นับตัวเลขภาษาจีน 1-10, 1-100, 1-1000, 1-1000000 คำอ่าน เลขลำดับ
ตัวเลขภาษาจีน เรียกว่า 中文数字 (zhōngwén shùzì) ครับ ตัวเลขภาษาจีนคือการใช้ตัวอักษรจีนเขียนจำนวนที่แสดงค่าตัวเลขต่างๆ ออกมาครับ การนับเลขภาษาจีนให้ได้แบบง่ายๆ เนี่ยนะครับ เราต้องจำตัวเลขพื้นฐาน 1-10 ให้ได้ก่อนครับ จากนั้นนำเลข 1-10 มาวางต่อกันให้เป็นตัวเลขใหม่ที่มีค่ามากขึ้นนั่นเอง
ตัวเลขภาษาจีน 1-10
การนับตัวเลขภาษาจีน 1-10 มีดังต่อไปนี้ครับ
เลขอารบิก | ตัวอักษรจีน | พินอิน | วิธีอ่านพินอิน | คำแปลภาษาไทย |
---|---|---|---|---|
0 | 零 | líng | หลิง | ศูนย์ |
1 | 一 | yī | อี | หนึ่ง |
2 | 二 | èr | เอ้อร์ | สอง |
3 | 三 | sān | ซาน | สาม |
4 | 四 | sì | ซื่อ | สี่ |
5 | 五 | wǔ | หวู่ | ห้า |
6 | 六 | liù | ลิ่ว | หก |
7 | 七 | qī | ชี | เจ็ด |
8 | 八 | bā | ปา | แปด |
9 | 九 | jiǔ | จิ่ว | เก้า |
10 | 十 | shí | สือ | สิบ |
เลขศูนย์ในภาษาจีน คือ 零 อ่านว่า líng (หลิง) ซึ่งบางครั้งเราจะเห็น 〇 ซึ่งอ่านว่า líng (หลิง) ก็ได้เหมือนกันครับ
เลขสอง โดยส่วนใหญ่เราจะใช้ 二 (èr) เมื่อเป็นการนับ หรือว่าการบอกเบอร์โทรศัพท์ แต่หากเป็นตัวเลขที่บอกจำนวนหรือปริมาณเราจะใช้คำว่า 两 อ่านว่า liǎng (เหลี่ยง) แทนครับ
มาดูตัวอย่างด้านล่างนี้นะครับ
二十块钱
èrshí kuài qián
เอ้อร์สือ ไคว่ เฉียน
20 ดอลล่าร์
两本书
liǎng běn shū
เหลียง เปิ่น ซู
หนังสือ 2 เล่ม
เวลาเราต้องพูดเร็วๆ และต้องการความชัดเจน เช่น การบอกเบอร์โทรศัพท์เนี่ย เลขหนึ่งเราจะนิยมพูดว่า 幺 อ่านว่า yāo (เยา) แทนคำว่า 一 อ่านว่า yī (อี) นะครับ เพราะคำว่า 一 ออกเสียงใกล้กับคำว่า 七 อ่านว่า qī (ชี) ซึ่งทำให้เกิดความสับสนได้ง่ายมากๆ เลยครับ เพราะงั้นใช้คำว่า 幺 (yāo — เยา) จะดีกว่าครับ
ในประเทศจีน เลขสี่ หรือ 四 (sì) ถือว่าเป็นเลขไม่ดีเลยครับ เค้าถือว่ามันเป็นเลขแห่งความโชคร้าย เพราะเลขสี่ดันออกเสียงใกล้กับคำว่าตาย หรือ 死 อ่านว่า sǐ (สื่อ) ในภาษาจีนนั่นเองครับ ดังนั้นในธรรมเนียมจีน จะหลีกเลี่ยง ไม่ให้ของที่มีจำนวนสี่ชิ้นแก่คนอื่น เช่น ให้ผลไม้สี่ลูกหรือดอกไม้สี่ดอก เพราะจะทำให้ผู้รับไม่สบายใจ นอกจากนี้ในอาคารหรือโรงแรมต่างๆ ก็ไม่มีชั้นสี่เช่นกัน เป็นความเชื่อในทำนองเดียวกับความเชื่อของชาวตะวันตกที่เชื่อว่าเลข 13 เป็น Lucky Number นั่นเองครับ
ตัวเลขภาษาจีน 11-99
เมื่อจำตัวเลขภาษาจีน 1-10 ได้แล้ว ทีนี้มันก็จะง่ายขึ้นมากๆ เลยครับ เพราะเราสามารถนำตัวเลขเหล่านี้มาวางต่อกันเพื่อให้ได้ตัวเลขใหม่ที่มีค่ามากขึ้นได้ น้องๆ หลายคนพบว่าการเรียนตัวเลขจีนนั้นง่ายกว่าการเรียนเลขจำนวนนับภาษาอังกฤษเสียอีก มาดูตัวเลขภาษาจีน 11-20 กันเลยครับ
เลขอารบิก | ตัวอักษรจีน | พินอิน | วิธีอ่านพินอิน | คำแปล |
---|---|---|---|---|
11 | 十一 | shíyī | สือ อี | สิบเอ็ด |
12 | 十二 | shí’èr | สือ เอ้อร์ | สิบสอง |
13 | 十三 | shísān | สือ ซาน | สิบสาม |
14 | 十四 | shísì | สือ ซื่อ | สิบสี่ |
15 | 十五 | shíwǔ | สือ หวู่ | สิบห้า |
16 | 十六 | shíliù | สือ ลิ่ว | สิบหก |
17 | 十七 | shíqī | สือ ชี | สิบเจ็ด |
18 | 十八 | shíbā | สือ ปา | สิบแปด |
19 | 十九 | shíjiǔ | สือ จิ่ว | สิบเก้า |
20 | 二十 | èrshí | เอ้อร์ สือ | ยี่สิบ |
30 | 三十 | sānshí | ซาน สือ | สามสิบ |
40 | 四十 | sìshí | ซื่อ สือ | สี่สิบ |
50 | 五十 | wǔshí | หวู่ สือ | ห้าสิบ |
60 | 六十 | liùshí | ลิ่ว สือ | หกสิบ |
70 | 七是 | qīshí | ชี สือ | เจ็ดสิบ |
80 | 八十 | bāshí | ปา สือ | แปดสิบ |
90 | 九十 | jiǔshí | จิ่ว สือ | เก้าสิบ |
จะเห็นว่าตัวเลขตั้งแต่ 11-19 เป็นเพียงการรวมเลข 10 กับเลขตัวอื่นๆ เช่น 10 ตามด้วย 1 ก็คือ 11, 10 ตามด้วย 2 ก็คือ 12 ฯลฯ ในทำนองเดียวกัน จำนวน 20, 30, 40,… ก็ใช้รูปแบบดังกล่าว เช่น 20 คือ สองตามด้วยสิบ, 30 คือ สามตามด้วยสิบ เป็นต้น ส่วนเลข 21, 22, 47 ฯลฯ เราก็ยังใช้รูปแบบเดียวกันครับ
ตัวอย่าง
33
三十三
sānshísān
ซานสือซาน
สามสิบสาม
96
九十六
jiǔshíliù
จิ่วสือลิ่ว
เก้าสิบหก
จะเห็นว่าเพียงเราจำ 1-10 ได้ เราก็สามารถประกอบเป็นตัวเลข 1-100 ได้เกือบทั้งหมดแล้วครับ เหลือเพียงแค่เลข 100 ที่ต้องจำตัวอักษรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว จากนั้นก็ใช้หลักการเดียวกันกับเลข 1-100 เราก็จะนับ 100-999 ได้นั่นเองครับ
ตัวเลขภาษาจีน 100-999
เลข 100 ในภาษาจีนใช้คำว่า 百 อ่านว่า bǎi (ไป่) หรือ 一百 อ่านว่า yìbǎi (อีไป่) หากเทียบกับภาษาไทยก็คือคำว่า “ร้อย” = 百 และ ”หนึ่งร้อย” = 一百 นั่นเองครับ ซึ่งจะใช้คำใดก็ได้มีความหมายเดียวกัน แต่ในการนับเราจะนิยมใช้คำว่า 一百 (yìbǎi) มากกว่านะครับ
เลขอารบิก | ตัวอักษรจีน | พินอิน | วิธีอ่านพินอิน | คำแปล |
---|---|---|---|---|
100 | 一百 | yìbǎi | อีไป่ | หนึ่งร้อย |
101 | 一百零一 | yìbǎi líng yī | อีไป่หลิงอี | หนึ่งร้อยเอ็ด |
102 | 一百零二 | yìbǎi líng èr | อีไป่หลิงเอ้อร์ | หนึ่งร้อยสอง |
103 | 一百零三 | yìbǎi líng sān | อีไป่หลิงซาน | หนึ่งร้อยสาม |
104 | 一百零四 | yìbǎi líng sì | อีไป่หลิงซื่อ | หนี่งร้อยสี่ |
105 | 一百零五 | yìbǎi líng wǔ | อีไป่หลิงหวู่ | หนึ่งร้อยห้า |
106 | 一百零六 | yìbǎi líng liù | อีไป่หลิงลิ่ว | หนึ่งร้อยหก |
107 | 一百零七 | yìbǎi líng qī | อีไป่หลิงชี | หนึ่งร้อยเจ็ด |
108 | 一百零八 | yìbǎi líng bā | อีไป่หลิงปา | หนึ่งร้อยแปด |
109 | 一百零九 | yìbǎi líng jiǔ | อีไป่หลิงจิ่ว | หนึ่งร้อยเก้า |
110 | 一百一十 | yìbǎi yī(shí) | อีไป่อี(สือ) | หนึ่งร้อยสิบ |
129 | 一百二十九 | yìbǎi èrshíjiǔ | อีไป่ เอ้อร์สือจิ่ว | หนึ่งร้อยยี่สิบเก้า |
175 | 一百七十五 | yìbǎi qīshíwǔ | อีไป่ชีสือหวู่ | หนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้า |
188 | 一百八十八 | yìbǎi bāshíbā | อีไป่ปาสือปา | หนึ่งร้อยแปดสิบแปด |
200 | 二百, 两百 | èrbǎi, liǎngbǎi | เอ้อร์ไป่, เหลียงไป่ | สองร้อย |
300 | 三百 | sānbǎi | ซานไป่ | สามร้อย |
400 | 四百 | sìbǎi | ซื่อไป่ | สี่ร้อย |
500 | 五百 | wǔbǎi | หวูไป่ | ห้าร้อย |
600 | 六百 | liùbǎi | ลิ่วไป่ | หกร้อย |
700 | 七百 | qībǎi | ชีไป่ | เจ็ดร้อย |
800 | 八百 | bābǎi | ปาไป่ | แปดร้อย |
900 | 九百 | jiǔbǎi | จิ๋วไป่ | เก้าร้อย |
990 | 九百九十 | jiǔbǎi jiǔshí | จิ๋วไป่จิ่วสือ | เก้าร้อยเก้าสิบ |
991 | 九百九十一 | jiǔbǎi jiǔshí yī | จิ๋วไปจิ่วสือ อี | เก้าร้อยเก้าสิบเอ็ด |
992 | 九百九十二 | jiǔbǎi jiǔshí èr | จิ๋วไปจิ่วสือ เอ้อร์ | เก้าร้อยเก้าสิบสอง |
993 | 九百九十三 | jiǔbǎi jiǔshí sān | จิ๋วไป่จิ่วสือ ซาน | เก้าร้อยเก้าสิบสาม |
994 | 九百九十四 | jiǔbǎi jiǔshí sì | จิ๋วไปจิ่วสือ ซื่อ | เก้าร้อยเก้าสิบสี่ |
995 | 九百九十五 | jiǔbǎi jiǔshí wǔ | จิ๋วไป่จิ่วสือ หวู่ | เก้าร้อยเก้าสิบห้า |
996 | 九百九十六 | jiǔbǎi jiǔshí liù | จิ๋วไปจิ่วสือ ลิ่ว | เก้าร้อยเก้าสิบหก |
997 | 九百九十七 | jiǔbǎi jiǔshí qī | จิ๋วไปจิ่วสือ ชี | เก้าร้อยเก้าสิบเจ็ด |
998 | 九百九十八 | jiǔbǎi jiǔshí bā | จิ๋วไป่จิ่วสือ ปา | เก้าร้อยเก้าสิบแปด |
999 | 九百九十九 | jiǔbǎi jiǔshí jiǔ | จิ๋วไปจิ่วสือ จิ่ว | เก้าร้อยเก้าสิบเก้า |
ข้อควรสังเกตุ
การนับเลข 100 – 109 ในภาษาจีน จะมีจุดสังเกตที่แตกต่างจากภาษาไทยอยู่เล็กน้อยครับ นั่นคือ การอ่านหรือพูดตัวเลขที่อยู่ระหว่าง 100 – 109 จะใช้คำว่า 零 (líng) คั่นตรงกลางระหว่างคำว่า 一百 (yìbǎi) ที่อยู่ด้านหน้าและเลขอื่นๆที่อยู่ด้านหลัง เช่น เลข 101 เขียนเป็น
- 一百零一 (yìbǎi líng yī)
- 一百〇一 (yìbǎi líng yī)
เราจะไม่เขียนว่า 一百一 (yìbǎi yī ) เนื่องจากจะซ้ำกับการอ่านเลข 110 แบบย่อๆ ซึ่งมีวิธีอ่านว่า yìbǎi yī (shí) ซึ่งเราจะออกเสียง shí หรือไม่ก็ได้นอกนั้นจะเห็นว่ารูปแบบของตัวเลขหลักร้อยนั้น ใช้รูปแบบเดียวกับการอ่านตัวเลขหลักสิบเลยครับ
ตัวเลขที่ต้องระมัดระวังในการใช้ คือ เลข 250 ในภาษาจีนครับ เพราะในประเทศจีนเนี่ย หากถูกเรียกว่า 250 แสดงว่าคุณกำลังโดนดูถูก เพราะคำว่า 250 มีความหมายแฝงว่า งี่เง่าหรือโง่ นั่นเองครับผม
ตัวเลขภาษาจีนตั้งแต่ 1,000 ขึ้นไป
ชื่อเฉพาะสำหรับตัวเลขที่มากกว่า 1,000 ขึ้นไปที่จำเป็นต้องรู้ มีดังต่อไปนี้ครับ
เลขอารบิก | ตัวอักษรจีน | พินอิน | วิธีอ่านพินอิน | คำแปล |
---|---|---|---|---|
1,000 | 一千 | yīqiān | อีเชียน | หนึ่งพัน |
10,000 | 万 | wàn | ว่าน | หนึ่งหมื่น |
100,000 | 十万 | shí wàn | สือว่าน | หนึ่งแสน |
1,000,000 | 一百万 | yìbǎi wàn | อี้ไป่ว่าน | หนี่งล้าน |
10,000,000 | 一千万 | yīqiān wàn | อีเชียนว่าน | สิบล้าน |
100,000,000 | 亿 | yì | อี้ | ร้อยล้าน |
1,000,000,000 | 十亿 | shí yì | สืออี้ | พันล้าน |
ถึงแม้จะเป็นตัวเลขจำนวนมากก็ยังใช้หลักการเดียวกันกับเลขหลักสิบ หลักร้อยและหลักพัน เพียงประกอบคำเฉพาะที่ให้มาเหล่านี้กับตัวเลขที่ต้องการได้เลย จะเห็นได้จากตารางด้านบนว่าตัวเลข 100 ภาษาจีนคือ 一百 ในขณะที่ตัวเลข 1000 ภาษาจีนคือ 一千 ซึ่งมีความแตกต่างกันแค่ตัวอักษรด้านหลังเท่านั้นเอง ดูตัวอย่างเพิ่มเติมการเขียนตัวเลขภาษาจีนจำนวนเยอะๆ ต่อไปนี้ครับ
ตัวอย่าง
20,309
两万三百零九
liǎng wàn sānbǎi líng jiǔ
เหลี่ยง ว่าน ซาน ไป่ หลิง หวู่
สองหมื่นสามร้อยเก้า
1,300,25
一百万三十万二十五
yìbǎi wàn sānshí wàn èrshíwǔ
อี้ ไป่ ว่าน ซาน สือ ว่าน เอ้อร์สือหวู่
หนึ่งล้านสามแสนยี่สิบห้า
ตัวเลขลำดับภาษาจีน
การไล่ตัวเลขอันดับสำหรับภาษาจีนนั้นไม่ยากเลย และง่ายกว่าการเรียนเลขลำดับภาษาอังกฤษมากครับ เพียงแค่ใช้คำว่า第 อ่านว่า dì (นี้) ซึ่งแปลว่า “ที่” มานำหน้าตัวเลขที่ต้องการ
ลำดับที่ | ตัวอักษรจีน | พินอิน | วิธีอ่านพินอิน | คำแปล |
---|---|---|---|---|
1 | 第一 | dì yī | ตี้อี | ที่หนึ่ง |
2 | 第二 | dì èr | ตี้เอ้อร์ | ที่สอง |
3 | 第三 | dì sān | ตี้ซาน | ที่สาม |
4 | 第四 | dì sì | ตี้ซื่อ | ที่สี่ |
5 | 第五 | dì wǔ | ตี้หวู่ | ที่ห้า |
6 | 第六 | dì liù | ตี้ลิ่ว | ที่หก |
7 | 第七 | dì qī | ตี้ชี | ที่เจ็ด |
8 | 第八 | dì bā | ตี้ปา | ที่แปด |
9 | 第九 | dì jiǔ | ตี้จิ่ว | ที่เก้า |
10 | 第十 | dì shí | ตี้สือ | ที่สิบ |
ตัวอย่าง
第五十四
dì wǔshísì
ตี้ อู่สือซื่อ
ลำดับที่ 54
一百四十五
yìbǎi sìshíwǔ
อี้ไป่ ซื่อสืออู่
ครั้งที่ 145
อีกรูปแบบหนึ่งที่จำเป็นต้องรู้ คือ การบอกปริมาณหรือจำนวนครั้งในภาษาจีนครับ เราจะใช้คำว่า 次 อ่านว่า cì (ชื่อ) แปลว่า “ครั้ง” ลงท้ายตัวเลขที่ต้องการได้เลย
จำนวนครั้ง | ตัวอักษรจีน | พินอิน | วิธีอ่านพินอิน | คำแปล |
---|---|---|---|---|
1 | 一次 | yīcì | อีชื่อ | หนึ่งครั้ง |
2 | 两次 | liǎngcì | เหลี่ยงชื่อ | สองครั้ง |
3 | 三次 | sāncì | ซานชื่อ | สามครั้ง |
4 | 四次 | sìcì | ซื่อชื่อ | สี่ครั้ง |
5 | 五次 | wǔcì | หวู่ชื่อ | ห้าครั้ง |
6 | 六次 | liùcì | ลิ่วชื่อ | หกครั้ง |
7 | 七次 | qīcì | ชีชื่อ | เจ็ดครั้ง |
8 | 八次 | bācì | ปาชื่อ | แปดครั้ง |
9 | 九次 | jiǔcì | จิ่วชื่อ | เก้าครั้ง |
10 | 十次 | shícì | สือชื่อ | สิบครั้ง |
ตัวอย่าง
三十六次
sān shí liù cì
ซาน สือ ลิ่ว ชื่อ
36 ครั้ง
一百零八
yì bǎi líng bā
อี ไป่ หลิง ปา
108 ครั้ง
เพราะภาษาจีนมีตัวอักษรภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งตัวเลขจีน คำนามจีน คำคุณศัพท์จีนล้วนเป็นตัวอักษรภาพทั้งสิ้น หลายคนคิดว่าตัวเลขภาษาจีนยากแน่เลย แต่จริงๆ แล้วตัวเลขภาษาจีนนั้นง่ายมากครับ และในชีวิตประจำวัน ยังไงเราก็ต้องใช้ความรู้เรื่องตัวเลขนะครับ เช่น สั่งกาแฟภาษาจีนในคาเฟ่ การซื้อของในตลาด หรือการบอกเวลาภาษาจีน โดยเฉพาะน้องๆ เรียนจีน หรือคนที่ต้องการทำงานในประเทศจีนนี่พลาดไม่ได้เลยครับ นอกจากนี้น้องๆ คนไหน หรือผู้อ่านท่านใดที่ต้องการเรียนภาษาจีน ไม่ว่าจะเรียนจีนเพิ่มเกรด หรือเตรียมตัวไปประเทศจีน อย่าลืมเช็คคอร์สเรียนภาษาจีนของเรานะครับ เรามีครูภาษาจีนมากมายที่จะช่วยให้คุณได้เตรียมความพร้อมภาษาจีนของคุณครับ