สรุปหลักการใช้ verb to have (have, has, had) ใช้ยังไง แปลว่าอะไร

คำกริยาที่เรียกว่า “verb to have” เป็นคำกริยาพื้นฐานที่คนเรียนภาษาอังกฤษกับครูภาษาอังกฤษต้องรู้ “verb to have” มีทั้งหมด 4 รูป ดังต่อไปนี้

have, has, having, had

“verb to have” ตามคำแปลหลักๆ จะมีความหมายว่า “มี” หรือ “กิน” และสามารถทำหน้าที่เป็นได้ทั้งกริยาหลัก (main verb) และกริยาช่วย (auxiliary verb) ได้อีกด้วย

ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้การใช้ have/has ให้ถูกต้องกัน

1. การใช้ Have/Has ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก (main verb)

“verb to have” เป็นกริยาไม่ปกติ ดังนั้นมันจะเปลี่ยนรูปตามกาล (tense) และประธานของประโยค ความหมายของ “verb to have” เมื่อทำหน้าที่เป็นกริยาหลักหมายถึงการครอบครอง การแสดงความเป็นเจ้าของ

หลักการผันกริยา have/has เมื่อใช้เป็นกริยาหลักมีง่ายๆ ดังนี้

  • Has ใช้กับ He/She/it และประธานเอกพจน์อื่นๆ
  • Have ใช้กับ I/You/We/They และประธานพหูพจน์อื่นๆ
  • Had เป็นรูปอดีตของ Have/Has ใช้ได้กับประธานทุกตัว

1.1 Have/Has ในรูปปัจจุบัน

เมื่ออยู่ในรูปปัจจุบัน ให้เราเลือกใช้ have หรือ has ตามประธานของประโยคได้เลย

โครงสร้างประโยค

ประธาน + have/has +…

ตัวอย่างเช่น

  • I have a new job.
    ฉันมีงานใหม่
  • She has dinner every night.
    เธอกินมื้อเย็นทุกวัน

ในประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence) เราจำเป็นต้องใช้คำว่า “not” วางไว้หลังคำกริยาช่วย “verb to do” และเราจะใช้ have กับทุกประธานในประโยคปฏิเสธ

“verb to do” คือ do/does จะต้องผันตามประธาน มีกฏการผันง่ายๆ ดังนี้

  • do ใช้กับ I/We/You/They และคำนามพหูพจน์อื่นๆ (do not ย่อเป็น don’t)
  • does ใช้กับ He/She/It และคำนามเอกพจน์อื่นๆ (does not ย่อเป็น doesn’t)
  • did เป็นรูปอดีตของ do/does ใช้กับทุกประธาน

ตัวอย่างเช่น

  • I do not have a new job.
    ฉันไม่ได้มีงานใหม่
  • She did not have dinner every night.
    เธอไม่ได้ทานข้าวเย็นทุกคืน

1.2 Have/Has ในรูปอดีต

เมื่ออยู่ในรูปอดีต ประธานทุกตัวจะใช้ had ทั้งหมด

โครงสร้างประโยค

ประธาน + had + …

ตัวอย่างเช่น

  • I had a cat when I was little.
    ฉันมีแมว 1 ตัวตอนที่ฉันยังเด็ก

เมื่อต้องการทำเป็นประโยคปฏิเสธ ให้เติม “did not” หลังประธาน และตามด้วย have สำหรับประธานทุกตัวเหมือนกันหมด

ตัวอย่างเช่น

  • I did not have a cat when I was little.
    ฉันไม่ได้มีแมวตอนที่ฉันยังเด็ก

1.3 Have/Has ในรูปกริยาช่อง 3

Past participle หรือกริยาช่อง 3 คือกริยาที่ลงท้ายด้วย -ed และตามหลัง “verb to have” กริยาช่อง 3 มักใช้กับ Perfect tenses ต่างๆ และใช้ในประโยคแบบ Passive voice อีกด้วย

กริยาช่อง 3 “verb to have” จะอยู่ในรูป had เสมอ ไม่ว่าประธานจะเป็นใครก็ตาม

ตัวอย่างเช่น

  • I have had enough money for this car.
    ฉันมีเงินพอสำหรับรถคันนี้
  • Mary had had lunch already when he came home yesterday.
    แมรี่กินอาหารกลางวันไปแล้วตอนนี้เขากลับมาบ้านเมื่อวาน
  • Stacy will have had a pet rabbit.
    สเตซี่จะมีสัตว์เลี้ยงเป็นกระต่าย

การทำประโยค Perfect tense ให้เป็นประโยคปฏิเสธ (Negative Sentense) เราจะเติมคำว่า “not” ด้านหลังกริยาช่วย (Auxiliary verb)

ตัวอย่างเช่น

  • I have not had enough money for this car.
    ฉันไม่มีเงินพอสำหรับรถคันนี้
  • Mary had not had lunch already when he came home yesterday.
    แมรี่ไม่ได้กินอาหารกลางวันไปแล้วตอนนี้เขากลับมาบ้านเมื่อวาน
  • Stacy will not have had a pet rabbit.
    สเตซี่จะไม่มีสัตว์เลี้ยงเป็นกระต่าย

1.4 Have/Has ใน Continuous

กริยาแบบต่อเนื่อง continuous ของกริยา “verb to have” เป็นการเติม -ing ด้านหลัง have ทำให้คำกริยาอยู่ในรูป “having” เสมอ และเราใช้คำกริยานี้ใน continuous tenses ต่างๆ การใช้กริยา have/has ในประโยค continuous tenses จะต้องใช้กริยาช่วย (Auxiliary verb) เป็น “Verb to do” หรือ “Verb to have” เข้ามากริยาหลัก (main verb) having ด้วย

ในกรณีนี้ “verb to be” ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นกริยา จะต้องผันตามประธานและกาล ในขณะที่กริยาแท้ have/has จะใช้ having เสมอกับทุกประธาน โดยมีกฏการผันง่ายๆ ดังนี้

  • is ใช้กับ He/She/It และคำนามเอกพจน​์อื่นๆ
  • am ใช้กับประธาน I เท่านั้น
  • are ใช้กับ We/You/They และคำนามพหูพจน์อื่นๆ
  • was เป็นรูปอดีตของ is และ am
  • were เป็นรูปอดีตของ are

ตัวอย่างเช่น

  • The teacher is having a serious talk with your parents right now.
    คุณครูกำลังคุยกับผู้ปกครองของคุณอย่างเคร่งเครียดในตอนนี้
  • Lisa was having a seizure in her sleep.
    ลิซ่าเคยมีอาการชักเมื่อนอนหลับ
  • Anne will be having enough money when this house is on sale.
    แอนจะมีเงินเพียงพอพอดีเมื่อบ้านหลังนั้นมีการลดราคา

การทำประโยค Continuous tense ให้เป็นประโยคปฏิเสธ (Negative Sentense) เราจะเติมคำว่า “not” ด้านหลังกริยาช่วย (Auxiliary verb)

ตัวอย่างเช่น

  • She is not having it.
    เธอไม่ยอมหรอก
  • They were not having any food in this hunger strike.
    พวกเขาไม่กินอะไรเลยในการประท้วงอดอาหารนี้
  • He won’t be having this pair of trainers for long.
    เขาจะไม่ได้ใช้รองเท้าวิ่งคู่นี้นานขนาดนั้นหรอก

I am not มักนิยมย่อเป็น I’m not ส่วนในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน เราจะพบว่ามีการย่อ I am not เป็น I ain’t บ่อยๆ

2. การใช้ Have/has เป็นกริยาช่วย (auxiliary verb)

ประโยชน์ที่สำคัญอีกอย่างของ “Verb to have” คือมันสามารถใช้เป็นกริยาช่วยเพื่อสร้าง perfect tenses ต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว เพื่อใช้ร่วมกับคำกริยาหลักอื่นๆ แม้ “verb to have” จะไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก เช่น

She has left the building at 4 pm.
เธอออกจากอาคารไปแล้วเมื่อ 4 โมงเย็น

ในประโยคตัวอย่างด้านนี้ “verb to have” ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (auxiliary verb) และ left (กริยาช่อง 3 ของ leave) ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก และประโยคนี้เป็นประโยค Present Perfect Tense

ต่อไปนี้เรามาดูการทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary verb) ของ have/has กัน

ตัวอย่างเช่น

  • She has kept it a secret for 3 years.
    เธอเก็บมันเป็นความลับมา 3 ปีแล้ว
  • John had finished his homework by the time mom got home.
    จอห์นทำการบ้านเสร็จแล้วตอนที่แม่กลับมาที่บ้าน
  • I will have loved you for a very long time.
    ฉันจะรักคุณไปตราบนานเท่านาน

ในประโยคปฏิเสธ (Negative sentence) ที่มี “Verb to have” ทำหน้าที่เป็นคำกริยาช่วย (Auxiliary verb) เราจะเติมคำว่า not ด้านหลังกริยาช่วย have/has หรือกริยาช่วยแบบ modal verb (กริยาช่วยที่ไม่สามารถเป็นกริยาหลักได้) ดังต่อไปนี้

ตัวอย่าง

  • Henry has not eaten anything for a whole day.
    เฮนรี่ไม่ได้กินอะไรเลยมาทั้งวันแล้ว
  • My husband hadn’t picked up our daughter when I called the school.
    สามีของฉันไม่ได้ไปรับลูกสาวของเราตอนที่ฉันโทรไปที่โรงเรียน
  • He will not have hoped for such opportunity to occur again.
    เขาจะไม่คาดหวังว่าโอกาสแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง

3. การใช้ตัวย่อของ “Verb to have”

“Verb to have” สามารถนำมาย่อได้ทั้งในประโยคบอกเล่า (affirmative sentences) และประโยคปฏิเสธ (negative sentences)

ตัวอย่างการย่อ “Verb to have” ในประโยคบอกเล่า

  • I have – I’ve
  • you have -you’ve
  • he/she/it has – he’s /she’s /it’s
  • we/they/you have – we’ve /they’ve /you’ve

ตัวอย่างการย่อ “Verb to have” ในประโยคปฏิเสธ

  • I have not – I haven’t
  • you have not – you haven’t
  • he/she/it has not – he/she/it hasn’t
  • we/they/you have not – we/they/you haven’t

4. have/has/had + to แปลว่า “จำเป็นต้อง”

โครงสร้างประโยค:

ประธาน + have/has/had to + V.1

ตัวอย่างเช่น

  • I have to get up early.
    ฉันจำเป็นต้องตื่นแต่เช้า
  • She has to do it herself.
    เธอต้องทำด้วยตัวเอง
  • They had to go.
    พวกเขาจำเป็นไป

5. have/has ในประโยคที่แสดงถึงการกระทำที่ไม่ได้กระทำด้วยตัวเอง (Causative form)

การใช้ have/has ในลักษณะนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

1. Have someone do something — ให้ใครเป็นคนทำบางอย่าง

โครงสร้างประโยค:

ประธาน + have/has/had + ผู้กระทำ + V.1

ตัวอย่างเช่น

  • I have my son do his homework.
    ฉัน(สั่ง)ให้ลูกชายทำการบ้านของเขา
  • Jane has her husband cook every day.
    เจนให้สามีของเธอทำอาหารทุกวัน
  • I will have the painter paint my house.
    ฉันจะให้ช่างทาสีมาทาสีบ้านของฉัน

2. Have something done — ให้ใครทำบางอย่างโดยไม่ได้พูดถึงตัวผู้กระทำ

โครงสร้างประโยค:

ประธาน + have/has/had + สิ่งที่ถูกกระทำ + V.3

ตัวอย่างเช่น

  • I have my car washed every month.
    ฉันล้างรถทุกเดือน (คนอื่นเป็นคนล้างให้)
  • He had his TV fixed.
    เขาเอาทีวีไปซ่อมมา (คนอื่นหรือช่างเป็นคนซ่อม)

6. สำนวน Verb to have ตามด้วย a + verb

ในสำนวนที่มีการใช้ verb to have ตามหลังด้วยคำกริยาแล้วมี a นำหน้าคำกริยาตัวนั้นจะมีผลทำให้กริยาตัวนั้นเป็นคำนาม แปลความหมายโดยยึดกริยาข้างหลัง

ตัวอย่างเช่น

  • I want to have a rest.
    ฉันต้องการพักผ่อน
  • I and my friends had a swim in the pool yesterday.
    ฉันและเพื่อนๆไปว่ายน้ำที่สระเมื่อวานนี้
  • My mother has a walk every morning.
    แม่ของฉันออกไปเดินทุกเช้า
อัพเดทล่าสุด: