คํานําหน้าชื่อภาษาอังกฤษ Mister (Mr) Miss (Ms) Missus (Mrs)
คำนำหน้าชื่อที่ใช้บ่อยที่สุดคือ
- Mister ย่อเป็น Mr (มิสเตอร์) แปลว่า นาย
- Miss ย่อเป็น Ms (มิส) แปลว่า นางสาว
- Missus ย่อเป็น Mrs (มิสซิส) แปลว่า นาง
คำนำหน้าภาษาอังกฤษใช้คำว่า title (ไทเทิ้ล) เมื่อเราต้องกรอกแบบฟอร์มต่างๆ มักจะต้องเลือกคำว่านำหน้าบนแบบฟอร์มด้วย ในกรณีนี้ให้เราเลือกคำนำหน้าที่ตรงกับสถานะของเราได้เลย คือ นาย (Mr), นาง (Mrs) และ นางสาว (Ms)
ผู้เรียนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์หลายคนคงทราบแล้วว่าการใช้คำนำหน้าในภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้แค่เมื่อต้องกรอกแบบฟอร์มเท่านั้น แต่ยังใช้ในการสนทนาในชีวิตประจำวันอีกด้วย หากใครยังไม่ทราบ เรามาเรียนกันในบทเรียนนี้ได้เลย
คำนำหน้าแบบเป็นทางการในภาษาอังกฤษ
ในสถานการณ์ทางธุรกิจเราควรใช้คำนำหน้าที่เป็นทางการ ต่อไปนี้เป็นคำนำหน้าที่เป็นทางการในภาษาอังกฤษที่ควรรู้
- Sir (เซ่อร์) — ใช้กับผู้ใหญ่เพศชายทุกช่วงอายุ
- Ma’am (แมม, มาม) — ใช้กับผู้ใหญ่เพศหญิง (ใช้ในแถบอเมริกาเหนือ)
- Madam (แมดเดิม) — ใช้กับผู้ใหญ่เพศหญิง
- Mr (มิสเตอร์) + นามสกุล — ใช้กับผู้ชาย
- Mrs (มิสซิซ) + นามสกุล — ใช้กับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและใช้นามสกุลของสามี
- Ms (มิซ) + นามสกุล — ใช้ได้ทั้งผู้หญิงที่แต่งงานแล้วหรือผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน เป็นคำนำหน้าที่ถูกใช้บ่อยในทางธุรกิจ
- Miss (มิส) + นามสกุล — ใช้กับผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน
- Dr (ดอคเท่อะ) + นามสกุล — ดอกเตอร์หรือแพทย์บางคนก็ใช้ Dr. + ชื่อจริง
- Professor (โพรเฟสเซ่อะ) + นามสกุล — ใช้ในมหาวิทยาลัย
ต่อไปนี้เรามาดูยกตัวอย่างการใช้งานในสถานการณ์จริงกัน
หากเราต้องการเรียกความสนใจจากใครสักคน เราสามารถพูดว่า
“Excuse me, Sir“
ขอประทานโทษค่ะ(ครับ) คุณผู้ชาย
หรือ
“Pardon me, Madam/Ma’am.“
ขออภัยคุณค่ะ(ครับ) คุณผู้หญิง
หากต้องการพูดทักทายกับใคร เราสามารถพูดว่า
“Hello Sir”
สวัสดีค่ะ(ครับ)ท่าน
หรือ
“Good morning, Madam/Ma’am.”
อรุณสวัสดิ์ครับ(ค่ะ), คุณผู้หญิง
ข้อควรรู้
ในบางโอกาส เราอาจจะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันแล้ว เราจะสามารถเรียกชื่อจริงแทนนามสกุลได้ โดยการเรียกแบบนี้ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “on a first name basis” หรือ “on first name terms” หมายความว่า เราสนิทกันระดับหนึ่งที่เรียกชื่อจริงกันได้แล้ว
อย่างเช่น คุณครูภาษาอังกฤษของเราชื่อ Mr John Smith หากเราไม่สนิทกับครูนัก ก็อาจจะเริ่มเรียกครูว่า Mr Smith แต่หากเราสนิทสนมกับครูมากแล้ว ก็อาจจะเรียกครูว่า Mr John แทนได้ ซึ่งการเรียกเช่นนี้ต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของชื่อก่อนว่าเค้าโอเคหรือไม่ โดยเจ้าของภาษาหลายคนมักจะเป็นบอกเองว่าต้องการถูกเรียกอย่างไร
ตัวอย่างการทักทาย Ms Pamela Lyn
Hello, Ms Lyn!
(สวัสดีครับ ลิน)
Oh, please call me Pam!
(โอ้ เรียกฉันว่าแพมก็ได้ค่ะ)
คำนำหน้าแบบไม่เป็นทางการในภาษาอังกฤษ
ความสัมพันธ์แบบเป็นกันเองหรือสนิทสนมคุ้นเคยกันจนสามารถเรียกกันแบบสบายๆหรือไม่เป็นทางการมากขึ้น สามารถใช้ Mr, Ms, Mrs และตามด้วยชื่อต้น หรือชื่อจริงได้เลย
ตัวอย่างเช่น
Hello, John, how are you?
สวัสดีจอห์น สบายดีไหม?
Professor Sana, there’s someone to see you.
ศาสตราจารย์ซาน่าคะ มีคนมารอพบคุณอยู่ค่ะ
เราจะใช้ ชื่อแรก(ชื่อต้น) + ชื่อสกุล (นามสกุล) เมื่อเราไม่แน่ใจว่าคนที่เรากำลังคุยอยู่นั้นรู้จักคนที่เราพูดถึงอยู่หรือไม่
ตัวอย่างเช่น
Do you know Simon Perry?
คุณรู้จักกับไซมอน เพอร์รี่ไหม?
Joy Goodfellow had to go to hospital today. I’m not sure why.
วันนี้จอย กู้ดเฟลโลว์ต้องไปโรงพยาบาล ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร
Mr — นาย
เราจะใช้คำนำหน้าว่า “Mr”(มิสเทอ) สำหรับผู้ชาย ซึ่งโดยปกติเราจะไม่เขียนตัวเต็มว่า “Mister”(มิสเทอะ) และจะใช้คำนำหน้าสำหรับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วว่า “Mrs”(มิสซิซ)
Ms — นางสาว
ส่วนคำนำหน้า “Ms” (มิส) แม้จะแปลว่า “นางสาว” ในภาษาไทย แต่ในภาษาอังกฤษเราไม่สามารถระบุได้ว่าผู้หญิงคนนั้นแต่งงานแล้วหรือไม่ บางคนเลือกที่จะใช้นามสกุลตัวเองและใช้คำนำหน้าว่า “Ms”(มิส) ตามเดิมก็มี
Mrs — นาง
ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วบางคนจะใช้นามสกุลของสามีและใช้คำนำหน้าว่า “Mrs“(มิสซิซ)
Ms, Master — เด็กหญิง, เด็กชาย
เด็กผู้ชายเราจะใช้คำนำหน้าว่า Master (มาสเทอะ) และสำหรับเด็กผู้หญิงเราจะใช้คำว่า Miss (มิส)
คำเรียกชื่อแบบสุภาพ
คำที่ถูกใช้บ่อยที่สุดในสถานที่ต่างๆ อย่างร้านค้าหรือโรงแรมที่ให้บริการ ได้แก่ คำว่า
- sir(เซอร์) — คุณผู้ชาย
- madam(แมดเดิม) — คุณผู้หญิง
ยกตัวอย่างเช่น ในร้านค้า เมื่อพนักขายกำลังพูดคุยกับลูกค้า
How can I help you, madam?
ให้ฉันช่วยอะไรมั้ยคะ คุณผู้หญิง?
ในห้องเรียนที่โรงเรียน เมื่อนักเรียนคุยกับคุณครู
Sir, she keeps talking all the time.
คุณครูครับ เธอเอาแต่พูดตลอดเวลาเลยครับ
การเรียกคนแปลกหน้า
ในภาษาอังกฤษ ไม่มีคำที่สุภาพสำหรับพูดคุยหรือเรียกคนแปลกหน้าโดยเฉพาะ เมื่อเราจำเป็นต้องเรียกหรือดึงความสนใจจากคนแปลกหน้า ให้เรียกด้วยคำนำหน้า และจะใช้คำทักทายภาษาอังกฤษเข้าช่วยในการเรียกในบริบทนี้ เช่น
- Hello(เฮลโล) — สวัสดี
- sorry(ซอรี่) — ขอโทษนะครับ/คะ
- excuse me(เอคคิวซ์ มี) — ขอโทษนะครับ/คะ
ตัวอย่างเช่น
Sorry, Ms, you’ve dropped your scarf.
ขอโทษครับคุณ คุณทำผ้าพันคอตกครับ
Excuse me, Ma’am, are you a friend of Sheila’s?
ขอโทษนะคะ คุณเป็นเพื่อนกับชีล่าหรือเปล่าคะ?
คำนำหน้าชื่อตำแหน่งงาน
ปกติแล้วเราจะไม่เรียกใครด้วยชื่อตำแหน่งงานหรืออาชีพของพวกเขา แต่มีงานหรืออาชีพบางอย่างที่เราสามารถระบุเป็นคำเรียกชื่อหรือคำนำหน้าได้ เช่น
- doctor — นายแพทย์ หรือแพทย์หญิง
- driver — พนักงานขับรถ
- nurse — พยาบาล
- minister — รัฐมนตรี
- officer — เจ้าหน้าที่
- waiter — บริกรหรือพนักงานเสิร์ฟ
ตัวอย่างเช่น
Do you think it’s serious, doctor?
คุณหมอคิดว่ามันร้ายแรงมั้ยครับ?
Now, minister, can you explain this policy to us?
ท่านรัฐมนตรีคะ ช่วยอธิบายนโยบายนี้ให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมคะ?
Excuse me, waiter, sorry, could I have some more bread, please?
ขอโทษนะคะน้อง ขอขนมปังเพิ่มได้ไหมคะ
เราจะใช้คำว่า “Dr” (ดอคเทอะ) สำหรับแพทย์หรือผู้สำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตหรือปริญญาเอก มีคำนำหน้าหลากหลายสำหรับตำแหน่งงาน บางคำก็ถูกใช้บ่อยในทางธุรกิจ ซึ่งคำเรียกตำแหน่งเหล่านี้เป็นคำนามภาษาอังกฤษ
- Chief Executive Officer — ผู้บริหารสูงสุด, ประธานบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ย่อเป็น CEO
- Managing Director — กรรมการผู้จัดการ, ผู้อำนวยการ ย่อเป็น MD
- Financial Director — ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน ย่อเป็น FD
- Chief financial Officer — นักบริหารการเงินอาวุโส ย่อเป็น CFO
- Chief Technical Officer — ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ย่อเป็น CTO
- Vice-President — รองประธาน, รองประธานาธิบดี, รองประธานที่ประชุม, รองอธิการบดี, อุปนายก ย่อเป็น VP (โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา)
- Chair/Chairperson/Chairman — ประธาน, ประธานที่ประชุม
- Members of the Parliament — สมาชิกรัฐสภา ย่อเป็น MP
- Prefect — เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่, นายอำเภอ, เจ้าเมือง, หัวหน้าชั้น, หัวหน้านักเรียน
- Representative — สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, ตัวแทน, ผู้แทน
- Minister — รัฐมนตรี, อัครราชฑูต, ศาสนาจารย์ (คำว่า Minister นี้ยังปรากฎอยู่ในคำว่า Prime Minister : นายกรัฐมนตรีและ Health Minister : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข)
- Doctor — นายแพทย์, แพทย์หญิง, ดอกเตอร์ (ผู้สำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตหรือปริญญาเอก)
บ่อยครั้งที่เรานิยมใช้เป็นตัวย่อ :
ตัวอย่างเช่น
Anne was founder and CEO of this company.
แอนน์เป็นทั้งผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทนี้
บรรดาศักดิ์ของชนชั้นสูงและขุนนาง
- Prince/Princess — เจ้าชาย/เจ้าหญิง มาจากคำในภาษาละตินว่า “princeps” มีความหมายว่า “บุรุษที่หนึ่ง” หรือ “พลเมืองคนแรก”.
- Duke/Duchess — ขุนนางชั้นสูงของประเทศอังกฤษ(ดยุค)/ภรรยาของท่านดยุค มาจากภาษาละตินว่า “Dux” เป็นตำแหน่งทางทหารที่ใช้ในจักรวรรดิโรมัน
- Count/Countess — ขุนนางในประเทศภาคพื้นยุโรป/ภรรยาของขุนนาง มาจากภาษาละติน แปลว่า “สหาย”
- Earl — ท่านเอิร์ล(ตำแหน่งขุนนางอังกฤษ) ใช้ในสหราชอาณาจักรแทนคำว่า “count” แต่หากเป็นเพศหญิงเทียบเท่ากับคำว่า Countess
- Lord และ Lady — ขุนนางหรือสมาชิกของสภาขุนนาง/คุณหญิงหรือท่านผู้หญิง ใช้เป็นคำนำหน้าบรรดาเหล่าขุนนาง