ที่รัก ภาษาญี่ปุ่น คำเรียกแฟนน่ารักๆ และเพื่อนสนิทภาษาญี่ปุ่น
คำว่า “ที่รัก” ภาษาญี่ปุ่นคือคำว่า
ダーリン (Daarin) — ที่รักของฉัน
ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกคนรัก ไม่ว่าจะเป็นคนรักที่ยังเป็นแฟนกัน หรือคนรักที่แต่งงานกันแล้วก็ได้ คำที่แปลว่า “ที่รัก” หรือคำที่ใช้เรียกคนรักในภาษาญี่ปุ่นมีไม่มาก หลักๆ จะมี 3 คำที่ได้ยินบ่อย ดังนี้
- ダーリン (Daarin)
- ハニー (Hanii)
- あなた (Anata)
มาดูกันว่าแต่ละคำ มีวิธีใช้อย่างไรบ้าง
ダーリン (Daarin)
ダーリン (Daarin) เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า ”My Darling” หรือแปลเป็นไทยว่า ”ที่รักของฉัน” เนื่องจากในภาษาญี่ปุ่นไม่มีคำศัพท์ที่เกี่ยวกับความรักจริงๆ ชาวญี่ปุ่นจึงต้องยืมคำนี้มาจากภาษาอังกฤษ
คำว่า ダーリン (Daarin) เป็นคำที่สามารถใช้เรียกแฟนผู้หญิงภาษาญี่ปุ่นหรือแฟนผู้ชายภาษาญี่ปุ่นก็ได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นเพศอะไร นอกจากนั้นยังสามารถใช้สำหรับคู่รักที่แต่งงานแล้วได้ด้วย
ハニー (Hanii)
คำว่า ハニー (Hanii) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษเช่นกัน มาจากคำว่า ”honey” และสามารถใช้กับเพศไหนก็ได้ ดังนั้นคู่รักสามารถเรียกกันด้วยชื่อนี้ได้โดยไม่จำกัดเพศ แต่การเรียกคู่รักของตนเองด้วยคำนี้ในที่สาธารณะอาจจะฟังดูน่าอายเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะเป็นสามี ภรรยากันแล้วก็ตาม
あなた (Anata)
あなた (Anata) หมายถึง ”คุณ” ในภาษาญี่ปุ่น และเป็นคำที่ค่อนข้างหยาบคายหากนำไปใช้เรียกคนที่เราไม่สนิทด้วย ยกเว้นในกรณีของคู่รักเท่านั้น คำนี้ถูกใช้กันมากในคนรุ่นเก่า แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นคำทั่วไปที่ภรรยาใช้เรียกสามีภาษาญี่ปุ่น บางครั้งอาจจะพูดย่อๆเป็น あんた (anta) และมันยังสามารถเขียนเป็นตัวอักษรคันจิที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้คำนี้เรียกใคร
คำว่า ”คุณ” เป็นคำที่ใช้เรียกคนที่สนิทกันมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความสัมพันธ์กันฉันท์แฟน มีคำที่คล้ายกับคำนี้อยู่สองคำ คือ
君 / きみ (Kimi) และ お前 / おまえ (omae)
ทั้งสองคำเป็นคำที่ผู้ชายหรือสามีใช้เรียกแฟนสาวหรือภรรยาภาษาญี่ปุ่น และยังเป็นคำที่ยังใช้กันทั่วไปในหมู่คนรุ่นเก่าๆ แต่สมัยปัจจุบันความนิยมของคำนี้ลดลงไปเพราะผลสืบเนื่องจากการแบ่งแยกทางเพศ
ทั้งหมดนี้คือวิธีเรียก “ที่รัก” ในภาษาญี่ปุ่น แต่คุณอาจไม่ค่อยได้ยินคนญี่ปุ่นเรียกแฟน หรือสามี/ภรรยาว่า “ที่รัก” กันสักเท่าไหร่ จะเป็นเพราะอะไรนั้น ครูภาษาญี่ปุ่นของเราจะมาไขข้อข้องใจให้หายสงสัยกันไปเลย
คำเรียกแฟนภาษาญี่ปุ่นคืออะไร?
คนญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้คำว่า “ที่รัก” หรือ “เบบี๋” ในการเรียกคนรัก แต่จะนิยมตั้งชื่อเล่นขึ้นมาเพื่อเรียกคนรัก หรือคนที่สนิมกันแทน เหมือนคนไทยที่มีชื่อเล่น และเราเรียกคนที่เราสนิทด้วยชื่อเล่นนั้นๆ ดังนั้นเมื่อคนญี่ปุ่นต้องการแสดงความรักแก่คนรักด้วยการเรียกชื่อ พวกเขาจะตั้งชื่อเล่นของแฟนขึ้นมา
การตั้งชื่อเล่นให้แก่กันและกันของคนญี่ปุ่นจะขึ้นอยู่กับระดับความสนิท เนื่องจากภาษาญี่ปุ่นเองเป็นภาษาที่มีความเป็นทางการมาก คำศัพท์หลายๆคำฟังดูห่างเหินระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นจึงมีรูปแบบของการสงวนท่าที เมื่อถึงเวลาที่ต้องแสดงอารมณ์หรือความรู้สึก มักไม่แสดงออกโดยตรงแต่จะแสดงเป็นนัยยะให้อีกฝ่ายรับรู้มากกว่า
ในระยะแรกของการทำความรู้จักกับผู้อื่น คนญี่ปุ่นมักจะเรียกกันด้วยนามสกุลของอีกฝ่ายและมักจะใช้คำต่อท้ายนามสกุลว่า
~さん (-san)
เพื่อเป็นการให้เกียรติคู่สนทนาและฟังดูสุภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อสนิทสนมกันมากขึ้นในฐานะเพื่อน พวกเขาจะรู้สึกสบายใจที่จะเรียกชื่อแรกของกันและกันแล้ว แต่ก็ยังต้องมีความสนิทมากพอจึงจะเรียกกันด้วยชื่อแรกแบบนี้ได้
วิธีตั้งชื่อเล่นภาษาญี่ปุ่น
คำว่า 愛称 / あいしょう(aishou) หมายถึง ”ชื่อสัตว์เลี้ยง” และคำว่า あだ名 / あだな (adana) หมายถึง ”ชื่อเล่น” ซึ่งอาจจะเรียกกันด้วยความรักหรือต้องการทำให้ดูน่ารักๆ ตลกขบขัน หรือน่าเบื่อก็ได้
มี 3 วิธีในการเรียกกันด้วยชื่อเล่นเป็นภาษาญี่ปุ่น ดังต่อไปนี้
ตั้งชื่อเล่นโดยใช้คำต่อท้ายและย่อคำให้สั้นลง
เป็นอีกวิธีที่นิยมมากที่สุดในการคิดชื่อเล่นไว้เรียกกัน เริ่มต้นจากนำชื่อจริงมาย่อให้สั้นลงแล้วเติมคำต่อท้ายที่เลือกมา
ยกตัวอย่างเช่น ชื่อ ”ยูโกะ” สามารถทำให้สั้นลงเป็น
ゆうちゃん
(Yuu-chan)
ยูจัง
เมื่อพยางค์มากขึ้น เราก็สามารถย่อให้สั้นลงได้ด้วยการใช้ tsu (っ) เล็กวางลงไประหว่างพยางค์ เช่น ชื่อ ”ทาคุมิ” สามารถเรียกย่อๆได้ว่า
たっくん
(Takkun)
ทักคุง
คำต่อท้ายที่ไม่เป็นทางการที่พบได้บ่อยที่สุด คือ
〜ちゃん
(-chan)
~ จัง
และ
〜くん
(-kun)
~ คุง
โปรดทราบว่าคำต่อท้ายเหล่านี้จะใช้เฉพาะกับคนที่สนิทสนมกันเท่านั้น
- 〜ちゃん (-chan) สามารถใช้เรียกเด็กทารก, เด็ก, หญิงสาวที่สนิทสนม, สัตว์เลี้ยงหรือคุณยายของคุณเอง สำหรับคู่รัก คำว่า 〜ちゃん (chan) ยังสามารถใช้เรียกแฟนสาวได้ด้วย
- 〜くん (-kun) คำนี้จะฟังดูมีความเป็นผู้ชายมากขึ้นและยังเป็นคำที่เหมาะที่สุดที่จะใช้เรียกเด็กหนุ่มหรือผู้ชายอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้เรียกผู้อื่นที่มีสถานะต่ำกว่า เช่น ลูกน้องในที่ทำงานหรือเด็กฝึกงาน สำหรับคู่รัก แฟนสาวก็สามารถใช้คำนี้เรียกแฟนหนุ่มของตนเองด้วยความรักได้เช่นกัน
ยังมีคำต่อท้ายอื่นๆที่ฟังดูสนุกและขี้เล่น เช่น
- ~りん (-rin) อ่านว่า “ริน”
- ~たん (-tan) อ่านว่า “ทัน”
- ~ち (-chi) อ่านว่า “จิ”
- ~のん (-non) อ่านว่า “นน”
และอีกเช่นกัน คำต่อท้ายเหล่านี้จะใช้เรียกเพื่อนสนิท, แฟนหนุ่มหรือแฟนสาวเท่านั้น
ตั้งชื่อเล่นจากบุคลิกลักษณะของบุคคล
ชื่อเล่นที่ใช้เรียกกันสามารถคิดขึ้นมาได้โดยสังเกตจากลักษณะเฉพาะของบุคคล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมของพวกเขาย้อมเป็นสีชมพูหรือสีแดง ดูคล้ายกับสตรอเบอรี่ ก็อาจจะเรียกพวกเขาว่า Ichigo-chan (อิจิโกะจัง) หรือ Ichigo-kun (อิจิโกะคุง) ที่แปลว่า ”สตรอเบอรี่” ก็ได้
เพื่อนบางกลุ่มยังสามารถใช้คำต่อไปนี้
バカ
(baka)
‘คนโง่’
หรือ
だっせー
(dassei)
‘ไม่เจ๋ง’
คำเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตลกๆหรือน่าอายที่พวกเขาเคยประสบมา เพื่อนๆจึงตัดสินใจเรียกเขาด้วยชื่อเหล่านี้เพื่อล้อเลียน
ตั้งชื่อด้วยการเล่นคำด้วยตัวคันจิ (Kanji Puns)
วิธีนี้ทำได้โดยการแทนที่อักษรคันจิด้วยอักษรตัวใหม่ที่ออกเสียงคล้ายกันหรือความหมายใกล้เคียงกัน
ยกตัวอย่างเช่น ตัวละคร Phoenix Wright จากเรื่องภาพยนตร์เรื่อง Ace Attorney มีชื่อจริงในภาษาญี่ปุ่นว่า
成歩堂龍一 / りゅういちなるほどう
(Ryuuichi Naruhodou)
และชื่อของเขาถูกนำมาเล่นคำจนเป็นที่รู้จักกันดีว่า
成程 / なるほど
(naruhodo)
แปลว่า ”ฉันเข้าใจ” หรือ ”ถูกต้อง”
เมื่อคุณรู้วิธีเรียกแฟนเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยคำหวานๆ น่ารักๆ แล้ว การเรียนรู้ประโยคบอกรักภาษาญี่ปุ่นก็จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันได้ไม่น้อย และเพื่อให้เข้ากับครอบครัวของสาวญี่ปุ่นหรือหนุ่มญี่ปุ่นได้ การเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นก็จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณราบรื่นขึ้นได้มากเลยทีเดียว วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ควรรู้เช่น การโค้งคำนับแบบญี่ปุ่น ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญ หรือกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นทำในวันปีใหม่ การหาเขียนการ์ดอวยพรปีใหม่ภาษาญี่ปุ่นที่เหมาะสม หรือการอวยพรวันเกิดภาษาญี่ปุ่นให้เจ้าของวันเกิดรู้สึกประทับใจ หรือบอกโชคดีนะภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น