17 คำทักทายภาษาญี่ปุ่น วิธีพูดทักทายและสวัสดีภาษาญี่ปุ่น

คำว่า ”คำทักทาย” ในภาษาญี่ปุ่น คือ

挨拶
(aisatsu)
คำทักทาย, การทักทาย

คุณอาจจะเคยได้ยิน ”คำทักทาย” ในภาษาญี่ปุ่นกันมาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น เช่น

こんにちは
(konnichiwa)
สวัสดี

แต่คำว่า こんにちは  (konnichiwa) ไม่ใช่วิธีการพูดทักทายตามธรรมดากับใครๆ โดยเฉพาะหากพวกเขาเหล่านั้นสนิทสนมกับคุณ การพูดทักทายในภาษาญี่ปุ่นนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และคนที่คุณทักทายด้วย

“หวัดดี” ในภาษาญี่ปุ่น – やあ!(Ya-)

คำว่า やあ จะเอาไว้ใช้ทักทายกับเพื่อนอย่างเป็นกันเอง จนฟังเหมือนเป็นการเปล่งเสียงเพื่อเรียกความสนใจมากกว่า ในภาษาญี่ปุ่นเป็นเรื่องปกติที่จะใช้คำว่า やあ ทักทายเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน หรือแค่พูดว่า あー (Aah-) แล้วตามด้วยชื่อของพวกเขาก็ได้

ยกตัวอย่างเช่น :

やあ! 静かちゃん今日いい天気ですね。
(Yaa-! Suzuki-chan, kyou ii tenki desu ne.)
หวัดดี! ชิซุกะจัง วันนี้อากาศดีเนอะ

หรือคุณจะทักทายใครสักคนเพียงแค่เรียกชื่อของพวกเขาเฉยๆโดยตัดคำว่า やあ ออกไปก็ได้

“สวัสดี” ในภาษาญี่ปุ่น — こんにちは (Konnichiwa)

คำว่า こんにちは ก็คือ ”สวัสดี” ในภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่ได้ใช้กันบ่อยๆเหมือนอย่างที่คุณคิด こんにちは เป็นคำที่ค่อนข้างเป็นทางการ ดังนั้นอาจจะฟังดูน่าอึดอัดอยู่สักหน่อยสำหรับการทักทายเพื่อนๆ ในบางประเทศอาจจะเป็นเรื่องปกติที่จะทักทายคนที่เดินผ่านไปมาบนท้องถนนสั้นๆอย่างเป็นมิตร แต่สำหรับญี่ปุ่นแล้วจะทำแบบนั้นไม่ได้ เราจะไม่ทักทายคนแปลกหน้าด้วยคำว่า こんにちは ส่วนใหญ่เราใช้คำนี้ในสถานการณ์ที่เป็นกึ่งทางการมากกว่า อย่างเช่น ในที่ทำงาน เป็นต้น

こんにちは ยังแปลว่า ”สวัสดีตอนบ่าย” ในภาษาญี่ปุ่นด้วย จึงใช้คำนี้ได้เฉพาะตอนบ่ายเท่านั้น

“ฉันชื่อว่า…” ในภาษาญี่ปุ่น — 名前は___です。(Namae wa ____ desu.)

วิธีพูด ”ฉันชื่อว่า…” ในภาษาญี่ปุ่น คือ

名前は___です。
(Namae wa _ desu.)
ฉันชื่อว่า___

หรือ

____です。
(____ desu.)
ฉันคือ____

เพียงใส่ชื่อของคุณในช่องว่างประโยคก็จะสมบูรณ์

ตัวอย่าง

名前はアキラです。
(Namae wa Akira desu)
ฉันชื่อว่าอะคิระ

หรือสามารถพูดอย่างย่อได้ว่า

アキラです。
(Akira desu.)
ฉันคืออะคิระ

คำว่า 名前 (Namae) แปลว่า ”ชื่อ” ในภาษาญี่ปุ่น ส่วนอักษร (wa) ทำหน้าที่เป็นตัวชี้ประธานและคำว่า です (desu) เป็นกริยาช่วย แปลว่า ”คือ” ดังนั้นเมื่อรวมกันจึงเป็น 名前は (Namae wa) หรือพูดชื่อแล้วตามด้วย です (desu) ก็ได้เช่นกัน

ในทางทฤษฎี ประโยคเต็มจะพูดว่า

私の名前は___です。
(Watashi no namae wa _ desu.)
ฉันชื่อว่า___

แต่คำว่า 私の (watashi no) ซึ่งแปลว่า “ของฉัน” ไม่จำเป็นต้องใส่ในประโยคเพราะจากบริบทก็สามารถเข้าใจได้

หากอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ เช่น การติดต่อธุรกิจ เมื่อคุณแนะนำตัวให้กับลูกค้าใหม่ของบริษัทหรือประธานบริษัท คุณควรพูดว่า

___と申します。
mōshimasu___
ชื่อของดิฉัน(กระผม)คือ___

นี่เป็นวิธีพูดที่สุภาพนอบน้อม จะใช้พูดกับบุคคลที่มีสถานะสูงกว่ามากๆ หากคุณทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่น หรือบริษัทญี่ปุ่นคุณควรเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อใช้ในการทำงาน เพราะคนญี่ปุ่นไม่นิยมพูดภาษาอังกฤษ และมักจะพูดแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น การพูดภาษาญี่ปุ่นได้จะช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่นมากขึ้น

ตัวอย่าง :

は田中浩と申します。
(Watashi wa tanaka hiroshi to mōshimasu.)
ชื่อของกระผมคือ ฮิโรชิ ทานากะ

ดูเพิ่มเติม 15 วิธีแนะนำตัวภาษาญี่ปุ่น แนะนําตัวสัมภาษณ์งาน หรือกับเพื่อนใหม่

“สวัสดีตอนเช้า” ภาษาญี่ปุ่น — おはようございます (Ohayou gozaimasu)

おはようございます เป็นวิธีสุภาพและเป็นทางการในการทักทายผู้อื่น ดังนั้นคุณสามารถใช้เมื่อต้องการสวัสดีหัวหน้างานในตอนเช้าได้

ถ้าต้องการเพิ่มความเป็นกันเอง ให้ตัดคำว่า ございます (gozaimasu) ออก เหลือแต่คำว่า おはよう (ohayou) ซึ่งเป็นวิธีทั่วไปที่ใช้พูดได้กับทุกคน บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินเพื่อนพูดด้วยน้ำเสียงล้นๆ และตัดเสียง “o” ตอนท้ายออกไป เช่น

おはよー!
(O wa yo ̄ !)
อรุณสวัสดิ์!

“สวัสดีตอนเย็น” ภาษาญี่ปุ่น — こんばんは (Konbanwa)

こんばんは เป็นวิธีสุภาพและเป็นทางการในการพูดคำว่า ”สวัสดีตอนเย็น” ในภาษาญี่ปุ่น สามารถใช้พูดทักทายกับใครก็ได้ แต่โดยทั่วไปหากเป็นการทักทายเพื่อนหรือคนในครอบครัวจะใช้คำทักทายที่เป็นกันเองมากกว่า

“ราตรีสวัสดิ์” ภาษาญี่ปุ่น — おやすみなさい (Oyasumi nasai)

คำนี้ฟังดูเหมือนจะเป็นคำอำลามากกว่าจะใช้ทักทาย เราจะพูด おやすみなさい เมื่อกำลังจะเข้านอนในตอนกลางคืน จึงมีความหมายอีกนัยหนึ่งว่า ”ไปพักผ่อนเถอะ” ด้วย

สำหรับเพื่อนและครอบครัว เราจะตัดคำว่า なさい (nasai) ที่ทำให้ประโยคนี้ฟังดูสุภาพและเป็นทางการออก และใช้ประโยคต่อไปนี้แทน

おやすみ-!
(Oyasumi – !)
ราตรีสวัสดิ์!

“ไม่เจอกันนานเลยนะ” ภาษาญี่ปุ่น — お久しぶりですね (O-hisashiburi desu ne)

หากคุณไม่ได้เจอกับใครมาเป็นเวลานาน (สามสัปดาห์หรือนานกว่านั้น) สามารถพูดว่า

お久しぶりですね。
(O-hisashiburi desu ne)

“มันสักพักแล้วนะ ใช่มั้ย?” หรือ ”ไม่เจอกันนานเลยนะ!”

เราสามารถใช้สำนวนนี้พูดกับใครก็ได้ สามารถใช้พูดกับเพื่อนในที่ทำงานก็ย่อมได้ คำว่า (o) ตอนต้นประโยคเป็นคำที่แสดงถึงความเคารพ ส่วนคำว่า (ne) ที่ท้ายประโยคมีความหมายว่า ”ใช่ไหม?” หรือ ”รึเปล่า?” ทั้งสองคำนี้สามารถละเอาไว้ได้เพื่อทำให้ประโยคมีความเป็นกันเองมากขึ้น

เราสามารถใช้ประโยคนี้ร่วมกับประโยคทักทายอื่นก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น

あーすずきさん。 久しぶりですね。 元気だった?
(Aa-, Suzuki-san. Hisashiburi desu ne. Genki datta?)
หวัดดี ซูซุกิซัง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ใช่มั้ย? เป็นยังไงบ้าง?

“ยู้ฮู” ภาษาญี่ปุ่น — ヤッホー (Ya-ho-)

ヤッホー (Ya-ho-) เป็นคำทักทายภาษาญี่ปุ่นที่เป็นกันเองมากๆ โดยปกติจะใช้ทักทายระหว่างเด็กๆหรือเพื่อนสนิท และเป็นคำทักทายที่มีความอ่อนหวานแบบผู้หญิง

ヤッホー เป็นอีกคำทักทายที่ใช้เมื่อต้องการดึงความสนใจหรือเรียกเพื่อนสนิทหรือเด็กๆให้หันกลับมา คล้ายกับเราตะโกนว่า ”ยู้ฮู” แล้วโบกมือเรียกเพื่อน เราจะใช้คำว่า ヤッホー แล้วตามด้วยชื่อเพื่อนของตัวเอง

“เฮ้” ภาษาญี่ปุ่น — おす!(Osu!)

คำว่า おす จะฟังดูแข็งกร้าว แบบผู้ชาย เป็นคำแสลงที่ใช้สำหรับทักทายระหว่างเพื่อนผู้ชายด้วยกัน ปกติผู้หญิงจะไม่พูดคำนี้และผู้ชายก็จะไม่ใช้คำนี้ทักทายผู้หญิงด้วยเช่นกัน

ต่างจากสำนวนที่ไม่เป็นทางการอื่นๆ สำนวนนี้มีลักษณะเป็นคำอุทานที่จะใช้เมื่อเพื่อนหันมาเห็นคุณแล้วหรือคุณได้รับความสนใจจากเพื่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตามด้วยชื่อของพวกเขา แต่ถ้าคุณต้องการพูดชื่อเพื่อนก็สามารถทำได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังสามารถใช้เหมือนกับคำว่า ”ครับกระผม” หรือ ”รับทราบ” ได้ด้วยการ์ตูนแอนิเมะบางเรื่องก็ใช้กัน แต่จะฟังดูไม่ธรรมชาติถ้านำมาพูดในชีวิตประจำวัน

“โย่!” ภาษาญี่ปุ่น — よー!(Yo-!)

เราสามารถทักทายเพื่อนสนิทด้วยคำง่ายๆว่า よー!(yo!) อย่างเป็นกันเองได้

เราจะไม่ใช้พูดกับผู้อื่นที่มีอายุมากกว่า และยังดูห้าวๆแบบผู้ชาย แต่ก็มีบางครั้งที่เด็กสาวหรือผู้หญิงบางคนก็ใช้ด้วยเช่นกันเพื่อเรียกความสนใจ

และสามารถพูดคำนี้ได้

おーい!
(O-i!)
เฮ้!

おーい!จะใช้เป็นเพียงคำอุทานเท่านั้น เป็นสำนวนที่แข็งกร้าวแบบผู้ชาย แต่บางครั้งก็หยาบคายหรือดูรุนแรงเล็กน้อย เพราะฉะนั้นจะใช้พูดกับเพื่อนที่คุณสนิทเท่านั้น

“สบายดีไหม?” ภาษาญี่ปุ่น — お元気ですか (O-genki desu ka)

เราสามารถทักทายผู้อื่นด้วยประโยค ”สบายดีไหม” เป็นภาษาญี่ปุ่นว่า お元気ですか ตัวอักษร (o) เป็นคำที่แสดงความนับถือและคำว่า (ka) ทำให้ประโยคนี้เป็นประโยคคำถาม เราสามารถละตัว (o) เพื่อทำให้มีความเป็นกันเองมากขึ้นและเพื่อใช้ตอบคำถามได้ด้วย เราสามารถพูดว่า

元気です
(Genki desu)
สบายดี

คำว่า 元気 (genki) หมายถึง ”พลังงาน” หรือ ”สุขภาพดี” ดังนั้นจึงถามว่า ”คุณแข็งแรงไหม”

ในภาษาญี่ปุ่นโดยปกติเราจะไม่ถามใครที่เราเจอเมื่อวานนี้ว่า ”วันนี้เป็นยังไงบ้าง” แต่ถ้ามันผ่านมาสักพักแล้ว เราก็สามารถใช้ประโยคคำถามรูปอดีตได้

元気だった?
(Genki datta)
ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง

เพื่อทำให้ง่ายขึ้น เราสามารถพูดว่า 元気 (Genki?) สั้นๆ และทำเสียงพยางค์หลังให้สูงขึ้น

อีกหนึ่งวิธีในการถามว่าใครเป็นอย่างไรบ้าง สามารถพูดว่า

いかがですか
(Ikaga desu ka)
เป็นอย่างไรบ้าง

แต่ประโยคดังกล่าวค่อนข้างเป็นทางการ จะใช้พูดกับบุคคลที่มีสถานะสูงกว่าและเป็นการถามเฉพาะเจาะจงมากกว่า เช่นถามถึงเรื่องงานหรือเรื่องที่โรงเรียน

ตัวอย่าง

お仕事はいかがですか。
(O-shigoto wa ikaga desu ka)
“งานเป็นอย่างไรบ้าง” หรือ ”งานของคุณเป็นอย่างไรบ้าง”

ดูเพิ่มเติม 22 วิธีถามว่า สบายดีไหมภาษาญี่ปุ่น และวิธีตอบ สบายดี ไม่สบาย เฉยๆ

“เป็นอย่างไรบ้าง?” ภาษาญี่ปุ่น — 調子はどうですか (Choushi wa dou desu ka)

จริงๆแล้วประโยคนี้แปลว่า ”อาการของคุณเป็นอย่างไร” แต่เราจะใช้พูดแบบไม่เป็นทางการในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง ”เป็นอย่างไรบ้าง”

ประโยคนี้ใช้เพื่อติดตามเรื่องบางเรื่องที่คุณกับเพื่อนเพิ่งคุยกันไป ยกตัวอย่างเช่น ครั้งสุดท้ายที่คุณเจอเพื่อน พวกเขาเล่าว่าเขาถูกวิพาษณ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและเครียดกับเรื่องนี้ เมื่อคุณกลับมาเจอกันอีกครั้ง คุณสามารถถาม 調子はどうですか (Choushi wa dou desu ka) เพื่อตรวจสอบว่าตั้งแต่นั้นมาเรื่องมันเป็นอย่างไร

“ฉันกลับมาแล้ว!” ภาษาญี่ปุ่น — ただいまー (Tadaima-)

เมื่อคุณกลับถึงบ้าน คุณสามารถประกาศบอกทุกคนว่า ただいまー!แปลว่า ”ฉันกลับมาแล้ว” หรือ ”ฉันกลับบ้านแล้ว” และยังสามารถพูดประโยคนี้ในที่ทำงานได้ด้วย เช่น เมื่อคุณออกจากที่ทำงานไปสักพักและกลับมาอีกครั้ง

คุณจะได้รับการต้อนรับการกลับมาด้วยคำว่า

お帰り
(Okaeri)
ยินดีต้อนรับการกลับมา

สำนวนนี้แปลตามตัวอักษรจะหมายถึง ”คุณกลับมาแล้ว” แต่หากแปลให้ดีกว่านั้นจะแปลว่า ”ยินดีต้อนรับการกลับมา” ถ้าคุณกลับไปที่ทำงานหลังจากไปประชุมข้างนอกมา คุณอาจจะได้ยินสำนวนว่า

お疲れ様
(otsukaresama)
ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักนะ

หรือพูดสั้นๆว่า

お疲れ
(otsukare)
ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะ

ทั้งสองสำนวนมีความหมายเหมือนกันว่า “คุณต้องเหนื่อยแน่ๆเลย” หรือ ”ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนัก” แต่คำว่า お疲れ (otsukare) จะฟังดูเป็นทางการน้อยกว่า

“ยินดีที่ได้รู้จัก” ภาษาญี่ปุ่น — はじめまして (Hajimemashite)

เมื่อคุณพบกับใครสักคนครั้งแรก จะต้องเริ่มต้นบทสนทนาว่า

はじめまして
(Hajimemashite)
ยินดีที่ได้รู้จัก

โดยปกติจะตามด้วยการบอกชื่อของคุณ และพูดต่อว่า

よろしくお願いします
(Yoroshiku onegaishimas)
ยินดีที่ได้รู้จัก

ในสถานการณ์นี้ สำนวนดังกล่าวแปลว่า ”ยินดีที่ได้รู้จัก” แต่ในภาษาญี่ปุ่นจะใช้กันบ่อยๆในความหมายว่า ”ได้โปรดดูแลฉันด้วยนะ” ซึ่งฟังดูค่อนข้างแปลก สำหรับในภาษาอื่นๆ สำนวน よろしくお願いします เป็นสำนวนที่ค่อนข้างเป็นทางการใช้เมื่อต้องการสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนหรือเพื่อแสดงความไว้วางใจต่อคู่สนทนา สามารถพูดย่อๆเพื่อให้เป็นกันเองมากขึ้นว่า

よろしく
(yoroshiku)
ยินดีที่รู้จัก

ประโยคทักทายกันในวันปีใหม่ภาษาญี่ปุ่นคือ

あけましておめでとうございます。 今年もよろしくお願いします。
(Akemashite omedetou gozaimasu. Kotoshi mo yoroshiku onegaishimasu.)

สวัสดีปีใหม่! ปีนี้ได้โปรดดูแลกันไปอีกปีนะ

สำหรับเพื่อนสนิท สามารถพูดย่อๆได้ว่า

あけおめ! 今年もよろしく。
(Akeome! Kotoshi mo yoroshiku).
สวัสดีปีใหม่! ปีนี้ได้โปรดดูแลกันไปอีกปีนะ

ดูเพิ่มเติม ขอให้เป็นวันที่ดีภาษาญี่ปุ่น Have a nice day! พูดยังไงดี?

“ยินดีต้อนรับ!” ภาษาญี่ปุ่น — いらっしゃいませ (Irasshaimase)

ในประเทศญี่ปุ่นจะใช้สำนวน いらっしゃいませ (Irasshaimase) นี้เพื่อทักทายลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้านค้า แต่เราจะไม่ใช้พูดต้อนรับคนที่กำลังกลับเข้าบ้าน

เมื่อคุณไปบ้านคนอื่น คุณจะต้องพูดว่า

お邪魔します
(Ojama shimasu)
ขอโทษที่มารบกวนนะ

และเจ้าของบ้านจะต้อนรับคุณด้วยคำพูดว่า

どうぞ
(douzo)
“เชิญคุณก่อนเลย”, ”เข้ามา” หรือ ”ลุยเลย”

“ฮัลโหล” ทางโทรศัพท์ในภาษาญี่ปุ่น — もしもし (Moshi moshi)

คำว่า もしもし (Moshi moshi) ใช้พูดพร้อมกับยกเสียงสูงขึ้น คือคำว่า ”ฮัลโหล” ในภาษาญี่ปุ่น มาจากคำว่า 申す (mousu) ซึ่งเป็นคำกริยา เป็นคำสุภาพที่แปลว่า ”พูด” อย่างไรก็ตามเราจะใช้เพียงคำว่า もしもし (moshi moshi) เมื่อรับโทรศัพท์จากเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น

ในทางธุรกิจ ประโยคนี้จะค่อนข้างหยาบคาย ดังนั้นการรับโทรศัพท์เราจะพูดว่า

はい
(hai)
ใช่ครับ, ใช่ค่ะ

และตามด้วยชื่อสกุลของคุณหรือชื่อบริษัท

“อากาศดีนะ ใช่มั้ย?” ภาษาญี่ปุ่น — いい天気ですね (Ii tenki desu ne)

เราสามารถเริ่มบทสนทนาด้วยประโยคทั่วๆเกี่ยวกับสภาพอากาศ โดยปกติจะพูดว่า

いい天気ですね
(Ii tenki desu ne)
อากาศดีนะ ว่าไหม?

หรือ

暑いですね
(atsui desu ne)
อากาศร้อนเนอะ ว่าไหม?

寒いですね
(samui desu ne)
อากาศหนาวเนอะ ว่าไหม?

เนื่องจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับความอาวุโสและสถานะในสังคม คำทักทายจึงแบ่งระดับการใช้ตามความใกล้ชิด คนที่มีสถานะสูงกว่าหรือไม่รู้จักกันดีเราจะพูดด้วยความสุภาพนอบน้อม ประกอบกับท่าทางที่มีพิธีรีตอง เช่น การโค้งคำนับ ดังนั้นหากคุณต้องการใช้ภาษาญี่ปุ่นให้เหมือนเจ้าของภาษา คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาไปพร้อมกับศึกษาวัฒนธรรมญี่ปุ่น และหากคุณได้เรียนภาษาญี่ปุ่นกับครูญี่ปุ่นเจ้าของภาษา คุณครูจะช่วยถ่ายทอดวัฒนธรรมเหล่านี้ให้คุณได้แน่นอน

อัพเดทล่าสุด: