80 คำศัพท์และประโยคภาษาญี่ปุ่นสั้นๆใช้ได้ทุกวัน

คุณอยากพูดภาษาญี่ปุ่นได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยไหม? พูดภาษาญี่ปุ่นไม่เป็น แต่มีแพลนไปญี่ปุ่น แล้วจะทำยังไงดีล่ะ? เราได้รวบรวมประโยคภาษาญี่ปุ่นง่ายๆที่คนญี่ปุ่นใช้ในชีวิตประจำวันไว้ในบทความนี้ ซึ่งคุณสามารถนำมาใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมทาง ระหว่างเดินสำรวจแหล่งประวัติศาสตร์ หรือขณะที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ในโตเกียวก็ตาม

วลีพื้นฐานในภาษาญี่ปุ่น

ไม่ว่าเราจะกำลังอยู่บนเครื่อง รอกระเป๋าที่สนามบินนาริตะ หรือทักทายและทำความรู้จักเพื่อนชาวญี่ปุ่น วลีพวกนี้จะช่วยให้เราพอเอาตัวรอดได้

おはようございますohayougozaimasuอรุณสวัสดิ์!
こんにちはkonnichiwaสวัสดีตอนบ่าย!
久しぶりhisashiburiสักพักหนึ่งแล้ว
じゃあまたjaamataแล้วเจอกัน!
お元気でo genki deTake care. ดูแลตัวเองด้วย
お名前は何ですか?o namaewa nan desu kaคุณชื่ออะไร?
…です…desuฉันชื่อ…
好きですsuki desuฉันชอบอันนี้
いいですよii desuyoอันนี้ดี
ダメですdame desuอันนี้ไม่ดี
日本語で話しましょうnihongo de hanashimashouมาพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นกันเถอะ
もう一度言ってくださいmouichidou itte kudasaiพูดอีกครั้งได้ไหม

おはようございます (Ohayougozaimasu) – อรุณสวัสดิ์

ต่อมาจะเป็นการทักทายที่เกี่ยวข้องกับเวลาภาษาญี่ปุ่น ถ้าคุณอยากใช้คำศัพท์ที่ฟังดูสบายๆ ไม่เป็นทางการ คุณเพียงแค่พูดว่า おはよう [ohayou] ก็ได้แล้ว! ในที่ทำงาน ปกติคุณจะได้ยินคำว่า おはよう หรือ おはようございます ซึ่งเพื่อนร่วมงานจะใช้ทักทายเมื่อเจอกันครั้งแรกของวันแม้ครั้งแรกที่เจอกันในวันนั้นจะเป็นเวลา 1 ทุ่มแล้วก็ตาม

じゃあまた (Jaa mata) – แล้วเจอกันนะ

ถ้าเราไม่ได้ถึงขั้นต้องโบกผ้าเช็ดหน้าจากลากันจริงๆขนาดนั้น เราสามารถใช้คำว่า じゃあまた (Jaa mata) ที่แปลว่า “แล้วเจอกันนะ” ไว้แทน さようなら [sayomara] ที่แปลว่า “ลาก่อน” จะเหมาะสมกว่า แต่หากอยากให้สุภาพมากขึ้นก็ใช้คำว่า ではまた [dewamata] ส่วนคำว่า じゃあね [Jaa ne] – “แล้วเจอกัน” และ じゃあまた明日ね [jaamataashita ne] – “เจอกันพรุ่งนี้” ก็เป็นอีกสองคำสั้นๆเป็นกันเองที่คนเป็นเพื่อนมักใช้กัน แล้วถ้าเราอยู่ในโอซาก้า ก็ลองใช้คำว่า ほなね [hona ne] ตามสำเนียงแบบโอซาก้าดูสิ!

お元気で (o genki de) – ดูแลตัวเองด้วยนะ

หากวลี “แล้วเจอกันนะ” ฟังดูไม่เป็นทางการมากไปสักหน่อยสำหรับคุณ คุณสามารถใช้ お元気で [o genki de] แทนได้ วลีนี้แปลตรงตัวว่า “ให้มีสุขภาพแข็งแรงนะ” นอกจากนั้นสามารถใช้อวยพรว่าโชคดีนะภาษาญี่ปุ่นได้อีกด้วย

お名前は何ですか?(o nama-e wa nan desu ka?) – คุณชื่ออะไร?

お名前は何ですか?เป็นการถามชื่อคนอื่นอย่างสุภาพ เหมือนประโยคภาษาอังกฤษ “What’s your name?” นั่นเอง แต่หากว่ามันยาวเกินไปสำหรับคุณ คุณก็สามารถใช้ お名前は [o namaewa]?แทนได้ การใช้คำที่มีความหมายคลุมเครือบางครั้งสามารถทำให้ประโยคฟังดูสุภาพมากขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น เปรียบเทียบระหว่างประโยค “คุณเป็นใคร” และ “ชื่อของคุณคือ..” หรือประโยค “คุณมาจากไหน” และ “คุณอาศัยอยู่แถวไหน” เป็นต้น

…です – ฉันคือ…

เตรียมพร้อมกันหรือยัง! เรากำลังจะนำเสนอคุณถึงสิ่งที่ขาดไม่ได้ในคำและวลีในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งก็คือ です นั่นเอง คุณสามารถใช้ です บรรยายสิ่งที่คุณคิดโดยไม่ต้องเสียเวลาเรียนไวยากรณ์เป็นชั่วโมงๆเลยด้วยซ้ำ คำว่า です เป็นคำกริยา แปลว่า “เป็น/คือ” เราจะใช้ です โดยไม่เปลี่ยนรูปไม่ว่าประธานของประโยคจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์บุรุษใดก็ตาม หากคุณชื่อทอม คุณก็เพียงแค่กล่าวชื่อของคุณและตามด้วย です เช่น トムです [tomu desu] แปลว่า “ฉันชื่อทอม”

อยากลองเรียนข้ามไปอีกขั้นไหมล่ะ? ลองใส่です ตามหลังคำคุณศัพท์ภาษาญี่ปุ่นเพื่ออธิบายความรู้สึกของคุณดูสิ เช่น 暑いです[atsui desu] แปลว่า “ฉันรู้สึกร้อน” คุณสามารถละประธานในประโยคได้หากตัวประธานถูกบอกเป็นนัยไว้แล้วในบริบท ตัวอย่างเช่น สถานการณ์เพื่อนของคุณมาสาย คุณสามารถพูดได้ว่า 遅いです [osoi desu] แปลว่า “เธอมาสาย!” หรือหากคุณเจอสิ่งของ(หรือคน)ที่คุณชอบ ก็สามารถใช้ きれいです [kirei desu] แปลว่า “น่ารัก/สวยจัง” ได้

ย้ำอีกครั้ง หากมีคนถามชื่อคุณล่ะก็ คุณสามารถตอบโดยใช้รูปแบบนี้ได้เลย (ชื่อของคุณ) + です.

เป็นไงล่ะ! ง่ายจะตายไป

好きです (すきです) [Suki desu] – ฉันชอบมัน

จะทำอย่างไรดีล่ะ? หากคุณอยากบอกเพื่อนชาวญี่ปุ่นของคุณว่าคุณชอบอาหารเช้าแบบพื้นเมืองของญี่ปุ่นมาก หรือบอกว่าคุณน่ะหลงใหลในศิลปะการแสดงคาบูกิสุดๆ! การบอกว่าชอบนั้นคุณสามารถใช้วลี 好きです [suki desu] ซึ่งแปลว่า “ฉันชอบมัน” ถ้าอยากเจาะจงถึงสิ่งที่ชอบ ก็เพียงพูดสิ่งที่ชอบแล้วตามด้วย が好きです [ga suki desu] เช่น ชอบกินขนม ก็พูดว่า お菓子が好きです [okashi ga suki desu] – “ฉันชอบขนม”

ในบางสถานการณ์คุณอาจได้ลิ้มรสถั่วเน่าหรืออาหารจานแปลก แต่มันกลับไม่ถูกปากเอาซะเลย คุณสามารถพูด 好きではありません [suki dewaarimasen] เพื่อบอกว่า “ฉันไม่ชอบมัน” เพียงแต่อย่าไปพูดใส่หน้าแม่ครัวคนทำอาหารเสียล่ะ

いいですよ [ii desuyo] – มันดี

いいですよ [ii desuyo] สามารถใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ เปรียบเทียบได้กับการพูดอย่างสุภาพว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี” คุณจะได้ยิน いいよ [ii yo] โดยเฉพาะจากคนพูดที่เป็นผู้หญิง วลีนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับการบอกว่า ก็ดี, เอาเลย, ไม่ต้องกังวลกับมันหรอก หรือไม่มีปัญหา

ダメです (だめです) [dame desu] – ไม่ดีเลย

ถ้าคุณอยากจะบอกอย่างสุภาพว่า “มันไม่ดี” คุณต้องพูดว่า よくありません [yokuarimasen] ซึ่งเป็นรูปแบบสุภาพและเป็นทางการ หรือใช้ よくない ซึ่งมีความหมายเดียวกัน แต่เป็นรูปแบบไม่เป็นทางการ

การจะบอกว่าสิ่งนั้น “ไม่ดีเลย” คุณสามารถใช้ ダメ [dame] ถึงแม้ว่าการต่อท้ายด้วย です (desu) จะให้ความหมายว่า “มันไม่ดีเลย” แต่การเติม だ [da] ซึ่งเป็นรูปย่อของ です แทน มักเป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นมากกว่า ดังนั้น ダメだ [dame da] สามารถแปลได้ว่า ไม่ดี, ไร้ค่า, หรือไร้ประโยชน์

ได้โปรด, ขอบคุณ และขอโทษในภาษาญี่ปุ่น

ความสุภาพอ่อนน้อมเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเรียนภาษาต่างประเทศ วลีและคำศัพท์แสดงความคิดด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณสนทนากับบุคคลอื่นได้ง่ายขึ้น และยังสามารถคลายสถานการณ์ตึงเครียดที่โรงเรียนหรือที่ทำงานได้อีกด้วย

ありがとうございますarigatougozaimasuขอบคุณ
どういたしましてdouitashimashiteด้วยความยินดี
問題ないよmondai naiyoไม่มีปัญหา
くださいkudasaiได้โปรด (กรณีขอความช่วยเหลือ/ความร่วมมือ)
どうぞdouzoกรุณา (กรณีให้ของ/เชิญชวน)
お疲れ様ですotsukaresamadesuขอบคุณสำหรับความพยายาม
失礼しますshitsureishimasuขอโทษ (ที่เสียมารยาท/หยาบคาย)
すみませんsumimasenขอโทษ (ที่ขัดจังหวะ)
ごめんなさいgomennasaiขอโทษ (ที่ทำผิด/รู้สึกผิด)

ありがとうございます [arigatougozaimasu] – ขอบคุณ

ありがとう [arigatou] เป็นวลีที่เราคุ้นเคย แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าเสมอเมื่อต้องใช้วลีนี้เป็นครั้งแรก ถ้าต้องการแสดงความสุภาพใช้ ありがとうございます [arigatougozaimasu] จะดีที่สุดในการแสดงความขอบคุณ ขณะนี้ ありがとう จะสั้นและแสดงถึงความเป็นมิตร เพื่อนของคุณอาจจะขอบคุณคุณโดยใช้ どうも [doumo] ซึ่งแปลว่า “ขอบคุณนะ!” คุณจะเห็นว่า あり[ari] เป็นรูปย่อมาจาก ありがとう ซึ่งจะพบเห็นได้บ่อยในเว็บไซต์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของญี่ปุ่น

ください – [kudasai] ได้โปรด (กรณีขอความช่วยเหลือ/ความร่วมมือ)

การพููดว่า “ได้โปรด” ในภาษาญี่ปุ่นมีอยู่หลายวิธี คำว่า ください จะถูกใช้ในการร้องขอ เช่น 急いでください [isoidekudasai] – “ได้โปรดรีบๆหน่อย” หรือ コーヒーをください [koohii o kudasai] – “ขอกาแฟแก้วหนึ่งได้ไหม”

どうぞ – [douzo] กรุณา (กรณีให้ของ/เชิญ)

วิธีที่นิยมในการนำเสนอบางสิ่งให้คนอื่น คือการใช้คำว่า どうぞ [douzo] – “กรุณา” ตัวอย่างเช่น “เชิญคุณก่อนเลยครับ/ค่ะ” เป็นต้น ไม่ว่าคุณจะเชิญให้เขาออกจากห้องก่อนคุณ หรือจะให้ขนมอร่อยๆแก่เพื่อนร่วมงาน คำว่า どうぞ จะมีประโยชน์กับคุณแน่นอน

お疲れ様です [Otsuka resamadesu] – ขอบคุณสำหรับความพยายามของคุณ

ถ้าคุณไม่เคยได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดวลีนี้มาแล้วเป็นพันๆครั้ง คุณก็คงไม่ได้อยู่ในประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะ! วลี お疲れ様です ถูกใช้บ่อยเมื่อคุณหรือใครก็ตามทำงานเสร็จแล้วและกำลังจะเลิกงานกลับบ้าน แม้ว่ามันจะแปลว่า “ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักในวันนี้” หรือ “ขอบคุณสำหรับความพยายาม” แต่จริงๆแล้วทุกคนใช้มันในความหมายว่า “วันนี้พอแค่นี้แหละ”

失礼します [shitsureishimasu] – ขอโทษ (ที่เสียมารยาท/หยาบคาย)

อีกหนึ่งประโยคที่ใช้ในที่ทำงานก็คือ 失礼します ถูกใช้เมื่อเรากำลังออกจากห้อง เปรียบเหมือนกับการพูดว่า “ขอโทษที่รบกวนคุณ” หรือ “ขอโทษที่ขัดจังหวะคุณ” จริงๆนะ มันเป็นแค่วลีแสดงความสุภาพในการขอตัวออกจากห้องเท่านั้นเอง แต่วลีนี้ก็ยังใช้ในการขอวางสายโทรศัพท์อย่างสุภาพและเป็นทางการได้อีกด้วย

すみません [sumimasen] – ขออภัย, ขอโทษ, ขอบคุณ

วลีนี้คือวลีเดียวที่ใช้แสดงความรู้สึกได้ทั้ง 3 ความหมาย เรียนให้ดี จำได้ อย่าลืมเชียวล่ะ! คำว่า すみません ถูกใช้บ่อยในความหมายว่า “ขออภัย” เช่น หากกำลังหลงทางหรือต้องเดินเบียดใครสักคน เป็นต้น และหมายความว่า “ขอโทษ” ตัวอย่างเช่น หากคุณบังเอิญชนใครเข้าในรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็พูดคำนี้ได้เหมือนกัน

คำนี้สามารถใช้แสดงความขอบคุณได้เมื่อคุณต้องรบกวนผู้อื่น (เปรียบได้กับการพูดว่า ขอบคุณที่ให้ฉันรบกวนคุณ) คำนี้ถูกใช้บ่อยเมื่อคุณขึ้นแท็กซี่ เช่น すみません。成田空港までお願いします [sumimasen. naritakuukou made onegaishimasu] – “ขอบคุณ(ที่จอดรับ) รบกวนไปที่สนามบินนาริตะ”

ごめんなさい [gomennasai] – ขอโทษ

เมื่อต้องการขอโทษสมาชิกในครอบครัว เพื่อน หรือกับคนที่เป็นกันเอง ให้ใช้วลี ごめんなさ แทน すみません คุณยังสามารถใช้ ごめん [gomen] เมื่อต้องการให้ฟังดูไม่เป็นทาง และ ごめんね [gomen ne] กับคนที่สนิทได้อีก

วลีภาษาญี่ปุ่นกับการทานอาหาร

หลังจากคุณเรียนรู้การกล่าวคำทักทายและขอบคุณเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงเวลาพูดถึงสิ่งที่สำคัญมากๆซึ่งก็คืออาหารนั่นเอง!

お腹が空いていますonakaga suite imasuฉันหิว
まだ食べていませんmadatabeteimasenฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลย
メニュー、お願いしますmenyuu, onegaishimasuเอาเมนูมาให้ดูหน่อย
メニュー、お願いできますか?menyuu, onegaidekimasu kaขอเมนูด้วย
それは何ですか?sore wa nan desu kaอันนั้นคืออะไร?
これを食べてみたいですkore o tabetemitaidesuฉันอยากลองอันนี้
…をください…o kudasaiฉันต้องการ…
…がありますか?…gaarimasu kaคุณมี…ไหม?
…付きですか?…tsukidesu kaอันนี้มาด้วยกันกับ…ไหม?
…が食べられません…gataberaremasenฉันทาน…ไม่ได้
…アレルギーがあります…arerugiigaarimasuฉันแพ้…
…おいしいですoishiidesuอร่อย!
まずいですmazuidesuแย่, ไม่อร่อย
お腹が一杯ですonakagaippaidesuฉันอิ่มแล้ว
お勘定/お会計、お願いしますokanjou/okaikei, onegaishimasuเก็บเงินด้วย
いただきますitadakimasuมาทานกันเถอะ!
ごちそうさまでしたgochisousamadeshitaขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้

お腹が空いています [onakagasuiteimasu] – ฉันหิว

ความหมายโดยตรงของประโยคนี้คือ ท้องว่าง, ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย กรณีพูดกับเพื่อน คุณสามารถพูด お腹が空いた [onaka ga suita] ซึ่งฟังเป็นทางการน้อยลงหน่อย คุณอาจจะได้ยินชายชาวญี่ปุ่นพูดกับเพื่อนว่า 腹減った [hara hetta] ซึ่งเป็นคำที่ไม่เป็นทางการและอาจจะไม่สุภาพนัก ในขณะที่ お腹減った [onakahetta] เป็นคำพูดที่ใช้โดยทั่วไปในหมู่เพื่อนฝูง และคำสุดท้าย ถ้าคุณอยากพูดแบบสั้นๆน่ารักๆก็ลองใช้คำว่า お腹がペコペコ [onaka ga pekopeko] ซึ่งเป็นคำเปรียบเปรยหมายถึงท้องกำลังร้องอยู่

…をください [o kudasai] – ฉันต้องการ…

คุณยังจำการพูดว่า “ได้โปรด” เมื่อต้องการขออะไรสักอย่างที่เราบอกไปข้างต้นได้ไหม? การสั่งอาหารเป็นภาษาญี่ปุ่นก็เพียงแค่พูดสิ่งที่อยากสั่งและตามด้วย をください ตัวอย่างเช่น コーヒーをください [koohii o kudasai] – “ขอกาแฟแก้วหนึ่ง”

…が食べられません […ga taberaremasen] – ฉันทาน…ไม่ได้

คุณสามารถบอกว่าคุณทานอาหารใดไม่ได้โดยการเติมคำศัพท์เกี่ยวกับอาหารนั้นหน้าวลีนี้ได้เลย ตัวอย่างเช่น 肉 [niku] แปลว่า “เนื้อวัว” ถ้าคุณทานเนื้อวัวไม่ได้ก็เติมคำว่าเนื้อวัวเข้าไปหน้าวลี ก็จะได้เป็นประโยค 肉が食べられません [niku ga taberaremasen] – “ฉันทานเนื้อวัวไม่ได้”

…アレルギーがあります […arerugiigaarimasu] – ฉันแพ้…

ถ้าคุณบังเอิญทานอาหารที่ตัวที่เองแพ้เข้าไปแล้วล่ะก็คงยุ่งแน่ๆ คุณสามารถบอกว่าคุณแพ้สิ่งนั้นๆได้โดยการพูดสิ่งที่คุณแพ้แล้วตามด้วย アレルギーがあります [arerugii ga arimasu] หรือจะใช้วลี …が食べられません เพื่อบอกไปเลยว่าคุณทานสิ่งนั้นไม่ได้ สุดท้ายนี้เพื่อเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ คุณสามารถใช้วลี …が入っていますか? […ga haite imasuka?] ซึ่งแปลว่า “มี…อยู่ไหม?” เพื่อถามว่ามีสิ่งที่คุณทานไม่ได้อยู่ในอาหารนั้นไหม

ตัวอย่างเช่น 卵が入っていますか? [tamago ga haitte imasu ka?] – “ในนี้มีไข่ไหม?”

おいしいです [oishiidesu] – อร่อย

ในกลุ่มคนสนิทสนมคุ้นเคย คุณอาจะได้ยินเพื่อนๆใช้คำว่า うまい [umai] เมื่อออกไปทานอาหารอร่อยๆด้วยกันสำหรับใช้กับคนอื่นๆที่ต้องการความสุภาพมากขึ้น คำว่า おいしい [oishii] ก็หมายความว่าอาหารนั้นรสชาติดีเช่นกัน กรณีคุณเห็นอาหารน่าทาน ก็สามารถใช้วลี おいしそう [oishisou] ที่แปลว่า “ดูน่าอร่อยจังเลย” ได้

いただきます [itadakimasu] – มาทานกันเถอะ

วลีนี้ใช้ก่อนเริ่มทานอาหาร แม้วลี いただきます จะมีความหมายว่า “มาทานกันเถอะ” หรือ “ขอให้ทานให้อร่อยนะ” แต่ความหมายของมันลึกซึ้งกว่านั้น เพราะเป็นการพูดขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในการทำอาหารจานนี้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ ดังนั้นคุณจึงพูดขอบคุณพวกเขาด้วย いただきます ก่อนเริ่มทานอาหารในทุกๆมื้อ

ごちそうさまでした [gochisousamadeshita] – ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว วลี ごちそうさまでした เป็นประโยคที่ใช้หลังรับประทานอาหารเสร็จ ซึ่งวลี いただきます และ ごちそうさまでした เป็นวลีใช้ในทุกๆมื้ออาหาร

ประโยคซื้อของที่ญี่ปุ่น

ถนนที่เต็มไปด้วยแผงลอยขายอาหาร ร้านขายเสื้อผ้าสตรีระดับไฮเอ็นด์ใกล้ย่านกินซ่า และร้านขายของชำร่วยที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้การจับจ่ายในญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ

いらっしゃいませirasshaimaseยินดีต้อนรับ
これは何ですか?korewa nan desu kaนี่คืออะไร?
これは何というものですか?korewa nan to iu mono desu kaอันนี้เรียกว่าอะไร?
これはいくらですか?korewaikuradesu kaอันนี้ราคาเท่าไหร่?
…がありますか?…gaarimasu kaคุณมี…ไหม?
ちょっと (高い)ですchotto (takai) desuอันนี้(แพง)มากไปหน่อย
他の色がありますか?hoka no iroga arimasu kaคุณมีสีอื่นไหม?
それを頂きますsore o itadakimasuฉันจะเอาอันนี้
クレジットカードは使えますか?kurejittokaadowatsukaemasu kaฉันใช้บัตรเครดิตจ่ายได้ไหม?
包んでいただけますか?tsutsundeitadakemasu kaห่อเป็นของขวัญให้ฉันได้ไหม?

いらっしゃいませ [irasshaimase] – ยินดีต้อนรับ

เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าร้านค้าในญี่ปุ่น คุณจะได้ยินพนักงานประสานเสียงกล่าวต้อนรับว่า いらっしゃいませ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้าใดๆก็ตาม

ちょっと高いです [jottotakaidesu] – อันนี้แพงไปหน่อย

หากคุณยังไม่ได้เรียนคำคุณศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นเลยล่ะก็ คำศัพท์ที่สำคัญเวลาซื้อของมีดังนี้

  • 安い [yasui] – ราคาถูก
  • 高い [takai] – ราคาแพง, ราคาสูง
  • 高くない [takakunai] – ไม่แพง

クレジットカードは使えますか? [kurejittokaadowatsukaemasuka?] – ฉันสามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายได้ไหม?

ถ้าต้องการใช้เช็คเดินทางจ่าย ก็ใช้ トラベラーズチェック [toraberaazu chekku] ซึ่งแปลว่า “เช็คเดินทาง” แทนคำว่า クレジットカード [kurejittokaado] ที่แปลว่า “บัตรเครดิต”

ส่วนบัตร Suica (スイカ – [suika]) และบัตร Pasmo (パスモ – [pasumo]) เป็นบัตรแบบเติมเงินสำหรับใช้จ่ายค่าบริการรถไฟในญี่ปุ่น, แท็กซี่ และจ่ายค่าสินค้าในร้านขายของชำบางร้าน คุณสามารถถามพนักงานว่าคุณสามารถใช้บัตรนี้ได้หรือไม่ด้วยคำถาม スイカは使えますか?[suika wa tsukae masuka] – “ฉันใช้บัตร Suica จ่ายได้ไหม?”

หากคุณจำประโยคสำหรับซื้อของได้แล้ว อย่าลืมเรียนการบอกตัวเลขภาษาญี่ปุ่น เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจราคาของสินค้าต่างๆ นั่นเอง แม้ประเทศญี่ปุ่นจะนิยมใช้ตัวเลขอารบิก แต่คุณอาจพบว่าร้านค้าบางร้านยังคงใช้ภาษาญี่ปุ่นบอกราคาสินค้าอยู่

ประโยคบอกลาในภาษาญี่ปุ่น

การบอกลาไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะถ้าคุณบอกลากับคนที่คุณรักหรือเพื่อนใหม่ที่มีความทรงจำดีๆระหว่างทางร่วมกัน คุณสามารถบอกให้พวกเขารู้ว่าคุณรักและคิดถึงเขามากแค่ไหนได้ด้วยคำบอกลาต่อไปนี้

手紙書くよtegamikakuyoฉันจะเขียนจดหมายถึงคุณ
着いたら、電話します/メールしますtsuitaradenwashimasu/meerushimasuฉันจะโทร/ส่งอีเมล หาคุณเมื่อฉันถึงที่หมายแล้ว
メアドを教えてもらえますか?meado o oshietemoraemasukaฉันขอที่อยู่อีเมลของคุณได้ไหม?
またすぐに来ますよmatasugunikimasuyoฉันจะกลับมาเร็วๆนี้
来てくださいねkitekudasai neมาเยี่ยมฉันนะ

メルアドを教えてもらえますか?[meru ado o oshieteraemasuka?] – ฉันขอที่อยู่อีเมลของคุณได้ไหม?

หากประโยคด้านบนนี้มันยาวเกินไปจนคุณจำไม่ได้ล่ะก็ คุณสามารถใช้ประโยคนี้ได้ メルアドを教えて [meruado o oshiete] ซึ่งก็เหมือนการพูดว่า “ฉันขอที่อยู่อีเมลของคุณได้ไหม” นั่นแหละ

แต่ถ้าใครสักคนขอ 携帯のメアド [keitai nomeado] หรือ 携帯のメルアド [keitai no meruado] จากคุณ นั่นแปลว่าเขากำลังขอ “ที่อยู่อีเมลของโทรศัพท์มือถือ” ของเราอยู่ คนญี่ปุ่นนิยมส่ง SMS ให้กันผ่านโทรศัพท์มือถือโดยใช้ที่อยู่อีเมลของโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นๆ เช่น หากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของคุณคือ บริษัท SoftBank ดังนั้นอีเมลของเบอร์โทรศัพท์ของคุณก็จะมีลักษณะคล้ายตัวอย่างนี้ xxxxx@softbank.ne.jp และอีเมลนี้จะถูกใช้เพื่อติดต่อและส่งข้อความแทนเบอร์โทรศัพท์

来てくださいね [kitekudasaine] – มาเยี่ยมฉันนะ

หากคุณอยากให้ใครบางคนมาเยี่ยมคุณจริงๆ คุณสามารถเติม 私の家では、いつでもあなたを歓迎しますよ [watashi no iedewa, itsumoanata o kangeishimasuyo] แปลว่า “บ้านของฉันยินดีต้อนรับคุณเสมอ” แต่ถ้าคุณต้องการบอกผ่านทางจดหมาย ก็ลองใช้วลีที่ยาวขึ้นได้ เช่น [ここ/私の家では] あなたはいつでも大歓迎されることを忘れないでください [koko/watashi no iedewa anatawaitsudemo daikangeisarerukoto o wasurenaidekudasai]แปลว่า “อย่าลืมนะว่า [ที่นี่/บ้านของฉัน] ยินดีต้อนรับคุณเสมอ”

เท่านี้ก็พร้อมแล้ว! คำศัพท์และวลีเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถพูดคุยสัพเพเหระกับเพื่อนใหม่ของคุณ หรือแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าคุณสนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง แค่รวบรวมประโยคพวกนี้ไปใช้ในบทสนทนาในชีวิตประจำวันของคุณ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ยินประโยค 日本語が上手ですね [nihongogajouzudesu ne] – “คุณพูดภาษาญี่ปุ่นเก่งจัง!” กลับมาแน่ๆ

หากคุณเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง คุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้แบบไม่ต้องเดินทางไปเรียนที่ญี่ปุ่นเลย เพียงแค่หาเทคนิคเรียนภาษาญี่ปุ่นให้เก่ง คุณจะสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน

อัพเดทล่าสุด: