วันทั้ง 7 วันในสัปดาห์ภาษาญี่ปุ่น วิธีเรียงวันเดือนปีภาษาญี่ปุ่น
บทเรียนที่เกี่ยวกับบทสนทนาในชีวิตประจำวันนับเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกๆที่เราจะได้เรียนในคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น ตั้งแต่ตัวอักษรญี่ปุ่น วิธีกล่าวทักทายภาษาญี่ปุ่น คำศัพท์เกี่ยวกับวัน, เดือน, ปีหรือการบอกเวลาภาษาญี่ปุ่นนั้นเป็นการเรียนภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานที่จำเป็นต้องรู้ ต่อไปนี้เราจะมาดูกันว่าการบอกวัน เดือน ปี ในภาษาญี่ปุ่นบอกได้อย่างไรบ้าง
คันจิ | ฮิรางานะ | โรมันจิ | คำอ่านภาษาไทย | คำแปลภาษาไทย |
---|---|---|---|---|
日曜日 | にちようび | nichiyoubi | นิจิโย่บิ | วันอาทิตย์ |
月曜日 | げつようび | getsuyoubi | เกะทสึโย่บิ | วันจันทร์ |
火曜日 | かようび | kayoubi | ขะโย่บิ | วันอังคาร |
水曜日 | すいようび | suiyoubi | ซุยโย่บิ | วันพุธ |
木曜日 | もくようび | mokuyoubi | โมะคุโย่บิ | วันพฤหัสบดี |
金曜日 | きんようび | kinyoubi | คิงโย่บิ | วันศุกร์ |
土曜日 | どようび | doyoubi | โดะโย่บิ | วันเสาร์ |
วันในสัปดาห์ภาษาญี่ปุ่น
แม้ภาษาญี่ปุ่นจะได้รับอิทธิพลจากภาษาจีนค่อนข้างมาก แต่การบอกวันในสัปดาห์ภาษาญี่ปุ่นจะต่างจจากการบอกวันในสัปดาห์ภาษาจีน ในขณะที่การสร้างคำสำหรับวันในภาษาจีนประกอบด้วย “วัน+ลำดับที่” วันในภาษาญี่ปุ่นจะประกอบด้วยคำนามและคำบ่งบอกวัน เหมือนการสร้างคำสำหรับวันในภาษาไทย ที่เกิดจากคำว่า “วัน+อาทิตย์” เป็นต้น มาดูกันว่าวันในสัปดาห์ญี่ปุ่นนั้นเขียนอย่างไร มีเทคนิคการจำง่ายๆ รวมถึงได้รู้ด้วยว่าอักษรคันจิของวันในสัปดาห์มีความหมายและที่มาอย่างไร
วันอาทิตย์ ภาษาญี่ปุ่น 日曜日
มาดูความหมายของตัวอักษรคันจิของคำว่า 日曜日 (นิจิโย่บิ) ทีละตัวกัน
日 (นิ) หมายถึง “พระอาทิตย์”
曜 (โย) หมายถึง “วันในสัปดาห์”
日 (บิ) หมายถึง “วัน”
อักษรคันจิ 日 มีสองความหมาย หมายถึง ”พระอาทิตย์” ก็ได้หรือจะหมายถึง ”วัน” ก็ได้ ทั้งสองความหมายมีวิธีการอ่านแตกต่างกัน ในที่นี้คันจิทั้งสามตัวหากแปลตามตัวอักษรจะหมายถึง “วันอาทิตย์” ในหลายๆภาษา ศัพท์สำหรับวันในสัปดาห์มักมีที่มาจากเรื่องเล่านิยายปรัมปราและความรู้ทางดาราศาสตร์ ดังนั้นหากจำ日ว่าคือพระอาทิตย์ได้ เราก็จะจำคำว่า 日曜日แปลว่าวันอาทิตย์ได้เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ
วันจันทร์ ภาษาญี่ปุ่น 月曜日
月曜日 (เกะทสึโย่บิ) ตัวแรกคืออักษรคันจิ 月 ที่สามารถอ่านได้หลายแบบ จะอ่าน ”เกะทสึ” หรือ ”สึกิ” หรืออ่านแบบอื่นก็ได้ โดย 月 มีความหมายว่า “พระจันทร์” เพราะฉะนั้น 月曜日 ก็หมายถึง วัน-จันทร์ เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษเพราะคำว่า Monday ก็มาจากคำว่า moon เหมือนกัน
วันอังคาร ภาษาญี่ปุ่น 火曜日
อักษรคันจิ 火 ในคำว่า 火曜日 (ขะโย่บิ) หมายถึง “ไฟ” และยังมีความหมายเกี่ยวข้องกับดาวอังคาร หรือ 火星 (ขะเซย์)ในภาษาญี่ปุ่นด้วย
ในภาษาอังกฤษวันอังคาร คือ Tuesday ซึ่งมาจากเทพปกรณัมแห่งนอร์ส มีนามว่า ”เทียร์” ซึ่งเป็นเทพเจ้าในความเชื่อของชาวสแกนดิเวียน และเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามเหมือนกับเทพเจ้าของชาวโรมันที่มีนามว่า “มาร์ส” ซึ่งทำให้คำว่า Tuesday ในภาษาอังกฤษและคำว่า 火曜日 ในภาษาญี่ปุ่น มีความเชื่อมโยงกันดังนี้ Tuesday วันอังคาร → Tyr เทพเจ้าเทียร์ → Mars เทพเจ้ามาร์ส → 火星 (ขะเซย์) ดาวอังคาร → 火曜日 (ขะโย่บิ) วันอังคาร อาจจะจำเป็นประโยคง่ายๆว่า เทพเจ้ามาร์สคือเทพแห่งสงครามซึ่งลุกเป็น ”ไฟ” (火) ในวันอังคาร (火曜日)
วันพุธ ภาษาญี่ปุ่น 水曜日
水曜日 (ซุยโย่บิ) คำนี้ใช้อักษรคันจิ 水 (ซุย หรือ มิสึ) หมายถึง “น้ำ” ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับดาวพุธ ในภาษาญี่ปุ่นคือ 水星 (ซุยเซย์) ในภาษาอังกฤษ คำว่า Wednesday มาจากเทพเจ้านามว่า โอดิน Odin (บ้างก็เรียกว่าโวเดน Woden) เป็นเทพเจ้าของชาวสแกนดิเนเวียน และเป็นเทพเจ้าที่เป็นผู้นำวิญญาณเช่นเดียวกับเทพเจ้าเมอร์คิวรี่ (เป็นชื่อที่มีความหมายว่าดาวพุธ)
วันพฤหัสบดี ภาษาญี่ปุ่น 木曜日
อักษรคันจิ 木 ใน 木曜日 (โมะคุโย่บิ) หมายถึง ”ไม้” และยังเชื่อมโยงกับคำว่า Jupiter หรือดาวพฤหัสบดี ในภาษาญี่ปุ่นคือ 木星 (โมะคุเซย์)
เทพเจ้าโรมันนามว่า Jupiter เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าเหมือนกับเทพเจ้า “ธอร์” ในภาพยนตร์เรื่องมาร์เวล ซึ่งชื่อนี้ก็เป็นที่มาของคำว่า Thursday หรือวันพฤหัสบดีนั่นเอง
วันศุกร์ ภาษาญี่ปุ่น 金曜日
วันศุกร์ 金曜日ใช้อักษรคันจิ 金 (kin) ซึ่งมีความหมายว่า “ทอง” หรือ ”เงินตรา” จำเป็นประโยคง่ายๆว่า “วันศุกร์คือวันเงินเดือนออก” สั้นๆเท่านี้ก็จำได้ไม่ลืม ส่วนที่มาของคำว่าวันศุกร์ในภาษาญี่ปุ่นมาจาก 金星 (คินเซย์) หรือดาววีนัส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเธอคือเทพเจ้าโรมัน ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก ความงามและความเจริญรุ่งเรือง ความเชื่อในฝั่งของชาวสแกนดิเนเวียน เธอเปรียบเสมือนภริยาของเทพเจ้าโอดิน นามว่า Frigg ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า Friday หรือวันศุกร์นั่นเอง
วันเสาร์ ภาษาญี่ปุ่น 土曜日
วันสุดท้ายของสัปดาห์ คือ 土曜日 (โดะโย่บิ) อักษร 土 (โดะ, สึจิ) หมายถึง “ดิน” หรือ “พื้นดิน” ซึ่งยึดโยงกับคำว่าดาวเสาร์หรือ Saturn ในภาษาอังกฤษ และ 土星 (โดะเซย์) ในภาษาญี่ปุ่น คำนี้มีที่มาเหมือนกับคำว่าวันเสาร์ในภาษาอังกฤษ เพราะ Saturday ก็มาจากคำว่า Saturn (ดาวเสาร์) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการเพาะปลูกที่เกี่ยวข้องกับดินหรือพื้นดินเช่นกัน
วิธีจำวันในสัปดาห์ภาษาญี่ปุ่นแบบธาตุ
ไม่ใช่ทุกคนจะสนใจเรื่องความหมายของคำ และก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้เรื่องเทพเจ้าซึ่งมักใช้เป็นที่มาของคำสำหรับวันในสัปดาห์ในภาษาอังกฤษ ดังนั้นวิธีจำวันในสัปดาห์ญี่ปุ่นโดยใช้ความรู้ดังกล่าวอาจจะไม่ช่วยอะไร
มีอีกวิธีหนึ่งที่ใช้จำวันในภาษาญี่ปุ่นได้ คือจำวันให้สัมพันธ์กับธาตุที่ปรากฏในคำของแต่ละวันนั่นเอง สังเกตดูดีๆ จะพบว่าในแต่ละวันของสัปดาห์จะมีคำที่เป็นองค์ประกอบของธาตุในธรรมชาติอยู่ด้วย
- 日曜日 (วันอาทิตย์ ) ใช้สัญลักษณ์ 日 คือ พระอาทิตย์
- 月曜日 (พระจันทร์) ใช้สัญลักษณ์ 月 คือ พระจันทร์
- 火曜日 (วันอังคาร) ใช้สัญลักษณ์ 火 คือ ไฟ
- 水曜日 (วันพุธ) ใช้สัญลักษณ์ 水 คือ น้ำ
- 木曜日 (วันพฤหัสบดี) ใช้สัญลักษณ์ 木 คือ ไม้
- 金曜日 (วันศุกร์) ใช้สัญลักษณ์ 金 คือ ทอง / โลหะ
- 土曜日 (วันเสาร์) ใช้สัญลักษณ์ 土 คือ พื้นดิน / ปฐพี
เดือนในภาษาญี่ปุ่น
เดือนในภาษาญี่ปุ่น ได้แก่
คันจิ | ฮิรางานะ | โรมันจิ | คำอ่านภาษาไทย | คำแปลภาษาไทย |
---|---|---|---|---|
一月 | いちがつ | ichigatsu | อิจิกะทสึ | มกราคม |
二月 | にがつ | nigatsu | นิกะทสึ | กุมภาพันธ์ |
三月 | さんがつ | sangatsu | ซังกะทสึ | มีนาคม |
四月 | しがつ | shigatsu | ชิกะทสึ | เมษายน |
五月 | ごがつ | gogatsu | โก๊ะกะทสึ | พฤษภาคม |
六月 | ろくがつ | rokugatsu | โระคุกะทสึ | มิถุนายน |
七月 | しちがつ | shichigatsu | ชิจิกะทสึ | กรกฎาคม |
八月 | はちがつ | hachigatsu | ฮะจิกะทสึ | สิงหาคม |
九月 | くがつ | kugatsu | คุกะทสึ | กันยายน |
十月 | じゅうがつ | juugatsu | จูกะทสึ | ตุลาคม |
十一月 | じゅういちがつ | juuichigatsu | จูอิจิกะทสึ | พฤศจิกายน |
十二月 | じゅうにがつ | juunigatsu | จูนิกะทสึ | ธันวาคม |
วันที่ 1-31 ในเดือนภาษาญี่ปุ่น
สำหรับวันของเดือนในภาษาญี่ปุ่นนั้นจะมีรูปแบบบางอย่างที่ไม่แน่นอน แม้ว่าส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบเดียวกันกับคำศัพท์ของ ”เดือน” ในภาษาญี่ปุ่นก็ตาม โดยสำหรับวันจะมีรูปแบบหลักๆคือ “ตัวเลข + 日 (นิจิ)” อักษรคันจิที่หมายถึงวันทั้ง 31 วันของเดือนในภาษาญี่ปุ่นมีดังต่อไปนี้
คันจิ | ฮิรางานะ | โรมันจิ | คำอ่านภาษาไทย | คำแปลภาษาไทย |
---|---|---|---|---|
一日 | ついたち | tsuitachi | ทสึอิทะจิ | วันที่ 1 |
二日 | ふつか | futsuka | ฟุทสึคะ | วันที่ 2 |
三日 | みっか | mikka | มิคคะ | วันที่ 3 |
四日 | よっか | yokka | ยคคะ | วันที่ 4 |
五日 | いつか | itsuka | อิทสึคะ | วันที่ 5 |
六日 | むいか | muika | มุยคะ | วันที่ 6 |
七日 | なのか | nanoka | นะโนะคะ | วันที่ 7 |
八日 | ようか | yôka | โย่คะ | วันที่ 8 |
九日 | ここのか | kokonoka | โคะโคะโนะคะ | วันที่ 9 |
十日 | とおか | tôka | โท่คะ | วันที่ 10 |
十一日 | じゅういちにち | jûichi-nichi | จูอิจินิจิ | วันที่ 11 |
十二日 | じゅうににち | jûni-nichi | จูนินิจิ | วันที่ 12 |
十三日 | じゅうさんにち | jûsan-nichi | จูซังนิจิ | วันที่ 13 |
十四日 | じゅうよっか | jûyokka | จูยคคะ | วันที่ 14 |
十五日 | じゅうごにち | jûgo-nichi | จูโกะนิจะ | วันที่ 15 |
十六日 | じゅうろくにち | jûroku-nichi | จูโระคุนิจิ | วันที่ 16 |
十七日 | じゅうななにち | jûshichi-nichi | จูน่ะนะนิจิ | วันที่ 17 |
十八日 | じゅうはちにち | jûhachi-nichi | จูฮะนิจิ | วันที่ 18 |
十九日 | じゅうくにち | jûku-nichi | จูคุนิจิ | วันที่ 19 |
二十日 | はつか | hatsuka | ฮะทสึคะ | วันที่ 20 |
二十一日 | にじゅういちにち | nijûichi-nichi | นิจูอิจินิจิ | วันที่ 21 |
二十二日 | にじゅうににち | nijûni-nichi | นิจูนินิจิ | วันที่ 22 |
二十三日 | にじゅうさんにち | nijûsan’-nichi | นิจูซังนิจิ | วันที่ 23 |
二十四日 | にじゅうよっか | nijûyokka | นิจูยคคะนิจิ | วันที่ 24 |
二十五日 | にじゅうごにち | nijûgo-nichi | นิจูโกะนิจิ | วันที่ 25 |
二十六日 | にじゅうろくにち | nijûroku-nichi | นิจูโระคุนิจิ | วันที่ 26 |
二十七日 | にじゅうななにち | nijûshichi-nichi | นิจูน่ะนะนิจิ | วันที่ 27 |
二十八日 | にじゅうはちにち | nijûhichi-nichi | นิจูฮะจินิจิ | วันที่ 28 |
二十九日 | にじゅうくにち | nijûku-nichi | นิจูคุนิจิ | วันที่ 29 |
三十日 | さんじゅうにち | sanjû-nichi | ซังจูนิจิ | วันที่ 30 |
三十一日 | さんじゅういちにち | sanjûichi-nichi | ซังจูอิจินิจิ | วันที่ 31 |
วันที่ญี่ปุ่นเรียงยังไง
การเรียงวันที่ภาษาญี่ปุ่นญี่ปุ่นมีจะเรียงไม่เหมือนการเขียนในภาษาไทย ที่เรียงจากเล็กไปใหญ่ คือ วัน เดือน ปี การเรียงวันที่ภาษาญี่ปุ่นจะเรียงจากใหญ่ไปเล็ก เช่น
21 ตุลาคม 2022
(ภาษาไทย)
2022年10月21日
(ภาษาญี่ปุ่น)
คำว่า 年 (nen) แปลว่า “ปี”
คำว่า 月 (tsu) แปลว่า “เดือน”
คำว่า 日 (nichi) แปลว่า “วันที่”
วันนี้, เมื่อวาน, พรุ่งนี้ ภาษาญี่ปุ่น
ในหลายๆสถานการณ์ เราจำเป็นต้องรู้ว่า “วันนี้” หรือ ”เดือนหน้า” หรือ ”สองปีที่แล้ว” ในภาษาญี่ปุ่นพูดว่าอย่างไร ต่อไปนี้เป็นคำศัพท์เกี่ยวกับวันในภาษาญี่ปุ่นที่น่าสนใจและจำเป็นต้องรู้
คำเกี่ยวกับวันที่ทั่วไป
- วัน : 日 (hi)(ฮิ)
- แต่ละวัน : 日々 (hibi)(ฮิบิ)
- สัปดาห์ : 週間 (shuukan)(ชูคัง)
- สุดสัปดาห์ : 週末 (shuumatsu)(ชูมัทสึ)
- เดือน : 月 (getsu)(เกะทสึ)
- ปี : 年 (toshi, nen)(โทะชิ, เน็น)
คำเกี่ยวกับปัจจุบัน อดีต และอนาคต
- 先 (sen หรือ saki)(เซ็น หรือ ซากิ) หมายถึง “ก่อน, ก่อนหน้า”
- 今 (ima หรือ kon)(อิมะ หรือ คง) หมายถึง “ตอนนี้” หรือ “ปัจจุบัน”
- 来 (rai)(รัย) หมายถึง “กำลังมา”
- 後 (ato หรือ go)(อะโตะ หรือ โกะ) หมายถึง “ภายหลัง”
- 前 (mae)(มาเอะ) หมายถึง “ก่อนหน้า”
เราใช้คำศัพท์ที่กล่าวมาแล้วนี้ ช่วยในการพูดอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน อดีตและอนาคตได้อย่างหลากหลายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น
วัน :
- วันนี้ : 今日 (kyou)(เคียว)
- พรุ่งนี้ : 明日 (ashita)(อชิตะ)
- เมื่อวานนี้ : 昨日 (kinou)(คินู)
- เมื่อวานซืน : 一昨日 (ototoi)(โอะโตะโตอิ)
- วันมะรืน : 明後日 (asatte)(อะซัทเตะ)
- ทุกวัน : 毎日 (mainichi)(มันนิชิ)
- สามวันที่แล้ว : 三日前 (mikkamae)(มิกกะมาเอะ)
- วันก่อน : 先の日 (saki no hi)(ซากิ โนะ ฮิ) หรือ 先日 (senjitsu)(เซ็นจิทสึ)
สัปดาห์ :
- สัปดาห์นี้ : 今週 (konshuu)(คนชู)
- สัปดาห์ที่แล้ว : 先週 (senshuu)(เซ็นชู)
- สัปดาห์หน้า : 来週 (raishuu)(รัยชู)
- อีกสองสัปดาห์ถัดไป : 再来週 (saraishuu)(ซารัยชู)
- ทุกสัปดาห์ : 毎週 (maishuu)(มัยชู)
- ทุกสุดสัปดาห์ : 毎週末 (maishuumatsu)(มัยชูมัทสึ)
- หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป : 一週間前 (isshuukan mae)(อิสชูคัง มาเอะ)
- สามสัปดาห์ต่อมา : 三週間後 (sanshuukan go)(ซังชูคัง โกะ)
เดือน :
- เดือนนี้ : 今月 (kongetsu)(คนเกะทสึ)
- เดือนที่แล้ว : 先月 (sengetsu)(เซ็นเกะทสึ)
- เดือนหน้า : 来月 (raigetsu)(รัยเกะทสึ)
- ทุกเดือน : 毎月 (maitsuki)(มัยสึกิ)
- สองสามเดือน : 数ヶ月 (suukagetsu)(ซูคะเกะทสึ)
- ปลายเดือน : 月末 (getsumatsu)(เกะทสึมัทสึ)
- สองเดือนที่แล้ว : 二ヶ月前 (nikagetsu mae)(นิคะเกะทสึ มาเอะ)
- สองสามเดือนต่อมา : 数ヶ月後 (suukagetsu go)(ซูคะเกะทสึ โกะ)
ปี :
- ปีนี้ : 今年 (kotoshi)(โคะโตะชิ)
- ปีที่แล้ว : 去年 (kyonen)(เคียวเน็น)
- ปีหน้า : 来年 (rainen)(รัยเน็น)
- สองปีที่แล้ว : 一昨年 (ototoshi)(โอะโตะโตะชิ)
- สองปีต่อมา : 再来年 (sarainen)(ซารัยเน็น)
- ทุกปี : 毎年 (maitoshi)(มัยโตะชิ)
- ไม่กี่ปีก่อนหน้า / สองสามปีผ่านไป : 数年前 (suunen mae)(ซูเน็น มาเอะ)
- ไม่กี่ปีต่อมา : 数年後 (suunen go)(ซูเน็น โกะ)
สำหรับคำว่า 日々 (ฮิบิ) ซึ่งมีความหมายว่าวันหรือแต่ละวัน มักจะถูกใช้ในบทกวีและความหมายจะเป็นทำนองว่า “วันแล้ววันเล่า” มากกว่าหมายถึง “วันหรือแต่ละวัน” ดังนั้นโดยปกติหากเราจะพูดถึงวัน เราจึงใช้คำว่า日(ฮิ)อย่างเดียว แล้วใส่ตัวเลขกำกับเพื่อระบุวันที่ต้องการ
คุณเองก็สามารถเก่งภาษาญี่ปุ่นได้แม้ว่าคุณจะเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองก็ตาม มีเทคนิคเรียนภาษาญี่ปุ่นหลายวิธีให้คุณได้เลือกใช้ และวิธีฝึกภาษาญี่ปุ่นในทุกๆ วัน การเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่ใช่การเรียนภาษาเท่านั้น แต่คุณควรเรียนวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วย เช่น การโค้งแบบญี่ปุ่น การเขียนการ์ดเน็นกะโจในวันปีใหม่ญี่ปุ่น เป็นต้น เพราะมันจะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้ภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น ส่งผลให้คุณใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หากคุณสนใจเรียนพูดภาษาญี่ปุ่นให้เหมือนคนญี่ปุ่น เรามีบทความสอนภาษาญี่ปุ่นอีกหลายบทความที่ช่วยให้คุณใช้ภาษาญี่ปุ่นได้เหมือนคนญี่ปุ่น เช่น การบอกลาแบบญี่ปุ่น, การอวยพรขอให้โชคดีภาษาญี่ปุ่น หรือการพูดขอบคุณภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น ถ้าคุณมีแฟนคนญี่ปุ่น ก็อย่าลืมดูประโยคบอกรักภาษาญี่ปุ่นซึ้งๆ วิธีบอกแฟนว่าคิดถึงภาษาญี่ปุ่นไว้คุยกับแฟนให้ชื่นใจ รวมถึงวิธีตั้งชื่อเล่นแฟนภาษาญี่ปุ่นน่ารักๆ ที่ไว้ใช้เรียกกัน 2 คนก็ดี สุดท้ายนี้หากคุณกำลังจะเดินทางไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมดูวิธีถามทางภาษาญี่ปุ่น และวิธีอ่านที่อยู่ภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้แน่ใจว่าไปไหนก็ไม่หลงได้เลย