คำศัพท์สีภาษาญี่ปุ่น คันจิ ฮิรางานะ สีฟ้า สีครีม สีเหลือง สีต่างๆ ภาษาญี่ปุ่น
คำว่าสีภาษาญี่ปุ่น คือ
色
いろ
(iro)
สี
คำศัพท์เกี่ยวกับแม่สีและสีหลักๆในภาษาญี่ปุ่นฟังดูเหมือนง่ายและไม่ซับซ้อน แต่คำศัพท์สีต่างๆในภาษาญี่ปุ่นนั้นมีความหมายที่มีมาแต่เดิม ดังนั้นการเรียนรู้เรื่องสีจะช่วยเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ในบทเรียนภาษาญี่ปุ่นกับติวเตอร์ญี่ปุ่นบทนี้ เราจะมาทำความรู้จักสีภาษาญี่ปุ่นสีต่างๆ และวิธีนำคำศัพท์สีมาใช้ในประโยคกัน
เริ่มแรก เรามาเรียนคำนามภาษาญี่ปุ่นเกี่ยวกับสีหลักๆ ในภาษาญี่ปุ่นกันก่อนด้านล่างนี้เลย
สี ภาษาไทย | สี ภาษาญี่ปุ่น (คันจิ) | สี ภาษาญี่ปุ่น (ฮิรางานะ) | โรมาจิ | คำยืมมาจากภาษาต่างประเทศ (คาตากานะ) | โรมาจิ |
---|---|---|---|---|---|
สีแดง | 赤 | あか | aka (อะคะ) | レッド | reddo (เรดโดะ) |
สีส้ม | 橙色 | だいだいいろ | daidaiiro (ไดไดอิโระ) | オレンジ | orenji (โอเรนจิ) |
สีเหลือง | 黄色 | きいろ | kiiro (คิอิโระ) | イエロー | iero- (อิเย่โระ) |
สีเขียว | 緑 | みどり | midori (มิโดะริ) | グリーン | guri-n (กุริอิน) |
สีน้ำเงิน | 青 | あお | ao (อะโอะ) | ブルー | buru- (บุรุ) |
สีฟ้า | 水色 | みずいろ | mizuiro (มิซุอิโระ) | – | – |
สีม่วง | 紫 | むらさき | murasaki (มุระสะกิ) | パープル | pa-puru (ปะปุหรุ) |
สีขาว | 白 | しろ | shiro (ชิโระ) | ホワイト | howaito (โฮไว่โตะ) |
สีดำ | 黒 | くろ | kuro (คุโระ) | ブラック | burakku (บุรัคขุ) |
สีเทา | 灰色 | はいいろ | haiiro (ไฮอิโระ) | グレー | gure- (กุเร) |
สีน้ำตาล | 茶色 | ちゃいろ | chairo (จะอิโระ) | ブラウン | buraun (บุราอึน) |
สีชมพู | 桃色 | ももいろ | momoiro (โมะโมะอิโระ) | ピンク | pinku (ปิงกุ) |
คำว่า “สีส้ม” ในภาษาญี่ปุ่นมักใช้คำว่า オレンジ (orenji | โอเรนจิ) ซึ่งเป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่ในภาษาญี่ปุ่นเองก็มีคำว่า “สีส้ม” เช่นกัน นั่นก็คือคำว่า 橙色 (daidaiiro | ไดไดอิโระ)
นอกจากสีส้มแล้ว ยังมีสีอื่นๆอีกที่คนญี่ปุ่นมักใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่เป็นภาษาอังกฤษแบบญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะทำให้ชาวต่างชาติฟังไม่เข้าใจ เช่นเดียวกับคำยืมภาษาอังกฤษในภาษาญี่ปุ่นที่ชวนสับสนอยู่ไม่น้อย
คำศัพท์ที่กล่าวถึงข้างต้นนี้นั้นเป็นคำนามบอกสีต่างๆ ดังนั้นเราจะใช้คำอนุภาค “の(no)” เพื่อใช้อธิบายหรือบอกสีของสิ่งต่างๆ หากเรายังไม่คุ้นเคยคำอนุภาคหรือคำช่วยในภาษาญี่ปุ่น ควรทบทวนไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานเสียก่อน นอกจากนั้นเรายังสามารถสังเกตการใช้คำศัพท์สีจากประโยคภาษาญี่ปุ่นสั้นๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
คำคุณศัพท์บอกสีในภาษาญี่ปุ่น
”สี“ สามารถใช้เป็นคำคุณศัพท์ได้เช่นกัน และเช่นเดียวกับคำคุณศัพท์ภาษาญี่ปุ่นอื่นๆ ที่ประกอบด้วยส่วนที่เป็นต้นคำและส่วนที่อยู่ท้ายคำ สำหรับ “สี” ภาษาญี่ปุ่นนั้น มีสีเพียง 4 สีเท่านั้นที่จะกลายเป็นคำคุณศัพท์เมื่อเติมตัว “い” เข้าไปอยู่ท้ายคำ
ภาษาไทย | ภาษาญี่ปุ่น | ฟูริงานะ | โรมาจิ |
---|---|---|---|
สีแดง | 赤い | あかい | Akai |
สีน้ำเงิน | 青い | あおい | Aoi |
สีดำ | 黒い | くろい | Kuroi |
สีขาว | 白い | しろい | Shiroi |
หากต้องการใช้คำคุณศัพท์บอกสีในภาษาญี่ปุ่น เราสามารถวางคำคุณศัพท์นั้นไว้หน้าคำที่ต้องการขยาย ตัวอย่างเช่น
あおい海(うみ)
(Aoi umi)
ทะเลสีน้ำเงิน
海(うみ)はあおいです。
(Umi wa aoi desu)
ทะเลเป็นสีน้ำเงิน
สีเหลืองก็สามารถเติมคำว่า い เพื่อเปลี่ยนเป็นคำคุณศัพท์ได้ นั่นคือคำว่า 黄色い (kiiroi) สังเกตว่าตัว い จะต้องตามหลังตัวคันจิที่เป็นคำกริยา นั่นคือ 色(iro) แทนตัวคันจิที่บอกสีโดยตรง เช่นเดียวกับคำว่า 茶色い (chairoi) หรือสีน้ำตาล
แล้วเราจะใช้คำศัพท์บอกสีในประโยคได้อย่างไรบ้าง?
รูปแบบประโยคพื้นฐานสำหรับการอธิบายหรือการบอกสีในภาษาญี่ปุ่น คือ
สี + の + คำนาม
ยกตัวอย่างเช่น :
みどりの窓口(まどぐち)
(Midori no madoguchi)
หน้าต่างสีเขียว (ปกติจะหมายถึงห้องจำหน่ายตั๋วที่สถานีรถไฟในประเทศญี่ปุ่น)
紫(むらさき)の靴下(くつした)
(Murasaki no kutsushita)
ถุงเท้าสีม่วง
แต่หากเป็นคำคุณศัพท์ที่มีตัว い บอกสี เราต้องวางไว้หน้าคำนามที่ต้องการขยาย
คำคุณศัพท์สี (い) + คำนาม
赤いカバン
(akai kaban)
กระเป๋าสีแดง
เปรียบเทียบกับวิธีบอกสีโดยการใช้คำนาม ที่เราจำเป็นต้องใช้ตัวอนุภาคหรือตัวเชื่อม の(no) เพื่อเชื่อมคำนามสองคำเข้าด้วยกัน
赤のカバン
(aka no kaban)
กระเป๋าแดง
ซึ่งประโยคนี้มีความหมายเดียวกันกับ 赤いカバン.
ピンクの花
(pinku no hana)
ดอกไม้ชมพู
หรือเราสามารถพูดว่า “(คำนาม) เป็น (สี)” ก็ได้
この花はピンクです。
(kono hana wa pinku desu)
ดอกไม้นั่นเป็นสีชมพู
สีอื่นๆ ในภาษาญี่ปุ่น
สำหรับสีอื่นๆ นั้นดูจะเป็นเรื่องยุ่งยากอยู่สักหน่อย เพราะบางครั้งสีในภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่ได้สอดคล้องกับสิ่งที่เราคิดเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น คำว่า ”桃色“ จริงๆแล้วในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “สีพีช” แต่สำหรับคนญี่ปุ่นจะหมายถึงสีชมพูของดอกพีช ไม่ใช่สีของผลพีช ส่วนสีชมพูอมส้มอ่อนๆ ของผลพีชนั้น ภาษาญี่ปุ่นจะใช้คำว่า “肌色“ (hadairo) ที่แปลว่า “สีผิว” แทน
เฉดต่างๆของสีดำ, สีขาว, สีเทาและสีน้ำตาล
- สีดำสนิท : 真っ黒 (makkuro)
- สีหมึกดำ : 墨色 (sumiiro)
- สีขาวสนิท, สีขาวจั๊วะ : 真っ白 (masshiro)
- สีขาวนวล, สีขาวปนเหลืองหรือเทาเล็กน้อย : 胡粉色 (gofuniro)
- สีเบจ, สีน้ำตาลอ่อน, สีครีม : ベージュ (be-ju)
- สีมุก : 真珠色 (shinjuiro)
- สีงาช้าง : 象牙色 (zougeiro)
- สีเงิน : 銀色 (giniro)
- สีเทาอมน้ำตาลอ่อน : 鼠色 (nezumiiro)
- สีตะกั่ว : 鉛色 (namariiro)
- สีเทาแกมน้ำเงินดำ : 藍鼠 (ainezumi)
- สีเหลืองอมส้ม, สีทราย : 砂色 (sunairo)
- สีน้ำตาลแก่, สีเกาลัด : 栗色 (kuriiro)
- สีดิน, สีน้ำตาลเข้มอมเทา : 土色 (tsuchiiro)
- สีสนิม, สีม่วงแดง, สีน้ำตาลช็อคโกแลต : 錆色 (sabiiro)
เฉดต่างๆ ของสีแดง, สีส้มและสีเหลือง
- สีแดงบริสุทธิ์ (รวมถึง “สีแดงสด” หรือ “สีแดงเข้ม” ด้วย) : 真っ赤 (makka)
- สีเลือดหมู : 緋色 (hiiro)
- สีแดงสตรอเบอรี่ : 紅色 (beniiro)
- สีแดงสด : 紅緋 (benihi)
- สีแดงชาด : 朱色 (shuiro)
- สีน้ำตาลแดง : 鳶色 (tobiiro)
- สีแดงม่วงเข้มอมน้ำตาล : 小豆色 (azukiiro)
- สีเหลืองอำพัน : 琥珀色 (kohakuiro)
- สีลูกพลับ : 柿色 (kakiiro)
- สีแอปริคอท, สีชมพูเหลือง : 杏色 (anzuiro)
- สีส้มแมนดาริน, สีแดงอมส้ม : みかん色 (mikaniro)
- สีทองแดง : 青銅色 (seidouiro)
- สีทอง : 金色 (kiniro)
- สีดอกทานตะวัน : ひまわり色 (himawariiro)
- สีมัสตาร์ด, สีเหลืองตุ่น : からし色 (karashiiro)
เฉดต่างๆ ของสีเขียวและสีน้ำเงิน
- สีเขียวหยก : 翡翠色 (hisuiiro)
- สีเขียวมะกอก : 鶯色 (uguisuiro)
- สีเขียวมอส, สีเขียวอมเหลือง : 苔色 (kokeiro)
- สีเขียวชอุ่ม : 千歳緑 (chitosemidori)
- สีเขียวเข้ม, สีเขียวใบไม้ : 常盤色 (tokiwairo)
- สีถั่วเขียว : 柳色 (yanagiiro)
- สีเขียวอมเหลืองสดใส (เหลือง-เขียว): 萌黄色 (mogiiro)
- สีนกเป็ดน้ำ, สีน้ำเงินอมเขียว : 鴨の羽色 (kamonohairo)
- สีน้ำเงินเขียว : 青緑色 (aomidoriiro)
- สีน้ำเงินเข้ม, สีน้ำเงินบริสุทธิ์ : 真っ青 (massao)
- สีฟ้าเข้ม (สีนิลคราม หรือ สีน้ำเงินเข้ม): 瑠璃色 (ruriiro)
- สีน้ำทะเล: 納戸色 (nandoiro)
- สีฟ้าอมเขียวมะนาวอ่อน : 青磁色 (seijiro)
- สีที่อยู่ระหว่างสีน้ำเงินกับสีเขียว : 浅葱色 (asagiiro)
- สีท้องฟ้า (“สีฟ้า”): 水色 (mizuiro)
- สีฟ้าอ่อน : 空色 (sorairo), หากแปลตรงตัวจะเป็นว่าสีท้องฟ้า แต่จริงๆแล้ว sorairo ใกล้เคียงกับสีฟ้าอ่อนมากกว่า
- สีน้ำเงินแก่ : 紺色 (koniro)
- สีคราม, สีน้ำเงินม่วง : 藍 (ai)
เฉดต่างๆของสีชมพูและสีม่วง
- สีพีช : 肌色 (hadairo) คำนี้แปลตามตัวอักษรว่า “สีผิว”
- สีชมพูอ่อน : 桜色 (sakurairo) มีความหมายตามตัวอักษรว่า “สีดอกซากุระ”
- สีกุหลาบ : 薔薇色 หรือ バラ色 (อ่านว่า barairo ทั้งสองคำ)
- สีชมพูอ่อน, สีชมพูซีด : 紅梅色 (koubaiiro)
- สีดอกอลิเซีย หรือ สีชมพูเข้มสดใส : 躑躅色 (tsutsujiiro)
- สีชมพูอ่อน : 牡丹色 (botaniro)
- สีแสดเข้ม : 珊瑚色 (sangoiro)
- สีม่วงลาเวนเดอร์, สีม่วงอ่อน : 藤色 (fujiiro)
- สีม่วง, สีเม็ดมะปราง : 菫色(sumireiro)
- สีม่วงดอกไอริซ : 菖蒲色 (shoubuiro)
- สีฟ้าอมม่วง : 青紫色 (aomurasaki)
- สีองุ่น หรือ สีแดงแกมม่วง : 葡萄色 (ebiiro)
- สีพลัม, สีม่วงเข้ม : 梅紫 (umemurasaki)
- สีม่วงเข้ม, สีม่วงเข้มอย่างมะเขือยาว : 茄子紺 (nasukon)
คำศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสี
มีคำศัพท์หลายๆ คำที่เกี่ยวข้องกับสีที่น่าเรียนรู้ ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการอธิบายว่าสิ่งใดมี “สีสันฉูดฉาดหรือสดใส” เป็นภาษาญี่ปุ่น เราสามารถพูดได้สองสามแบบ ดังนี้
- 色鮮やかな (iro azayakana) สีสันสดใส, สีฉูดฉาด, หลากสี
- 色彩豊かな (shikisai yutakana) สีสันสดใส, สีฉูดฉาด, หลากสี
- カラフル (karafuru) สีสันสดใส, สีฉูดฉาด, หลากสี (คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ)
แต่ต้องระวังการใช้คำผิดความหมาย อย่างเช่นคำว่า 色っぽい (iroppoi) ที่บางคนเข้าใจผิดคิดว่า หมายถึง “สีสันฉูดฉาด” แต่จริงๆแล้วในภาษาญี่ปุ่นกลับแปลว่า “เซ็กซี่” เป็นต้น
เช่นเดียวกับคำว่า 色々な (iroirona) ที่หมายถึง “หลายหลาย” หรือ ”แตกต่างกัน“ ไม่ได้หมายถึง ”สีสันฉูดฉาด“ อย่างที่หลายคนคิด
สีรุ้งภาษาญี่ปุ่น
คำว่า “สายรุ้ง” ในภาษาญี่ปุ่น คือ
虹
(niji)
สายรุ้ง
เมื่อเติมคำว่า 色 เข้าไป เราก็จะได้คำว่า “สีรุ้ง”
虹色
(nijiiro)
สีรุ้ง
ในทำนองเดียวกัน เราสามารถใช้คำว่า 多色の (tashokuno) เพื่อสื่อความหมายว่า “หลากสี” หรือ “หลายสี” ได้
หากสิ่งใดไม่มีสี เราสามารถใช้คำว่า
無色
(mushoku)
ไม่มีสี
และเช่นเดียวกับคำว่า “สีฉูดฉาด” หรือ “colorful” , คำว่า ネオン (neon) ก็เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่หมายถึง นีออน ในภาษาญี่ปุ่น
คำศัพท์ที่คล้ายคลึงกัน :
- สีเหลือบ (เช่นสีบนปีกของแมลงทับ หรือสีเหลือบมุกที่ด้านในเปลือกหอย) : 玉虫色 (tamamushiiro)
- ภาพฮอโลแกรม : ホログラフィック (horogurafikku)
- สีโอปอล, สีเงินยวง, สีน้ำนม : オパール (opa-ru) หรือ 乳白色 (nyuuhakushoku) ก็คือ สีขาวน้ำนม เช่นกัน
- โปร่งแสงหรือใส : 透明 (toumei)
- สดใส, สว่าง (ใช้กับสีหรือแสง): 明るい (akarui)
- อ่อน, ซีด (ใช้กับสี): 淡い (awai)
- ชัดเจน, สว่างจ้า (ใช้กับสี): 鮮やかな (azayaka na)
- เบา, อ่อน, บาง (ใช้กับสี): 薄い (usui)
- เข้ม (ใช้กับสี): 濃い (koi)
เราสามารถใช้คำคุณศัพท์เพื่ออธิบายสีต่างๆได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น คำว่า 濃い赤 (koiaka) หมายถึง “สีแดงเข้ม” หรือ 鮮やかな紫 (azayaka na) แปลว่า “สีม่วงสดใส“ เป็นต้น
ความสับสนเรื่องสีในภาษาญี่ปุ่น
นอกจากสีจะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานของการเรียนรู้ภาษาแล้ว สีในภาษาญี่ปุ่นยังแฝงความหมายที่มีมาแต่เดิมซึ่งสิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมไว้อย่างแนบแน่น บางครั้งสียังทำหน้าที่สื่อความหมายถึงความสง่างาม ความเข้มแข็งและความสันติได้อีกด้วย
黄色い (Kiiroi) และ 茶色い (Chairoi)
มีสีอีกสองสีที่สามารถใช้เป็นคำคุณศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นได้ นั่นคือ 黄色 (kiiro) and 茶色 (chairo) ทั้งสองคำนี้แตกต่างจากสีหลักที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ เพราะแม้ว่ามันจะหมายถึงสีเหลืองและสีน้ำตาล แต่ตัวอักษร 黄 และ 茶 ก็ไม่สามารถใช้เดี่ยวๆได้เมื่อต้องใช้ในการบอกสี จริงๆแล้วตัว 茶 (cha) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ชา” ซึ่งต้องมารวมกับคำว่า 色(อิโระ) ที่แปลว่า “สี” ก่อน จึงจะกลายเป็นคำนามบอกสีเหลืองหรือสีน้ำตาล นั่นจึงเป็นผลให้ เมื่อต้องการเปลี่ยนมันให้กลายเป็นคำคุณศัพท์ เราจึงต้องเขียนว่า
- 黄色い (Kiiroi) สีเหลือง
- 茶色い (Chairoi) สีน้ำตาล
แทนที่จะเขียนว่า 黄い หรือ 茶い
สีน้ำเงินและสีเขียว : 青い (Aoi)
ในอดีต คนญี่ปุ่นถือว่าสีน้ำเงินและสีเขียวเป็นสีเดียวกัน รวมเรียกว่า 青い (Aoi) เนื่องจากไม่มีการแบ่งแยกระหว่างทั้งสองสี แม้แต่ในปัจจุบัน คำว่า 青い (Aoi) ก็ยังถูกใช้บอกสีวัตถุที่เป็นสีเขียวอยู่ เช่น 青りんご (Ao ringo) — แอ๊ปเปิ้ลเขียว หรือ 青信号 (Aoshingō) — ไฟจราจรสีเขียว
หรือบางครั้งเราอาจจะเคยได้ยินคนพูดเมื่อสัญญาณไฟจราจรเป็นสีแดงว่า “เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน”
青になる
(ao ni naru)
เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
แทนที่จะเป็น “เปลี่ยนเป็นสีเขียว”
นอกจากนี้ คนญี่ปุ่นยังใช้คำว่า 青 (ao) ที่แปลว่า “สีฟ้า” หรือ “สีน้ำเงิน” แทนคำว่า 緑 (midori) ที่แปลว่า ”สีเขียว“ ซึ่งรากศัพท์ของอักษร 緑 แปลว่า “เขียวขจี” เหมือนดั่งป่าไม้ ซึ่งไม่ได้หมายถึงสีเขียว อย่างไรก็ตาม เราจึงได้ยินคนเรียก “ใบไม้สีเขียว“ ว่า
青葉
(aoba)
ใบไม้สีเขียว
ความหมายของสีในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
สีต่างๆในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นแสดงถึงคุณค่าของชีวิต โดยเฉพาะสีหลักทั้งสี่สีซึ่งได้แก่ สีขาว สีแดง สีดำและสีน้ำเงิน เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเห็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย สถาปัตยกรรมและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ของชาวญี่ปุ่นจะรวมสีหลักเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน
白い (Shiroi) — สีขาว
白い (Shiroi) สีขาวกินพื้นที่ส่วนใหญ่ในธงชาติประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลสำคัญ คือ สีขาวเป็นสีของพระเจ้า เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ ทั้งทางจิตวิญญาณและร่างกาย อีกทั้งยังแสดงถึงความเคารพต่อเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
赤い (Akai) — สีแดง
赤い (Akai) สีแดงเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ความแข็งแกร่งและความเจริญรุ่งเรือง ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงถูกนำมาจับคู่กับสีขาว เราจะสังเกตเห็นว่าศาลเจ้าและวัดในประเทศญี่ปุ่นจะทาสีแดง เนื่องจากเชื่อกันว่าสีแดงสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้ ในขณะเดียวกันยังเป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้าในศาลเจ้าชินโต รวมไปถึงในงานเทศกาลต่างๆ ผู้คนก็จะปูโต๊ะและพื้นด้วยผ้าหรือพรมสีแดง
黒い (Kuroi) — สีดำ
黒い (Kuroi) สีดำเป็นสีแห่งความมืด, ความลึกลับ, ความตายและการไว้ทุกข์ สีดำยังเกี่ยวข้องกับพลังอำนาจและความเชี่ยวชาญหรือช่ำชอง บ่อยครั้งเราจะเห็นนักธุรกิจและเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่งกายด้วยสีดำ
青い (Aoi) — สีน้ำเงิน
青い (Aoi) สีน้ำเงินเป็นสีของสามัญชนคนทั่วไป เราจะเห็นสีน้ำเงินบนชุดกิโมโน, เครื่องแต่งกายที่เป็นทางการ รวมไปถึงเสื้อผ้าทั่วๆ ไปด้วย
นอกจากความรู้เรื่องสีในภาษาญี่ปุ่นซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานในการเรียนภาษาที่จำเป็น ยังมีหัวข้อที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น การนับตัวเลขภาษาญี่ปุ่น การใช้บอกเวลาภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ หรือแม้แต่การบอกวันภาษาญี่ปุ่นทั้งเจ็ดในสัปดาห์ ซึ่งมีวิธีการเรียงวันเดือนปีแตกต่างออกไปจากภาษาอื่นๆ เป็นต้น หากเราเริ่มเรียนภาษาจากเรื่องที่ใกล้ตัวเหล่านี้ก่อน เราจะมีโอกาสฝึกฝนและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มากกว่า