วิธีอ่านเลขยกกำลังในภาษาอังกฤษ ยกกำลังติดลบ กำลังสอง กำลังสาม

ในชั้นเรียนภาษาอังกฤษทั่วไป บ่อยครั้งที่เราอาจจะไม่ได้เรียนการอ่านคำภาษาอังกฤษเฉพาะทาง เช่น ภาษาอังกฤษที่ใช้ในทางคณิตศาสตร์ หรือภาษาอังกฤษในทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ในขณะเดียวกันครูสอนคณิตศาตร์เองก็คงไม่สนใจว่าคำเฉพาะทางคณิตเหล่านั้นจะอ่านว่าอย่างไรในภาษาอังกฤษ

แต่ถ้าเราจำเป็นต้องใช้คำเฉพาะเหล่านี้ในการสื่อสารล่ะ? ต่อไปนี้จะเป็นการเสนอคำภาษาอังกฤษที่ใช้ในคณิตศาตร์ง่ายๆ อย่าง “เลขยกกำลัง” และวิธีอ่านกัน

ส่วนประกอบเลขยกกำลังในภาษาอังกฤษ

ส่วนประกอบของเลขยกกำลังภาษาอังกฤษ
ส่วนประกอบของเลขยกกำลังภาษาอังกฤษ

เลขยกกำลังประกอบด้วย “เลขฐาน” ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “base” และ “เลขชี้กำลัง” ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “exponent” ตัวอย่างเช่น

25
มีเลข 2 เป็น base ส่วนเลข 5 เป็น exponent

43 อ่านว่า
มีเลข 4 เป็น base ส่วนเลข 3 เป็น exponent

สรุป

“เลขฐาน” ในภาษาอังกฤษคือ “base”
“เลขชี้กำลัง” ในภาษาอังกฤษคือ “exponent”

วิธีอ่านเลขยกกำลังในภาษาอังกฤษ

วิธีอ่านเลขยกกำลังภาษาอังกฤษ
วิธีอ่านเลขยกกำลังภาษาอังกฤษ

ในภาษาไทยเราใช้คำว่า “ยกกำลัง” ในการอ่านตัวเลขที่คูณตัวเองซ้ำๆ กัน เช่น

25 อ่านว่า 2 ยกกำลัง 5

หมายความว่า 2 x 2 x 2 x 2 x 2 หรือ 2 คูณกัน 5 ครั้งนั่นเอง

ในภาษาอังกฤษ วลีที่ใช้แทนคำว่า “ยกกำลัง” มี 3 วลีที่ใช้บ่อยต่อไปนี้

…raised to the power…
…to the power…
…to the…power

ปกติแล้วเราจะอ่านตัวเลขในภาษาอังกฤษเป็นเลขบอกจำนวน (Cardinal Number) เช่น

  • one (หนึ่ง)
  • two (สอง)
  • three (สาม)
  • four (สี่)
  • five (ห้า)

แต่หากเราอ่านเลขยกกำลังด้วยวิธีที่ 3 คือ …to the…power เราจะต้องอ่านเป็นตัวเลขภาษาอังกฤษบอกตำแหน่ง (Ordinal Number) เช่น

  • first (ที่หนึ่ง)
  • second (ที่สอง)
  • third (ที่สาม)
  • fourth (ที่สี่)
  • fifth (ที่ห้า)

ดังนั้นตัวเลขยกกำลังในภาษาอังกฤษจะสามารถอ่านได้ดังต่อไปนี้

ตัวอย่างการอ่าน

25 อ่านว่า
two raised to the power five
two to the power five
two to the fifth power

45 อ่านว่า
four raised to the power five
four to the power five
four to the fifth power

57 อ่านว่า
five raised to the power seven
five to the power seven
five to the seventh power

ยกกำลัง2 และยกกำลัง3

ยกกำลัง2 และ ยกกำลัง3 ภาษาอังกฤษ
ยกกำลัง2 และ ยกกำลัง3 ภาษาอังกฤษ

เลขยกกำลัง2 และเลขยกกำลัง3 มีการอ่านแบบเฉพาะตัวในภาษาอังกฤษอีกหนึ่งวิธี ดังนี้

ยกกำลัง2 อ่านว่า squared
ยกกำลัง3 อ่านว่า cubed

การอ่านเลขยกกำลังสอง และเลขยกกำลังสามแบบนี้จะได้รับความนิยมมากกว่าสำหรับชาวต่างชาติ เพราะสั้นและกระชับมากกว่าการอ่านแบบอื่นๆ

ตัวอย่างการอ่าน

52 อ่านว่า five squared

22 อ่านว่า two squared

83 อ่านว่า eight cubed

73 อ่านว่า seven cubed

เลขยกกำลังติดลบ

เลขยกกำลังติดลบ ในภาษาอังกฤษเราเรียกว่า ”Negative Exponent“ เป็นเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลัง (exponent) เป็นจำนวนเต็มลบ และเมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มลบแล้วจะทำให้เกิดตัวผกผันของการคูณ ซึ่งแตกต่างจากเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ดังตัวอย่างต่อไปนี้

25 อ่านว่า สองยกกำลังห้า

ตัวอย่างด้านบนนี้หมายความว่า 2 x 2 x 2 x 2 x 2 หรือ 2 คูณกัน 5 ครั้ง

2-5 อ่านว่า สองยกกำลังลบห้า

เมื่อเลขชี้กำลังติดลบ จำนวนนี้จะมีค่าเท่ากับ 1/25 (เศษ 1 ส่วน 2 ยกกำลัง 5)

วิธีอ่านเลขยกกำลังติดลบในภาษาอังกฤษ

วิธีอ่านเลขยกกำลังติดลบในภาษาอังกฤษ
วิธีอ่านเลขยกกำลังติดลบในภาษาอังกฤษ

วิธีอ่านเลขยกกำลังมีหลายวิธี มักใช้เลขบอกจำนวน (cardinal number) ในการอ่านเป็นหลัก วิธีอ่านเลขยกกำลังติดลบที่ได้

… raised to the power minus…
… to the negative…
… to the minus…power

หากต้องการอ่านเลขยกกำลังแบบมีคำว่า power ตามหลังตัวเลข คือ …to the minus…power เราจะต้องอ่านเป็นตัวเลขภาษาอังกฤษบอกตำแหน่ง (Ordinal Number) เช่น second, third, fourth, fifth เป็นต้น

ตัวอย่างการอ่าน

3-2
three raised to the power minus two
three to the negative two
three to the minus second power

10-8
ten raised to the power minus eight
ten to the negative eight
ten to the minus eighth power

เราสามารถเขียนเลขยกกำลังที่ติดลบให้กลายเป็นค่าบวกได้ แต่เราต้องกลับมันให้อยู่ในรูปเศษส่วน และต้องอ่านตัวเลขดังกล่าวเป็นเลขเศษส่วนภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างการอ่านแบบเศษส่วน

5-2 มีค่าเท่ากับ 1/52
one fifth raised to the power two
one over fifth raised to the power two

เราอาจจะไม่รู้สึกว่าวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นศาสตร์วิชาที่ใกล้เคียงกัน แต่สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วก็ควรจะรู้วิธีอ่านรากที่สองและรากที่สาม ตัวเลขยกกำลัง เลขทศนิยม หรือเลขเศษส่วนแบบเบื้องต้นเอาไว้ เพราะเป็นตัวเลขที่เราต้องพบเจอในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ส่วนผู้ที่เรียนคณิตศาสตร์ หากคุณต้องการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางคณิตศาสตร์คนอื่นๆ ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก คุณก็ควรเรียนรู้การอ่านตัวเลขพื้นฐานเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษให้ได้เช่นกัน

อัพเดทล่าสุด: