การเขียนที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ เราจะเขียนเมื่อต้องการส่งไปรษณีย์ หรือเขียนที่อยู่บนเว็บไซต์หรือประวัติส่วนตัว เช่น resume สมัครงาน เป็นต้น
หากต้องการส่งไปรษณีย์ สิ่งแรกที่ต้องเขียนคือ ชื่อ-นามสกุลผู้รับก่อน จากนั้นจึงเริ่มเขียนที่อยู่ โดยเรียงลำดับดังต่อไปนี้
บ้านเลขที่ — House No.
หมู่ที่ — Village No. (Moo)
ซอย — Alley (Soi)
แยก — Junction (Yaek)
ชื่อหมู่บ้าน — Village Name
ถนน — Road
แขวง/ตำบล — Sub-district
เขต/อำเภอ — District
จังหวัด — Province
ประเทศ — Country (หากส่งมาจากต่างประเทศ)
รหัสไปรษณีย์ — Postcode
กรณีเป็นการส่งภายในประเทศไทย ซึ่งคนส่งพัสดุก็เป็นคนไทย เราสามารถเขียนที่อยู่เป็นคำทับศัพท์ (คำที่อยู่ในวงเล็บ)ได้ ส่วนบ้านเลขที่ หรือ House No. จะเขียนหรือไม่ต้องเขียนก็ได้ เพราะเวลาเขียนภาษาไทย บ่อยครั้งที่เราไม่ได้เขียนคำว่าบ้านเลขที่ แต่จะเขียนตัวเลขบ้านเลยที่ลงไปเลย เช่น
บ้านเลขที่ 33/6 หมู่ 5
33/6 หมู่ 5
ตัวอย่างการเขียนที่อยู่ผู้รับเป็นภาษาอังกฤษ
House No. 71, ABC Apartment, Sukhumvit 2 Alley, Sukhumvit Road, Klongtoey District, Bangkok, 10110
กรณีเขียนทับศัพท์
(House No.) 71, ABC Apartment, Soi Sukhumvit 2, Sukhumvit Road, Klongtoey District, Bangkok, 10110
กรณีเขียนเพียงชื่อเฉพาะของที่อยู่เท่านั้น
71, ABC Apartment, Sukhumvit 2, Sukhumvit Road, Klongtoey, Bangkok, 10110
สำหรับการเขียนที่อยู่ผู้รับเมื่อผู้รับอยู่ต่างประเทศ แต่ละประเทศอาจมีการเรียกพื้นที่ต่างกันบ้าง แต่เมื่อเขียนเป็นภาษาอังกฤษแล้ว จะยังคงรูปแบบที่คล้ายกัน โดยเรียงลำดับต่อไปนี้
House No. — บ้านเลขที่
Street/Road name — ชื่อถนน
Town/City — ชื่อเมือง
County — เขต
Postcode — รหัสไปรษณีย์
Country — ประเทศ (กรณีพัสดุถูกส่งมาจากประเทศอื่นๆ)
ตัวอย่างการจ่าหน้าซองจดหมาย/พัสดุต่างประเทศ
351A Caledonian Rd, Islington, London, N1 1XH, United Kingdom
คำอธิบาย
351A — บ้านเลขที่
Caledonian — ชื่อถนน
Islington — ชื่อเมือง
London (หรือ City of London) — เขตลอนดอน
N1 1XH — รหัสไปรษณีย์
United Kingdom — ชื่อประเทศ
การส่งพัสดุไปต่างประเทศ จำเป็นต้องเช็คชื่อและที่อยู่ผู้รับให้ดี หากเกิดความผิดพลาด การตามของอาจไม่ง่ายเหมือนของที่ส่งภายในประเทศ
การตอบคำถามเกี่ยวกับที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ จะใช้คำที่เรียกว่า บุพบท ที่แปลว่า “ที่” คำบุพบทที่นำมาใช้ในการบอกสถานที่หรือที่อยู่ คือ in, on, at
in ใช้เมื่อต้องการบอกสถานที่กว้างๆ ไม่ละเอียด หรือสถานที่ทั่วไป เช่น จังหวัด, ประเทศ เป็นต้น
ตัวอย่างการใช้ in ในประโยค
I have lived in Thailand for 40 years. (ฉันอาศัยอยู่ในประเทศไทยมา 40 ปีแล้ว)
on เป็นการลงรายละเอียดสถานที่ลงมาอีก แต่ยังไม่เฉพาะเจาะจง เช่น ชื่อถนน สถานที่บนเกาะ หรือ สถานที่ติดกับแม่น้ำ เป็นต้น
ตัวอย่างการใช้ on ในประโยค
My house is on Sukhumvit Rd in Klongtoey district. (บ้านของฉันอยู่บนถนนสุขุมวิทในเขตคลองเตย)
London is on the River Thames. (ลอนดอนอยู่บนแม่น้ำ Thames)
at เป็นการบอกรายละเอียดสถานที่แบบเฉพาะเจาะจง หรือที่อยู่ในรายละเอียดปลีกย่อย
ตัวอย่างการใช้ at ในประโยค
Come to meet me at 71, ABC Apartment, Soi Sukhumvit 2. (มาพบฉันที่บ้านเลขที่ 71 อพาร์ทเม้นท์ ABC ซอยสุขุมวิท 2)
มีวิธีเลือกชุดว่ายน้ำสำหรับผู้หญิงไหมคะ?
ชุดว่ายน้ำผู้ชายควรเลือกแบบไหนดีครับ?
คําอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษมีอะไรบ้าง?
แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษยังไงดี?
เราแยกกีต้าร์ออกเป็นประเภทยังไงดีครับ? มือใหม่ควรเล่นแบบไหน?
มีเกมส์อะไรช่วยให้เด็กๆบวกเลขได้บ้างครับ?
พูดให้กำลังใจในภาษาอังกฤษได้ยังไงบ้างคะ?