หลักการใช้ there is/there are ใช้ยังไง เข้าใจง่าย มีตัวอย่าง

สำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษกับครูสอนพิเศษทุกคน คงคุ้นเคยกับการใช้ there is/there are ในภาษาอังกฤษกันมาบ้างแล้ว ในบทความนี้มาเรียนรู้วิธีใช้ there is/there are ที่ถูกต้องกัน

there is/there are ในประโยคบอกเล่า (Affirmative sentences)

ประโยคบอกเล่าหรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า affirmative sentence เมื่อใช้ “there is” และ “there are” ในประโยคบอกเล่า เราจะใช้เพื่อระบุว่ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งโดยเฉพาะ ต่อไปนี้คือรายละเอียดวิธีการใช้ที่ถูกต้อง

There is ใช้กับ คำนามนับได้เอกพจน์ (singular countable nouns) ซึ่งเป็นคำนามที่ใช้เรียกสิ่งของที่สามารถนับเป็นชิ้นๆ ได้ เช่น book (หนังสือ), cat (แมว), table (โต๊ะ)

  • There is a book on the shelf.
    มีหนังสือเล่มหนึ่งเล่มบนชั้น
  • There is a friendly cat napping in the sun.
    มีแมวเชื่องๆ กำลังนอนหลับอยู่ใต้แสงอาทิตย์ 1 ตัว
  • There is only one table left in the restaurant.
    มีโต๊ะเหลือเพียง 1 โต๊ะเท่านั้นในร้านอาหาร

There are ใช้กับคำนามนับได้พหูพจน์ (plural countable nouns) และคำนามนับไม่ได้ (uncountable nouns) คำนามนับไม่ได้ (Uncountable nouns) ใช้เรียกคำนามที่ไม่สามารถนับแยกเป็นชิ้น หรืออันได้ เช่น water (น้ำ), furniture (เฟอร์นิเจอร์), happiness (ความสุข)

  • There are beautiful flowers on the table. (พหูพจน์)
    มีดอกไม้สวยงามหลายดอกบนโต๊ะ
  • There are many pieces of furniture in this room. (พหูพจน์)
    มีเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นในห้องนี้
  • There is a lot of happiness in their home. (คำนามนับไม่ได้)
    บ้านนี้เต็มไปด้วยความสุขมากมาย

there is/there are ในประโยคปฏิเสธ (Negative sentences)

“There is” และ “there are” ยังมีประโยชน์ในการใช้เพื่อระบุถึงการไม่มีอยู่ของบางสิ่งบางอย่างอีกด้วย ต่อไปนี้คือการใช้ในประโยคปฏิเสธได้อย่างถูกต้อง

โครงสร้างประโยคปฏิเสธพื้นฐาน

เราสร้างประโยคปฏิเสธด้วย “there is” และ “there are” โดยการวางคำว่า “not” หลัง “is” หรือ “are”

เอกพจน์:
There is not a book on the table.
ไม่มีหนังสืออยู่บนโต๊ะ
(There’s not a book on the table – ไม่เป็นทางการ)

พหูพจน์:
There are not many flowers in the vase.
ไม่มีดอกไม้ในแจกัน
(There aren’t many flowers in the vase – ไม่เป็นทางการ)

“Any” กับคำนามนับไม่ได้:

เมื่อคำนามที่ใช้เป็นคำนามนับไม่ได้ (คำนามที่ไม่มีรูปพหูพจน์ที่ชัดเจน) ส่วนมากแล้วเราจะใช้ “any” หลังคำว่า “not”

  • There isn’t any milk left in the fridge.
    ไม่มีนมเหลือในตู้เย็นเลย

“A/An” ใช้กับนามนับได้:

สำหรับคำนามนับได้ (คำนามที่มีรูปพหูพจน์ที่ชัดเจน) เราสามารถใช้ “a” หรือ “an” ก่อนหน้าคำนามเมื่อเน้นย้ำการไม่มีอยู่ของวัตถุนั้นๆ

  • There isn’t a single mistake in your essay.
    เรียงความของคุณไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว

“No” ใช้เน้นย้ำ:

เราสามารถใช้คำว่า “no” แทนคำว่า “not” เพื่อเน้นย้ำได้อีกด้วย

  • There are no monsters under your bed.
    ไม่มีสัตว์ประหลาดอะไรใต้ที่นอนทั้งนั้นแหละ

there is/there are ในประโยคคำถาม (Interrogative sentences)

“There is” และ “there are” ยังสามารถใช้สร้างประโยคคำถามได้อีกด้วย! เราสามารถใช้เพื่อสร้างคำถามเกี่ยวกับจำนวนได้

Yes/No Questions:

  • ใช้ “is there” สำหรับคำถามนับได้เอกพจน์และคำถามนับไม่ได้
    • Is there a doctor in the house?
      มีหมออยู่ในบ้านไหม
    • Is there any milk left?
      มีนมเหลือหรือเปล่า
  • ใช้ “are there” สำหรับคำถามพหูพจน์
    • Are there any questions?
      มีคำถามอะไรไหม
    • Are there any good restaurants around here?
      มีร้านอาหารดีๆ แถวนี้บ้างไหม

คำถามเกี่ยวกับจำนวน (How Many):

แม้ว่า “there is/are” จะไม่สามารถใช้ถามคำถามที่ขึ้นต้นด้วย “how many” ตรงๆ ด้วยตัวเองได้ ดังนั้นเราจึงรวม “there is/there are” กับคำว่า “how many” เพื่อถามเกี่ยวกับจำนวน การสร้างคำถามเช่นนี้ใช้กับคำนามพหูพจน์เท่านั้น

  • How many apples are there on the table?
    มีแอปเปิ้ลบนโต๊ะกี่ลูก
  • How many people are coming to the party?
    มีคนมางานปาร์ตี้กี่คน

คำตอบสั้นๆ (Short Answers):

เราสามารถใช้ “there is/are” ในการสร้างคำตอบแบบสั้นๆ สำหรับคำถาม yes/no questions ได้:

  • Is there a library nearby? – Yes, there is. (or No, there isn’t.)
    มีห้องสมุดแถวนี้ไหม – ใช่, มีอยู่ (หรือ ไม่, ไม่มี)
  • Are there any tickets left for the concert? – No, there aren’t.
    มีตั๋วสำหรับคอนเสิร์ตเหลือไหม – ไม่, ไม่มีเหลือเลย

there is/there ในกาลต่างๆ (Tenses)

“There is” และ “there are” ไม่ได้ใช้เฉพาะประโยครูปปัจจุบัน (Present tense) เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้กับ Tense อื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ดังต่อไปนี้

  • ประโยคปัจจุบันกาล (Present Simple): เป็นประโยคที่ถูกนำมาใช้บ่อยที่สุด ตัวอย่างเช่น
    • There is a cat sleeping on the couch.
      มีแมวนอนหลับอยู่บนโซฟาหนึ่งตัว
    • There are many stars in the night sky.
      มีดาวหลายดวงบนท้องฟ้า
  • ประโยคอดีตกาล (Past Simple): ใช้เพื่อกล่างถึงบางสิ่งบางอย่างที่มีอยู่ในอดีต
    • There was a movie theater on this corner years ago.
      เคยมีโรงหนังอยู่ที่มุมนี้หลายปีที่แล้ว
    • There were dinosaurs roaming the Earth millions of years ago.
      เคยมีไดโนเสาร์​อยู่บนโลกเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว
  • ประโยคปัจจุบันสมบูรณ์ (Present Perfect): tense นี้กล่าวถึงบางสิ่งบางอย่างที่มีอยู่ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในอดีตจนถึงปัจจุบัน
    • There has been a significant increase in online shopping recently.
      มีการเพิ่มขึ้นของการจับจ่ายใช้สอยออนไลน์มาไม่นานนี้
    • There haven’t been any reported UFO sightings in this area.
      ไม่มีการรายงานเกี่ยวกับการพบเห็น UFO ในพื้นที่นี้มาสักพักแล้ว
  • ประโยคอนาคตกาล (Future Simple): เป็นการกล่าวถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    • There will be a celebration tonight.
      จะมีการเฉลิมฉลองในคืนนี้
    • There won’t be any classes on Monday.
      จะไม่มีชั้นเรียนใดๆ ในวันจันทร์

ข้อสำคัญ: เราไม่สามารถใช้ “there is” หรือ “there are” ในประโยคแบบต่อเนื่อง (Continuous tenses) เพราะ tenses เหล่านี้โฟกัสที่การกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ใช่การมีอยู่ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

รูปย่อของ there is/there are

“There is” มีรูปย่อว่า there’s รูปย่อนี้สามารถใช้กับ “there is” ได้เสมอในประโยคทุกรูปแบบ ตัวอย่างเช่น:

  • There’s a cat on the mat.
    มีแมวอยู่บนพรหม
  • There’s no time to lose.
    ไม่มีเวลาให้เสียแล้ว
  • There’s always hope.
    ยังมีความหวังอยู่เสมอ

ข้อสำคัญ: ไม่มีรูปย่อของ “there are” หากเราย่อ “there are” จะทำให้ประโยคของเราผิดไวยากรณ์

อัพเดทล่าสุด: