตรีในเวลาว่าง แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจความคิดของฉันเลย

28. Strange (สแทรนจ์) แปลว่า แปลก, ประหลาด, ไม่คุ้นเคย, ผิดตา

ความหมาย : เราจะรู้สึก strange เมื่อมีความรู้สึกที่ผิดปกติหรือแตกต่างไปจากความรู้สึกปกติ

I felt strange when I walked into the party, and everyone just stopped talking.
ฉันรู้สึกแปลกเมื่อเดินเข้าไปในงานปาร์ตี้ แล้วทุกคนก็หยุดพูด

29. Ambivalent(แอมบิเวอเลินท์) แปลว่า ลังเล, ตัดสินใจไม่ได้, ครึ่งๆกลางๆ

ความหมาย : ความรู้สึกลังเล หรือ ambivalent คือ ความรู้สึกที่ผสมปนเปทั้งดีและไม่ดีเกี่ยวกับปัญหาหรือเราไม่สามารถเลือกระหว่างตัวเลือกสองตัวที่แตกต่างกันได้

He felt ambivalent about his new promotion—while he was happy about the better pay, he was worried about the longer office hours.
เขารู้สึกสับสนเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งใหม่ แม้ว่าเขาจะพอใจกับค่าจ้างที่ดีกว่าเดิม แต่เขาก็ยังกังวลเรื่องเวลาที่ต้องทำงานนานขึ้นด้วย

30. Baffled (แบฟเฟิลด์) แปลว่า ทำให้งุนงง, ยุ่งเหยิง

ความหมาย : หากเรารู้สึกงุนงงสับสนหรือ baffled แปลว่าเรากำลังสับสนและไม่เห็นวิธีแก้ปัญหา

The book was written in very advanced English, and I was completely baffled by the meaning of the story.
หนังสือเล่มนี้เขียนด้วยภาษาอังกฤษขั้นสูง และฉันรู้สึกงุนงงกับความหมายของเรื่องมาก

31. Pensive (เพนซิฟว์) แปลว่า ครุ่นคิด, รำพึง, วิตกกังวล

ความหมาย : หากเรากำลังคิดอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง แสดงว่าเรากำลังตกอยู่ในภวังค์หรืออารมณ์ครุ่นคิด

She was feeling very pensive after her parents asked her what she was planning on doing for the rest of her life.
เธอรู้สึกวิตกกังวลหลังจากที่พ่อแม่ของเธอถามว่าเธอวางแผนที่จะทำอะไรต่อไป

32. Wistful (วิสท์ฟูล) แปลว่า สะเทือนใจ, โหยหา, ปรารถนา, อยากได้

ความหมาย : ความรู้สึกโหยหา หรือ wistful คือ การพบว่าตัวเองมีความคิดที่จมดิ่งกับบางสิ่งบางอย่าง รวมทั้งอยู่ในอาการเศร้าและหดหู่

After the car accident, she felt wistful for weeks.
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอก็รู้สึกสะเทือนใจเป็นเวลาหลายสัปดาห์

สำนวนภาษาอังกฤษสำหรับการอธิบายอารมณ์ความรู้สึก

สำนวนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันจำนวนมากที่นำมาอธิบายอารมณ์ความรู้สึก บางสำนวนมีความหมายลึกซึ้ง ไม่สามารถแปลออกมาตรงตัวได้

33. To feel down(ทู ฟีล ดาวน์) แปลว่า

ความหมาย : to feel down เป็นสำนวนการพูดที่แปลว่า เศร้า, รู้สึกแย่

After hearing the bad news, I was feeling down, but my friends came over to cheer me up.
หลังจากได้ยินข่าวร้ายก็รู้สึกแย่ แต่เพื่อนของฉันก็เข้ามาให้กำลังใจ

34. To feel blue (ทู ฟีล บลู) แปลว่า

ความหมาย : เหมือนกับสำนวนก่อนหน้านี้ To feel blue แปลว่า ความรู้สึกเศร้า

He’s been feeling blue ever since he came back home from Australia.
เขารู้สึกเศร้าใจนับตั้งแต่เขาจากออสเตรเลียกลับมาถึงบ้าน

35. To be over the moon (ทู ฟีล โอเวอะ เดอะ มูน) แปลว่า มีความสุขมาก

ความหมาย : มึความสุขมาก

She was over the moon when she saw her childhood friend after so many years.
เธอดีใจมากเมื่อได้เจอเพื่อนสมัยเด็กๆของเธอหลังจากผ่านมานานหลายปี

36. To see red (ทู ซี เรด) แปลว่า โกรธมาก

ความหมาย : โกรธมาก

His face suddenly changed and he began to see red.
ทันใดนั่นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป และเริ่มโกรธจนหน้าแดง

สำหรับการอธิบายความรู้สึกนั้น อาจจะมีคำศัพท์แสดงอีกหลายคำที่ความหมายขึ้นอยู่กับบริบทสถานการณ์ หรือน้ำเสียงของผู้พูด เช่น คำว่า You deserve it แปล ภาษาอังกฤษ ก็เป็นได้ทั้งคำชม หรือคำด่าทอ แล้วแต่ว่าสถานการณ์นั้นเกิดอะไรขึ้น และน้ำเสียงผู้พูดแสดงความยินดี หรือแสดงความขุ่นเคืองใจ เป็นต้น

อัพเดทล่าสุด: