สวัสดีภาษาฝรั่งเศส สวัสดีตอนเช้า (Bonjour) คำทักทายภาษาฝรั่งเศส

คำทักทายในภาษาฝรั่งเศสที่ใช้กันบ่อยที่สุด คือ

Bonjour
บงชู
สวัสดี

จริงๆ แล้วคำว่า “Bonjour” จะแปลตรงตัวว่า “สวัสดีตอนเช้า” หรืออรุณสวัสดิ์ แต่เราก็ยังสามารถใช้คำนี้ทักทายกันในเวลาอื่นได้ด้วย

ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้คำทักทายภาษาฝรั่งเศสแบบอื่นๆ ว่ามีวิธีพูดอย่างไรให้เหมือนกับเจ้าของภาษา เหมาะทั้งสำหรับผู้ที่สนใจภาษาฝรั่งเศสและผู้ที่เริ่มเรียนภาษาฝรั่งเศสกับครูสอนภาษาฝรั่งเศส

สวัสดีภาษาฝรั่งเศส Bonjour Bonsoir Bien le bonjou Salut! Coucou! Bienvenue Allô? Enchanté
ตัวอย่างคำสวัสดีภาษาฝรั่งเศส

Bonjour (บงชู) — สวัสดี / อรุณสวัสดิ์

คำนี้เป็นหนึ่งในวิธีการทักทายอย่างเป็นทางการในภาษาฝรั่งเศส สามารถใช้ได้กับทุกคนและทุกสถานการณ์ ตั้งแต่หัวหน้า คนรู้จักไปจนถึงเพื่อนสนิท โดยทั่วไปเราจะใช้คำว่า “Bonjour” ได้ตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงราวๆ ห้าโมงเย็น หากไม่แน่ใจว่าจะทักผู้อื่นอย่างไร ให้ใช้คำว่า “Bonjour” ไปเลยจะง่ายที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น หากเรามีโอกาสได้เข้าไปในร้านขายเบเกอรี่ในฝรั่งเศสหรือเข้าไปนั่งในคาเฟ่ที่ปารีส การทักทายกับคนทำขนมปังหรือพนักงานเสิร์ฟก่อนสั่งกาแฟด้วยคำว่า “Bonjour” ยังถือเป็นมารยาททั่วไปที่พึงกระทำอีกด้วย หากไม่กล่าวทักทายกันเลยจะถูกมองว่าเป็นคนไม่มีมารยาทหรือไม่สุภาพ

Bonsoir (บงซัว) — สวัสดีตอนเย็น / สายัณห์สวัสดิ์

“Bonsoir” ใช้ทักทายหลังเวลาห้าโมงเย็น มีความหมายตรงตัวว่า “สวัสดีตอนเย็น” สามารถใช้ทักทายได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า, เจ้าของร้าน, พนักงานต้อนรับที่ร้านอาหารหรือโรงแรม, คนที่บังเอิญเจอกันบนท้องถนนหรือแม้แต่เพื่อนเราเอง

Bien le bonjour (เบียง เลอ บงชู) — สวัสดี

คำนี้เป็นวิธีการทักทายภาษาฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม ค่อนข้างเป็นทางการเล็กน้อย เป็นคำทักทายที่สุภาพและให้เกียรติ ใช้ในสถานการณ์ที่เพิ่งรู้จักใครเป็นครั้งแรกหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเป็นไปตามจารีตประเพณี เราจะพูดคำว่า “Bien le bonjour” พร้อมกับจับมือและส่งรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กัน

Salut! (ซาลู่) — สวัสดี! (คำทักทายที่ไม่เป็นทางการ)

คำนี้เป็นวิธีทักทายที่ใช้กับคนที่เรารู้จักกันค่อนข้างดีแล้ว เช่น เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนสนิท คำว่า “Salut!” ถือเป็นคำทักทายอย่างไม่เป็นทางการ ไม่ควรใช้กับเจ้านาย ผู้พิพากษา ตำรวจหรือแม้แต่คนที่อาวุโสกว่าเรา

โปรดสังเกตว่าตัวอักษร “t” ที่อยู่ท้ายคำนั้นเราจะไม่อ่านออกเสียง ตามกฎทั่วไปในภาษาฝรั่งเศสที่ว่าหากพยัญชนะตัวสุดท้ายของคำไม่มีตัว “e“ หรือสระอื่นๆ ตามหลัง มักจะไม่อ่านออกเสียงนั่นเอง

Coucou! (คุคู) — ว่าไง! / หวัดดี! (คำทักทายที่ไม่เป็นทางการ)

สำหรับคำนี้เป็นวิธีการทักทายใครสักคนที่ไม่เป็นทางการอย่างมาก ดังนั้นควรใช้เฉพาะกับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวเท่านั้น และเพื่อเป็นเกร็ดความรู้สักเล็กน้อย คำว่า “coucou“ (à quelqu’un) นั้นเป็นกริยาวลีที่มีความหมายว่า โบกมือหรือการพูดทักทายใครสักคน และอย่าลืมว่ามันเป็นคำที่ค่อนข้างเป็นกันเองมากๆทีเดียว

Bienvenue (เบียงเวนิว) — ยินดีต้อนรับ, ด้วยความยินดี

เป็นคำที่เราจะได้ยินเมื่อเราถูกเชิญให้ไปเยี่ยมบ้าน, สำนักงานหรือสถานที่อื่นๆ คนที่เชิญเราจะพูดต้อนรับเราด้วยคำว่า “Bienvenue” นั่นเอง

คำว่า “Bienvenue” นั้นยังสามารถใช้กล่าวต้อนรับเมื่อมีใครสักคนได้เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ เรามักจะได้ยินคำว่า “bienvenue en France” หรือ “ยินดีต้อนรับสู่ประเทศฝรั่งเศส” เมื่อคนฝรั่งเศสรู้ว่าเรากำลังเดินทางไปประเทศของพวกเขาเป็นครั้งแรก

Allô? (อัลโล) — ฮัลโหล?

แม้คำนี้จะมีรากศัพท์เดียวกับคำว่า “hello” ในภาษาอังกฤษ แต่วิธีใช้ก็แตกต่างกัน ไม่เหมือนกับคำว่า “hello” และไม่เหมือนกับคำว่า “bonjour” ด้วย เพราะเราไม่สามารถใช้คำนี้ทักทายผู้คนที่เราพบเจอบนท้องถนนทั่วไปได้

ส่วนใหญ่คำว่า “Allô?” มักใช้เวลารับโทรศัพท์เท่านั้น หรือใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการเรียกความสนใจจากคนที่ไม่ได้ยินเสียงของเรา โดยที่ประเด็นคือเหมือนกับว่าคนๆนั้นไม่ได้อยู่ตรงนั้นนั่นเอง

Allô, [ชื่อ] à l’appareil (อัลโล, ___อะ ลาปาเครอี)— [ชื่อ] กำลังพูดอยู่

วลีนี้เป็นการรวมคำทักทาย “allo” เข้ากับการแนะนำตัวเอง เป็นวิธีรับโทรศัพท์ที่สุภาพและค่อนข้างเป็นทางการทีเดียว โดยทั่วไปก็เหมือนกับในภาษาอังกฤษ วลีในลักษณะนี้เรามักจะได้ยินหรือไปใช้ในสถานการณ์การทำงานมากกว่า

Oui, bonjour (อวี, บงชู) — ครับ / ค่ะ, สวัสดี

หากกำลังมองหาคำทักทายทางโทรศัพท์ที่ค่อนข้างเป็นทางการและเป็นคำกลางๆที่ใช้ได้ทั่วไป คำนี้ก็เหมาะสำหรับคุณ เราจะใช้คำนี้เพื่อตอบรับผู้ที่โทรศัพท์เข้ามา โดยเราควรพูดพร้อมกับน้ำเสียงที่แสดงความเป็นมิตรด้วย

Salutations distinguées (ซาลูตาซิยง ดิสตังเย่) — ขอแสดงความนับถือ

คำนี้ใช้เป็นคำลงท้ายที่เป็นทางการและสุภาพมากๆ ในภาษาฝรั่งเศส โดยเรามักใช้เป็นคำลงท้ายในจดหมาย โดยเฉพาะในจดหมายเชิงธุรกิจหรือจดหมายราชการ หากเราใช้ในการเขียนจดหมายประเภทอื่นๆ ก็จะทำให้รู้สึกอึดอัดและดูเป็นทางการมากเกินไป

Cher หรือ Chère (แชค์) — เรียน

ใช้เป็นคำขึ้นต้นในจดหมายเพื่อแสดงถึงความเคารพและให้เกียรติ เทียบเคียงกับภาษาอังกฤษจะตรงกับคำว่า “Dear” นั่นเอง โดยทั่วไปเราจะเห็นคำนี้เฉพาะในจดหมายธุรกิจเท่านั้น

Bonjour à tous (บงชู อะ ตูส) — สวัสดีทุกคน

เป็นคำขึ้นต้นที่ใช้เขียนถึงคนมากกว่าหนึ่งคนในจดหมาย โดยทั่วไปจะใช้ในการเขียนอีเมล์ จดหมายข่าวสารหรือใบ ประกาศเพื่ออ้างถึงกลุ่มคนเป้าหมายและประกาศข้อความให้กับกลุ่มคนดังกล่าวซึ่งเป็นผู้รับสารจำนวนมาก

Enchanté (อองชองเต้) — ยินดีที่รู้จัก

คำว่า “Enchanté” มีความหมายตามตัวอักษรว่า “หลงใหล” หรือ “ยินดี” โดยทั่วไปเราจะใช้คำนี้เมื่อถูกแนะนำให้รู้จักกับใครสักคนเป็นครั้งแรก ในทางไวยากรณ์คำนี้ยังเป็นคำคุณศัพท์ที่ใช้อธิบายคนหรือสิ่งของที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล แต่หากใช้เป็นคำทักทายเราจะได้ยินเป็นคำโดดๆมากกว่า

การเรียนภาษาต่างประเทศไม่ใช่เพียงแค่ความนิยมจากความชอบเหมือนแต่ก่อน แต่ยังเป็นความจำเป็นในหลายอาชีพที่ต้องติดต่อลูกค้า แม้ลูกค้าจะสามารถพูดทักทายภาษาอังกฤษได้ แต่หากเราพูดภาษาของเขาได้ แม้จะเป็นแค่เพียงการทักทาย เช่น ทักทายภาษาญี่ปุ่น ทักทายภาษาจีน เป็นต้น ก็จะช่วยสร้างความประทับใจให้ได้มากกว่า

อัพเดทล่าสุด: