ที่รักภาษาจีนพูดว่าอะไร ใช้คำไหนได้บ้าง

คำว่า “ที่รัก” ภาษาจีนที่ใช้บ่อยที่สุด คือ

亲爱的 (Qīn’ài de)

คำๆ นี้แปลได้ตรงๆ ว่า ที่รักในภาษาจีน และมีความหมายเหมือนกับคำว่าที่รักภาษาอังกฤษและที่รักภาษาญี่ปุ่น แต่ถ้าคุณมีโอกาสไปประเทศจีน คุณจะสังเกตว่าผู้คนจะเรียกแฟนหรือคนที่รักด้วยชื่อเล่นน่ารักๆ อีกหลายแบบ และไม่ใช่แค่แฟนเท่านั้นที่คนจีนจะตั้งชื่อเล่นไว้เรียกได้ บทความนี้ครูภาษาจีนของเราจะมาอธิบายให้เข้าใจว่าคนจีนเรียกแฟนหรือเพื่อนสนิทว่าอย่างไรกันบ้าง คนทั่วไปมีชื่อเล่นที่ไว้เรียกกันเพื่อความสนิทสนมหรือเปล่า แล้วรูปแบบจะเป็นอย่างไร

ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับคนสำคัญของคุณ

สำหรับประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นภรรยา สามี หรือคู่รักส่วนใหญ่มักจะมีชื่อเล่นน่ารักๆไว้เรียกกัน บางคู่ก็เรียกชื่อเล่นกันตลกๆ บางคู่ก็เรียกกันด้วยความรักความเอ็นดู ต่อไปนี้เป็นชื่อเล่นกลางๆที่ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยในภาษาจีน สามารถนำไปเรียกคนสำคัญของคุณพร้อมกับประโยคบอกรักภาษาจีนซึ้งๆ ได้เลย

ภาษาจีนพินอินคำอ่านคำแปลภาษาไทย
亲爱的 Qīn’ài deชิน อ้าย เตอที่รัก
宝贝Bǎo bèiเป่า เป้ยเบบี๋
Qīnชินบี๋, ดาร์หลิง
亲亲Qīn qīnชิน ชินที่รักจ๋า, จูบ
老相好Lǎo xiàng hǎoเหล่า เซี่ยง ห่าวคนดี, ที่รัก

亲爱的 (Qīn’ài de)

亲爱的 (Qīn’ài de) เป็นหนึ่งในชื่อเล่นของคู่รักชาวจีนที่ใช้กันทั่วไป สำหรับใช้เรียกคนสำคัญของกันและกัน ความหมายใกล้เคียงกับคำว่า Darling ในภาษาอังกฤษและคำว่า ”ที่รัก” ในภาษาไทย จะใช้เรียกผู้ชายก็ได้ เรียกผู้หญิงก็ดี และไม่จำกัดว่าต้องใช้เรียกคู่รักที่เป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น คู่ที่ยังไม่แต่งงานก็สามารถใช้คำนี้ได้ด้วย

宝贝 (Bǎo bèi)

ความหมายตรงตัวของคำว่า 宝贝 (Bǎo bèi) คือ ”ของมีค่า” หรือ ”ทรัพย์สมบัติ” เมื่อเรียกคู่รักของตัวเองด้วยคำนี้จึงเป็นการแสดงออกให้รู้ว่าพวกเขามีค่าและมีความหมายกับคุณมากแค่ไหน ด้วยนำ้เสียงและบริบททางวัฒนธรรมของจีน คำว่า 宝贝 (Bǎo bèi) จะฟังดูน่ารักๆ กว่าคำว่า 亲爱的 (qīn’ài de) การเรียกคนรักด้วยคำนี้น่าจะใกล้เคียงกับความหมายของคำว่า “เบบี๋” ที่คนไทยใช้เรียกกัน

(Qīn)

(Qīn) เป็นชื่อเล่นที่เรียกกันย่อๆ มาจากคำว่า 亲爱的 (qīn’ài de) เป็นคำที่คู่รักนิยมใช้เรียกกันและกัน โดยเฉพาะในโลกโซเชียล และมีความเป็นคำแสลงอยู่นิดๆ ความหมายประมาณคำว่า “ดาร์หลิง” หรือ “บี๋” ที่ย่อมาจากเบบี๋นั่นเอง

亲亲 (Qīn qīn)

คำว่า 亲亲 (Qīn qīn) เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของคำว่า 亲爱的 (Qīn’ài de) แปลว่า ”ที่รัก” แต่ชื่อเล่นนี้ฟังดูน่ารักเป็นพิเศษ เพราะคำนี้หมายถึง ”จูบ” ในภาษาจีนได้อีกด้วย คู่รักวัยรุ่นจะชอบใช้คำนี้กันมาก และในบางครั้งคู่รักสูงวัยก็ใช้ด้วยเช่นกัน เพราะคำนี้ให้ความรู้สึกขี้เล่นและเจ้าชู้นิดๆ ได้ยินแล้วก็ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเหมือนได้ย้อนกลับไปในวัยเยาว์

老相好 (Lǎo xiàng hǎo)

ประโยค 老相好 (Lǎo xiàng hǎo) เป็นชื่อเล่นที่ใช้เรียกกันอยู่บ่อยๆระหว่างคู่รัก โดยเฉพาะคู่รักวัยเก๋า และบางครั้งคู่รักอายุน้อยๆก็ใช้คำนี้ด้วยเช่นกัน แต่ในบริบทที่ต้องการจะประชดประชันหรือขำขันเหน็บแนมกันมากกว่า คำนี้มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า ”คนดี” หรือ ”ที่รัก”

ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับแฟนหนุ่ม

ในภาษาจีนมีชื่อเล่นน่ารักๆที่ใช้เรียกแฟนผู้ชายหรือสามีมากมาย แม้ว่าภายนอกพวกเขาจะดูเข้มแข็ง กล้าหาญ ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่หากได้ยินคนรักเรียกพวกเขาด้วยคำหวานๆ แสดงถึงความรักความเอาใจใส่แล้วล่ะก็ หัวใจของพวกเขาก็คงจะอ่อนยวบลงไปอย่างแน่นอน

ภาษาจีนพินอินคำอ่านคำแปลภาษาไทย
先生Xiān shēngเซียน เซิงคุณคะ, คุณผู้ชาย
哥哥Gēgēเกอ เกอพี่ชาย
男神 Nán shénหนาน เสินขั้นเทพ, เทพเจ้า
老公 Lǎo gōngเหล่า กงคุณสามี
大野猪Dà yězhūต้า เหย่ จู้เจ้าหมูป่าอ้วน

先生 (Xiān shēng)

ในภาษาจีนคำว่า 先生 (Xiān shēng) ถือเป็นคำค่อนข้างสุภาพและเป็นคำเรียกที่ฟังดูสบายๆในคราวเดียวกันอีกด้วย ความหมายของคำนี้ใกล้เคียงกับคำว่า “คุณคะ” หรือ ”คุณผู้ชาย” ในภาษาไทย ถึงแม้ว่าจะเป็นคำที่มีความเป็นทางการ ฟังดูเหมือนไม่ค่อยอ่อนโยนเท่าไหร่ แต่ผู้หญิงชาวจีนมักจะเรียกแฟนของพวกเธอด้วยคำนี้กันมาก เพราะดูสง่างามและใช้ได้อย่างเหมาะสมในที่ทำงานหรือสถานการณ์ที่เป็นทางการ

哥哥 (Gēgē)

ในวัฒนธรรมตะวันตก การยกคู่เดตของเราให้เป็นเหมือนกับ ”พี่ชาย” หรือ 哥哥 (gēgē) อาจจะไม่คุ้นเคยหรืออึดอัดใจกันอยู่บ้าง แต่ในประเทศจีน เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจีนจะเรียกแฟนของตนเองว่า 哥哥 (gēgē) คำนี้จึงเป็นชื่อเล่นทั่วไปที่ใช้เรียกแฟนผู้ชาย และด้วยบริบททางวัฒนธรรม ชาวจีนจะเรียกแฟนของตนเองด้วยคำที่บรรยายถึงความสนิทสนมเหมือนคนในครอบครัว เมื่อคิดแบบนี้แล้วคำว่า 哥哥 (gēgē) จึงฟังดูหวานเจี๊ยบเลยทีเดียว

ถึงแม้จะฟังดูดีเมื่อผู้หญิงเรียกแฟนที่มีอายุมากกว่าด้วย คำว่า 哥哥 (gēgē) แต่ในทางกลับกัน ถ้าผู้หญิงเรียกแฟนที่อายุน้อยกว่าตนเองด้วยคำว่า 弟弟 (dìdi) กลับฟังดูแปลกและรู้สึกเคอะเขินมากกว่า

男神 (Nán shén)

คำว่า 男神 (Nán shén) ประกอบด้วยตัวอักษร 男 ที่แปลว่า “ผู้ชาย” และ 神 แปลว่า ”พระเจ้า” เมื่อผู้หญิงเรียกแฟนของตัวเองด้วยคำที่มีความหมายว่า ”ผู้ชายและเทพเจ้า” พวกเธอกำลังล้อแฟนตัวเองขำๆและชมเชยพวกเขาไปด้วยพร้อมๆกัน ยกตัวอย่างเช่น หากแฟนของคุณกำลังเล่นวิดิโอเกมอยู่และได้ชัยชนะขาดลอย แม้คุณจะไม่ได้สนใจการเล่นเกมของพวกเขาแต่ก็อยากร่วมยินดีในความสำเร็จด้วย คุณอาจจะพูดว่า ”ว้าว! เทพเจ้าชัดๆ ไม่มีใครน่ากลัวเท่าคุณอีกแล้วล่ะ”

老公 (Lǎo gōng)

สำหรับประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ การเรียกแฟนหนุ่มที่ยังไม่แต่งงานกันด้วยคำว่า 老公 (Lǎo gōng) หรือ ”สามี” อาจจะดูเร็วไปหน่อย แต่ถ้าคบกันไปสักระยะหนึ่งและรู้จักกันดีแล้ว บางครั้งก็จะได้ยินพวกเธอเรียกแฟนตัวเองว่า ”สามี” ก่อนที่พวกเขาจะขอพวกเธอแต่งงานด้วยซ้ำ

大野猪 (Dà yězhū)

ไม่ใช่ว่าชื่อเล่นสำหรับเรียกคู่รักในภาษาจีนทั้งหมดจะฟังดูชื่นชมและยกยอแฟนตัวเองไปเสียหมด ยกตัวอย่างคำนี้ 大野猪 (Dà yězhū) ที่แปลว่า ”เจ้าหมูป่าอ้วน” ฟังดูแล้วเหมือนเป็นการดูหมิ่น แต่สามารถใช้เรียกแฟนหนุ่มด้วยความรักได้เช่นกัน หมูป่าเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ แข็งแรง บุ่มบ่ามและหุนหันพลันแล่น การเรียกแฟนหนุ่มตัวเองว่า “เจ้าหมูป่าอ้วน” ก็เหมือนกับการบอกว่าพวกเขาคือ ”หมีใหญ่ใจดี” ถึงแม้จะเงอะงะ หรือทำผิดอยู่บ้างแต่รวมๆแล้วก็ยังน่ารักมากกว่า

ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับแฟนสาว

ชื่อเล่นสำหรับเรียกแฟนสาวในภาษาจีน มักจะมีความหมายที่แสดงถึงความรักและความชื่นชม ในขณะที่คนไทยหรือชาวตะวันตกจะเรียกกันว่า ”เบบี๋” หรือ “Babe” แต่ในภาษาจีนถ้าแปลตรงตัวคำว่า “Baby” และใช้เรียกแฟนสาวชาวจีน อาจจะฟังดูแปลกและถึงขนาดทำให้พวกเธอโกรธได้เลย ต่อไปนี้คือชื่อเล่นสำหรับเรียกแฟนสาวที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับคุณอย่างแน่นอน

ภาษาจีนพินอินคำอ่านคำแปลภาษาไทย
太太 Tàitàiไท่ ไท่คุณภรรยา
妹妹 Mèimeiเม่ย เมยน้องสาว
小公举 Xiǎo gōng jǔเสี่ยว กง จวี่เจ้าหญิงน้อย
老婆 Lǎo póเหล่า ผอคุณภรรยา
妞妞 Niū niūนิว นิวสาวน้อย

太太 (Tàitài)

คำว่า 太太 (Tàitài) หมายถึง ”ภรรยา” เมื่อเรียกใครบางคนด้วยชื่อของเธอตามด้วยคำว่า 太太 ถือเป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน สามารถใช้เรียกคู่รัก แฟนสาวหรือภรรยาที่แต่งงานแล้ว แต่อาจจะฟังดูแปลกนิดหน่อยหากใช้คำนี้เรียกแฟนสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ เว้นเสียแต่ว่าจะเรียกกันตลกๆขำๆได้

妹妹 (Mèimei)

เช่นเดียวกับที่ผู้หญิงเรียกแฟนหนุ่มที่อายุมากกว่าของพวกเธอว่า 哥哥 (gēgē) ผู้ชายจีนก็เรียนแฟนสาวของตนเองกลับว่า 妹妹 (Mèimei) หรือ ”น้องสาว” เช่นกัน คำนี้สื่อความหมายถึงความใกล้ชิดสนิทสนมเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน มีความผูกพันกันเหมือนพี่ชายและน้องสาว ซึ่งเป็นค่านิยมของสังคมตามลัทธิขงจื๊อที่มีมาแต่โบราณ

小公举 (Xiǎo gōng jǔ)

แม้ว่าตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ในประเทศจีนจะไม่มีระบอบจักรพรรดิ์หรือราชวงศ์แล้ว แต่ชายชาวจีนหลายคนยังเรียกแฟนสาวตนเองว่า 小公举 (xiǎo gōng jǔ) หรือ ”เจ้าหญิงน้อย” กันอยู่ ชื่อเล่นนี้บ่งบอกว่าไม่มีใครสง่างามเท่ากับผู้หญิงของพวกเขาอีกแล้ว ในบรรดาชื่อเล่นสำหรับเรียกแฟนสาว คำนี้ให้ความรู้สึกถึงความรักความชื่นชมมากกว่าคำอื่นๆ แต่บางครั้งก็สามารถใช้ในสถานการณ์แบบหยอกล้อกันก็ได้ เช่น เมื่อแฟนสาวขอร้องให้คุณทำอะไร คุณก็อาจจะตอบกลับไปว่า ”ได้ขอรับ เจ้าหญิงน้อยของผม”

老婆 (Lǎo pó)

ในภาษาจีนกลาง เมื่อผู้หญิงเรียกแฟนหนุ่มหรือสามีว่า 老公 (lǎo gōng) ผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะเรียกแฟนสาวหรือภรรยาตนเองว่า 老婆 (lǎo pó) คำนี้แปลตรงตัวว่า ”สาวแก่” แต่ก็ใช้เรียกภรรยาหรือแฟนสาวโดยไม่ได้คำนึงว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ บางครั้งคู่รักที่ยังไม่แต่งงานก็สามารถใช้คำนี้ได้ และคำนี้มีความหมายเทียบเคียงกับคำว่า “คุณภรรยา” ในภาษาไทย

妞妞 (Niū niū)

คำว่า 妞妞 (Niū niū) เป็นหนึ่งในชื่อเล่นน่ารักๆในภาษาจีนที่สื่อความหมายถึงอายุที่ยังน้อยและความไร้เดียงสาของแฟนสาว คำว่า 妞妞 (Niū niū) แปลว่า ”สาวน้อย” คำนี้ใช้เหมือนกับคำว่า ”babe” หรือ ”เบบี๋” ในภาษาไทยหรือที่ชาวตะวันตกใช้เรียกกัน ในวัฒนธรรมตะวันตกถ้าเรียกแฟนสาวที่มีอายุมากกว่าว่า ”Babe” อาจจะฟังดูน่าขนลุกเล็กน้อย แต่ในประเทศจีนสามารถทำได้ ดูน่ารักและไม่แปลกเลย

ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับเพื่อนสนิท

วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนภาษาจีนคือเรียนรู้ผ่านบทสนทนาและฝึกฝนกับเพื่อนสนิท ชาวจีนทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะเรียกกันด้วยชื่อเล่นที่แสดงถึงความสนิทสนมและบ่งบอกถึงสายสัมพันธ์อันดีของพวกเขา ต่อไปนี้คือชื่อเล่นที่ใช้เรียกแทนชื่อเต็มของเพื่อนสนิทคนสำคัญที่นิยมใช้ในภาษาจีน

ภาษาจีนคำอ่านพินอินคำแปลภาษาไทย
Āอาอา (ชื่อจริง)
Xiǎoเสี่ยวน้อย
ต้าใหญ่
Pàngพั่งอ้วน
傻瓜 Shǎguāฉ่า กวาเจ้าโง่

(Ā)

การรวมตัวอักษร 阿 (ā) เข้ากับชื่อของเพื่อนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้เรียกกันระหว่างเพื่อนสนิท ยกตัวอย่างเช่น หากเพื่อนของคุณชื่อ 李明 (Lǐ Míng) เราจะเรียกเขาว่า 阿明 (Ā Ming)ก็ได้ คำนี้ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่เป็นการเรียกชื่อเล่นที่ฟังดูน่ารัก สำหรับใช้เรียกสมาชิกในครอบครัวหรือเรียกกันในหมู่เพื่อนฝูง นิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะหากชื่อบุคคลนั้นเป็นชื่อสั้นๆ

(Xiǎo)

คำว่า 小 (Xiǎo) ในภาษาจีน หมายถึง ”เล็ก” เมื่อใช้ร่วมกับชื่อของใครจะมีความหมายคล้ายกับคำว่า ”Little” ในภาษาอังกฤษ หรือคำว่า ”น้อย” ในภาษาไทย โดยทั่วไปจะใช้คำนี้กับคนสองคนที่มีชื่อเหมือนกัน เช่น หากมีเพื่อนชื่อ 明 (Míng) สองคนในกลุ่ม คนที่อายุน้อยกว่าหรือตัวเล็กกว่า เพื่อนๆจะเรียกว่า 小明 (Xiǎo Míng) เพื่อระบุชื่อให้ต่างจากอีกคนหนึ่ง

(Dà)

เพื่อนซี้ของคำว่า 小 (xiǎo) คงหนีไม่พ้นคำว่า 大 (dà) ที่หมายถึง ”ใหญ่” ในภาษาจีน เราจะใช้คำนี้ร่วมกับชื่อจริงของเพื่อน โดยละชื่อสกุลเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น หากมีเพื่อนในกลุ่มชื่อ 小明 (Xiǎo Míng) อีกคนจะก็จะชื่อ 大明 (Dà Míng) เป็นต้น หรือใช้เรียกเพื่อนในกรณีที่เพื่อนของคุณมีรูปร่างใหญ่โต คุณอาจจะเติมคำว่า 大 (dà) ท้ายชื่อจริงของพวกเขา เพื่อสื่อความหมายถึงรูปร่าางสูงใหญ่ของพวกเขานั่นเอง

(Pàng)

ในประเทศฝั่งตะวันตก การถูกเรียกว่า ”อ้วน“ ไม่ใช่คำชื่นชมอย่างแน่นอน ถือเป็นคำดูถูกและมองว่าไม่สุภาพมาก แต่ในประเทศจีน การถูกเรียกว่า ”อ้วน“ จากเพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัว ชาวจีนกลับมองว่าเป็นการเรียกด้วยความรักใคร่มากกว่า คนจีนสมัยก่อนมีค่านิยมว่า ”ความอ้วน” ถือเป็นสิ่งที่ดีเพราะแสดงว่าคุณมีกินมีใช้อย่างเพียงพอและบ่งบอกว่าสุขภาพดี แม้ปัจจุบันค่านิยมความงามก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่การเรียกคนอื่นว่า ”อ้วน” หรือ 胖 (Pàng) ในภาษาจีนก็ยังไม่ได้ถือว่าหยาบคายแต่อย่างใด ถือเป็นการเรียกเพราะความรักใคร่มากกว่า

傻瓜 (Shǎguā)

คำว่า 傻瓜 (Shǎguā) ในภาษาจีน แปลว่า ”ไอ้แตงโง่” อาจจะฟังดูรุนแรง แต่สำหรับประเทศจีน ในหมู่เพื่อนสนิทมักจะเรียกกันด้วยคำดูถูกหรือคำด่าเพื่อแสดงความสนิทสนม เหมือนกับที่คู่รักมักเรียกกันว่า 笨蛋 (bèndàn) หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า ”เจ้าไข่โง่”

แนวคิดสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ไม่ว่าคุณจะพูดถึงกันและกันได้แย่ขนาดไหน แต่พวกคุณก็รู้ว่าเป็นเรื่องไร้สาระและถือเป็นเรื่องหยอกล้อกันสนุกๆไม่ได้ทำร้ายใครระหว่างเพื่อนฝูง ในภาษาไทยน่าจะเทียบเคียงได้กับคำว่า ”เจ้าโง่” หรือ ”เจ้าเด็กโง่” ซึ่งใช้เรียกเพื่อน เมื่อเพื่อนทำอะไรพลาดหรือทำตัวโง่ๆ นั่นเอง

ชื่อเล่นภาษาจีนเจ๋งๆ

การพูดภาษาจีนได้ก็เรื่องหนึ่ง แต่การพูดให้เหมือนเจ้าของภาษาอย่างเป็นธรรมชาติก็เป็นอีกเรื่องที่จะทำให้คุณดูโดดเด่นท่ามกลางนักเรียนที่เรียนภาษาจีนด้วยกัน การจะพูดได้เหมือนเจ้าของภาษา จำเป็นจะต้องรู้ว่าเจ้าของภาษานั้น พวกเขาพูดอย่างไรในชีวิตประจำวัน ต่อไปนี้คือชื่อเล่นที่ทันสมัยสำหรับชาวจีนที่ใช้เรียกกันจริงๆ หากได้ลองใช้อาจจะทำให้ภาษาจีนของคุณดูเหมือนเป็นภาษาแม่เลยก็ได้

ภาษาจีนพินอินคำอ่านคำแปลภาษาไทย
帅哥 Shuàigēสว้าย เกอคุณผู้ชาย
小姐 Xiǎojiěเสียว เจี่ยคุณผู้หญิง
老板 Lǎobǎnเหลา ปั่นเถ้าแก่, เจ้านาย
师傅 Shīfuซือ ฟูปรมาจารย์
心肝 Xīngānซิน กัน ดวงใจ

帅哥 (Shuàigē)

คำว่า 帅哥 (Shuàigē) เป็นทั้งคำชมและชื่อเล่นที่ใช้เรียกกันทั่วไป หากแปลตรงตัวเป็นภาษาไทยคือ ”สุดหล่อ” แต่ความหมายเทียบเคียงกับคำว่า ”คุณผู้ชาย” ในภาษาไทยมากกว่า เราจะใช้เรียกคนที่คุณไม่รู้จักชื่อจริงของพวกเขาหรือสถานการณ์ไม่เหมาะสมที่จะถามชื่อจริง ยกตัวอย่างในร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟมักจะเรียกลูกค้าผู้ชายว่า 帅哥 (Shuàigē) แทนที่จะเรียกชื่อจริงของลูกค้า หรือในกรณีที่มีผู้ชายอายุน้อยกว่าทำของหรือกระเป๋าเงินตก คุณจำเป็นต้องเรียกเพื่อให้เขาหันมา ก็สามารถใช้คำว่า 帅哥 (Shuàigē) ได้เช่นกัน

小姐 (Xiǎojiě)

คำว่า 小姐 (Xiǎojiě) ใช้สำหรับเรียกคนที่เราไม่รู้จักเช่นเดียวกับคำว่า 帅哥 (Shuàigē) คำว่า 小姐 (Xiǎojiě) จริงๆแล้วแปลว่า ”สาวน้อย” แต่ไม่จำเป็นว่าคนเรียกจะอายุมากหรือน้อยก็เรียกคำนี้ได้เช่นกัน พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารสามารถเรียกลูกค้าผู้หญิงของตนเองว่า 小姐 (Xiǎojiě) ได้เพราะไม่รู้จักลูกค้าดีพอที่จะเรียกกันด้วยชื่อจริงและการเรียกด้วยชื่อเล่นนี้ยังถือเป็นการให้เกียรติแก่ลูกค้าอีกด้วย

老板 (Lǎobǎn)

คำว่า 老板 (Lǎobǎn) ในภาษาจีนหมายถึง ”เจ้านาย” หรือ ”เถ้าแก่” ชาวจีนจะใช้คำนี้เรียกเจ้านายของพวกเขาในชีวิตจริงหรือใช้เรียกคนที่พวกเขาเคารพนับถือก็ได้ เช่น บุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่หรือเจ้าของร้านค้า เป็นต้น เนื่องจากหากเรียกกันด้วยชื่อจริงของตนเอง อาจจะดูสนิทสนมมากเกินไประหว่างลูกค้ากับร้านค้า ลูกค้าจึงมักจะเรียกเจ้าของร้านว่า ”เถ้าแก่” นอกจากนี้หลายๆครั้ง เราอาจจะได้ยินบางคนเรียกสัตว์เลี้ยงของตัวเองว่า 老板 (Lǎobǎn) ได้เหมือนกัน เป็นการล้อเลียนเมื่อมันทำพฤติกรรมที่ดุดันหรือเอาแต่ใจมากจนเกินไป

师傅 (Shīfu)

คำว่า 师傅 (Shīfu) ในภาษาจีนแปลว่า ”ปรมาจารย์” มีความคล้ายคลึงกับคำว่า 老板 (Lǎobǎn) หากคุณเคยเล่นกังฟูมาก่อนอาจจะคุ้นเคยกับคำนี้ ครูฝึกกังฟูเราจะเรียกกันว่า 师傅 (Shīfu) แต่ถ้าเป็นนอกโรงฝึกแล้ว คำนี้อาจจะใช้เรียกคนขับรถแท็กซี่หรือชายชราที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณปู่หรือคุณตาของเรา แนวคิดของคำนี้คือ เป็นการเรียกเพื่อให้เกียรติว่าพวกเขาผ่านชีวิตมาอย่างยาวนาน ดังนั้นความเชี่ยวชาญหรือชาญฉลาดของพวกเขาที่สั่งสมมาเป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังจะได้เรียนรู้จากพวกเขา เหมือนพวกเขาคือ ”ปรมาจารย์” นั่นเอง

心肝 (Xīngān)

อักษรตัวแรกของคำว่า 心肝 (Xīngān) คือ 心 ที่แปลว่า ”หัวใจ” ในภาษาจีน ส่วนอีกตัวคือ 肝 ก็คือ ”ตับ” การเรียกใครว่า 心肝 (Xīngān) จึงเป็นการบ่งบอกว่าพวกเขามีความสำคัญต่อคุณมากเปรียบเสมือนอวัยวะสำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้ หากขาดอวัยวะสองชิ้นนี้ คุณก็มีชีวิตต่อไปไม่ได้ ปกติคำนี้จะถูกใช้ในบทกวี หากเอามาใช้อาจจะรู้สึกแปลกๆบ้างถ้าไม่ได้สนิทกันจริง

ชื่อเล่นภาษาจีนตลกๆ

ในประเทศจีน มีชื่อเล่นที่เรียกกันตลกๆในหมู่เพื่อนฝูง บ้างก็ล้อเลียน บ้างก็ยกเอาปมด้อยหรือจุดเด่นมาเรียกกัน หรือเปรียบเทียบเพื่อนกับบางอย่างที่รู้จักกันดีก็มี บางชื่ออาจจะฟังดูใจร้ายหรือหยาบคาย แต่จริงๆแล้วในวัฒนธรรมจีน ชื่อเล่นเหล่านี้คือสัญลักษณ์ของความรักใคร่กลมเกลียวระหว่างเพื่อนฝูงมากกว่า

ภาษาจีนพินอินคำอ่านคำแปลภาษาไทย
冰美人 Bīng měirénปิง เหม่ยเหรินสวยเป็นน้ำแข็ง
叶良辰 Yè liángchénเย่ เหลียงเฉินเย่ เหลียงเฉินจอมหยิ่ง
爸宝 Bà bǎoป้า เป่าลูกแหง่
独眼龙 Dúyǎnlóngตู๋เหยี่ยนหลงมังกรตาเดียว
唐僧 Tángsēngถังเซิงถังเซิงคนพูดมาก

冰美人 (Bīng měirén)

ผู้หญิงที่สวยแต่เย็นชา มักถูกเรียกว่า 冰美人 (Bīng měirén) ซึ่งแปลว่า ”คนสวย/น้ำแข็ง” ในภาษาจีน เป็นชื่อเล่นที่พูดถึงความสวยที่เป็นต้นแบบของหญิงสาวชาวจีนแบบหนึ่ง คนที่ถูกเรียกว่า 冰美人 (Bīng měirén) มักมีความงดงามเต็มสิบแต่เมื่อมีผู้ชายชวนเธอไปออกเดต พวกเธอกลับปฏฺิเสธอย่างเย็นชา

叶良辰 (Yè liángchén)

叶良辰 (Yè liángchén) เป็นชื่อเล่นที่โด่งดังมาจากไวรัลในเว็บไซต์ Weibo ของจีนตั้งแต่ปี 2015 คำว่า 叶良辰 (Yè liángchén) เป็น Username ในรูปประกอบที่มีผู้ชายคนหนึ่งทำท่าหยิ่งผยองหลายๆครั้งต่อหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง ภาพนี้ถูกนำมาทำเป็นมีมที่โด่งดัง จนมาถึงตอนนี้คำว่า 叶良辰 (Yè liángchén) ยังคงใช้เรียกคนที่วางท่าทางหยิ่งผยอง ใหญ่โตโอ้อวดอยู่ จนกลายเป็นแสลงประจำถิ่นบางพื้นที่ของประเทศจีนไปเลย

爸宝 (Bà bǎo)

คำว่า 爸宝 (Bà bǎo) ในภาษาจีนแปลว่า ”สมบัติของพ่อ” ใช้เรียกเด็กผู้หญิงที่มีความสนิทสนมกับพ่อมากๆ คล้ายกับคำว่า ”daddy’s girl” ในภาษาอังกฤษ แม้ว่าการใกล้ชิดกับคนในครอบครัวไม่ได้เป็นเรื่องแย่ แต่คำๆนี้มักถูกใช้ในความหมายเชิงลบ เช่น ใช้เรียกเด็กผู้หญิงที่ถูกตามใจจนเคยตัว เป็นต้น ในทางกลับกันคำว่า 妈宝 (mā bǎo)  ที่แปลว่า ”สมบัติของแม่” ก็ใช้เรียกเด็กผู้ชายที่สนิทสนมกับแม่มากเกินไปด้วยเช่นกัน

独眼龙 (Dúyǎnlóng)

คำว่า 独眼龙 (Dúyǎnlóng) แปลว่า ”มังกรตาเดียว” แต่จริงๆแล้วความหมายของชื่อนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมังกรเลย แต่เป็นชื่อเล่นที่ไว้เรียกคนจีนที่ไปทำศัลยกรรมตาสองชั้นแล้วจำเป็นต้องใช้ผ้าปิดตา เพราะการทำตาสองชั้นต้องทำทีละข้าง และปิดตาไว้ข้างหนึ่ง จึงเหลือตาไว้ใช้งานเพียงข้างเดียว ปัจจุบันการทำศัลยกรรมตาสองชั้นแพร่หลายมาก เราจึงได้ยินคำนี้กันอยู่บ่อยๆ

唐僧 (Tángsēng)

คนจีนเจ้าของภาษามักจะเรียกคนที่พูดมาก พูดไม่หยุดว่า 唐僧 (tángsēng) ซึ่งเป็นชื่อของพระภิกษุที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์ถัง บ้างก็เรียกกันว่า “ซวานจาง” พระรูปนี้มีชื่อเสียงจากการเดินทางไปกลับประเทศอินเดีย และนำคำสอนในศาสนาพุทธมาบอกเล่าให้ทุกคนฟัง แม้ว่าท่านจะเป็นบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์แต่ชื่อของท่านกลับถูกนำมาใช้เรียกคนที่พูดมากจนน่ารำคาญในประเทศจีน

ชื่อเล่นภาษาจีนสำหรับเด็ก

เช่นเดียวกับในประเทศอื่น วิธีการตั้งชื่อลูกของชาวจีนจะบ่งบอกถึงความหวังและความฝันของพวกเขาในอนาคต ตั้งแต่ตัวอักษรในชื่อของเด็กไปจนถึงคำที่ใช้เรียกชื่อลูกจนกระทั่งเขาเติบโตขึ้น ชื่อเรียกของลูกจึงเต็มไปด้วยความหมายสำหรับครอบครัว ต่อไปนี้คือชื่อเล่นในภาษาจีนสำหรับเรียกลูกๆที่พ่อแม่ใช้เรียกพวกเขาด้วยความรัก

ภาษาจีนพินอินคำอ่านคำแปลภาษาไทย
Erเออร์(ชื่อจริง)เออร์
葡萄 Pútáoผูเถาเจ้าองุ่นน้อย
糯米 Nuòmǐนั่วหมี่เจ้าข้าวเหนียว
笑笑 Xiào xiàoเซี่ยวเซี่ยวยิ้มยิ้ม
可乐 Kělèเข่อเล่อเจ้าโคลา

(Er)

วิธีหนึ่งที่พ่อแม่หรือปู่ย่าตายายใช้เรียกลูกหลานของตัวเองเพื่อแสดงความรัก ความเอ็นดู คือ การลงท้ายชื่อเรียกของพวกเขาด้วยคำว่า 儿 (Er) ยกตัวอย่างเช่น หากเด็กชื่อ 诗颖 (Shi Ying) ชื่อเล่นที่ใช้เรียกเด็กคนนี้ก็จะเป็น 诗颖儿 (Shi Ying Er) เป็นต้น โดยทั่วไปตัวอักษร 儿 (Er) ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ใช้เติมเข้าไปท้ายชื่อของเด็ก เพื่อเป็นการเรียกพวกเขาด้วยความรักใคร่เอ็นดู

葡萄 (Pútáo)

คำว่า 葡萄 (Pútáo) หรือองุ่นในภาษาจีน คือ หนึ่งในชื่อผลไม้ที่พ่อแม่นิยมตั้งให้ลูกๆ สื่อเป็นนัยยะว่าลูกๆน่ารักอ่อนหวาน ตัวอ้วนกลมเหมือนผลองุ่น ตัวอย่างชื่อผลไม้อื่นๆที่นิยมเรียกเด็กๆ ได้แก่ 苹果 píng guǒ (แอ๊ปเปิ้ล), 橙子 chéng zi (ส้ม) หรือแม้แต่ táo zi 桃子 (ลูกพีซ)

糯米 (Nuòmǐ)

บางครั้งครอบครัวคนจีนจะเรียกเด็กๆว่า 糯米 (Nuòmǐ) ซึ่งแปลว่า “ข้าวเหนียว” สื่อความหมายถึงความปรารถนาดี เพราะข้าวเหนียวเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล, สุขภาพที่แข็งแรง, รำ่รวยเงินทองและโชคลาภในประเพณีของชาวจีน ชื่อเล่นนี้ใช้เรียกเฉพาะเด็กผู้หญิงเท่านั้น และเชื่อกันว่าชื่อเรียกนี้จะช่วยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายด้วยซึ่งฟังดูขัดกับความน่ารักของชื่ออยู่ไม่น้อย

笑笑 (Xiào xiào)

บ่อยครั้งที่ชื่อเล่นของชาวจีนมักจะใช้คำซ้ำ คำว่า 笑笑 (Xiào xiào) ก็เป็นอีกคำหนึ่งที่ใช้วิธีนี้เช่นกัน ชื่อเล่นนี้แปลเป็นไทยว่า “ยิ้มยิ้ม” หรือ ”หัวเราะหัวเราะ” เมื่อชาวจีนพูดคำซ้ำสองครั้งเพื่ออธิบายลักษณะบางสิ่งบางอย่าง เช่น  红红的 hóng hóng de (สีแดง) หรือ tián tián de 甜甜的 (หวาน) จะเป็นการเน้นย้ำถึงลักษณะที่ใช้บรรยาย สีแดงแดง หมายถึง มันแดงกว่าปกติ รสชาติหวานๆ สื่อความหมายว่าหวานกว่าปกติ ดังนั้นถ้าพ่อแม่เรียกลูกๆ ว่า 笑笑 (Xiào xiào) ก็บ่งบอกถึงความสุขและการยิ้มแย้มของเด็กๆ ที่นำความสุขมาให้กับครอบครัวอย่างมากมาย

可乐 (Kělè)

คำว่า 可乐 (Kělè) เป็นชื่อเล่นที่แปลว่า ”โคลา” ในภาษาจีน นอกจากจะสื่อความหมายถึงความอ่อนหวานเหมือนความหวานของโคลาแล้ว คำว่า 可乐 (Kělè) ประกอบด้วยอักษร 可 (kě) ที่แปลว่าน่ารัก และตัว 乐 (lè) ที่หมายถึง มีความสุข เมื่อดูความหมายทั้งสองตัวอักษรนี้ในชื่อนี้แล้ว การเรียกด้วยชื่อเล่นนี้จึงบ่งบอกให้เห็นถึงความปรารถนาดีและความหวังให้ลูกๆมีความสุขเหมือนกับชื่อที่เรียกนั่นเอง

การตั้งชื่อเล่นของชาวจีนไม่ได้มีรูปแบบหรือกฎเกณฑ์ตายตัว ดังนั้นหากคุณต้องการตั้งชื่อเล่นใหม่ให้กับคนที่คุณรู้จัก ก็อย่ากลัวที่จะสร้างสรรค์ชื่อเล่นตลกๆน่ารักๆให้กับพวกเขา คุณอาจสนใจเรียนรู้คำทักทายสบายดีไหมภาษาจีน หรือคำอวยพรวันสำคัญๆ ในภาษาจีนเพิ่ม เช่น อวยพรวันเกิดภาษาจีนที่คุณควรเลือกใช้ประโยคให้เหมาะสมกับผู้รับพร อวยพรวันตรุษจีนที่สำคัญอย่างมากโดยเฉพาะหากคุณค้าขายหรือทำธุรกิจกับคนจีน หรืออวยพรวันคริสต์มาสที่แม้จะไม่ใช่วันหยุดประจำชาติของประเทศจีน แต่ก็เป็นวันที่คนจีนให้ความสำคัญ และถือว่าเป็นวันแห่งความสนุกวันหนึ่ง นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียนการบอกลาภาษาจีนที่มักเป็นการอวยพรขอให้มีวันที่ดี และกล่าวโชคดีภาษาจีนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับเพื่อนชาวจีนของคุณ เพราะยิ่งคุณใช้เวลาเรียนภาษาจีนนานเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรู้จักวัฒนธรรมของชาวจีนมากขึ้นเท่านั้น

อัพเดทล่าสุด: