22 วิธีถามว่า สบายดีไหมภาษาญี่ปุ่น และวิธีตอบ สบายดี ไม่สบาย เฉยๆ
คำทักทาย “สบายดีไหม” ภาษาญี่ปุ่นที่ง่ายที่สุดคือคำว่า
元気?
Genki?
สบายดีไหม
คนไทยคงคุ้ยเคยกับคำทักทายภาษาอังกฤษ และวิธีตอบฉันสบายดีภาษาอังกฤษ หรือ คำถามว่า 你好吗? ที่แปลว่า คุณสบายดีไหมภาษาจีน ในภาษาไทย นอกจากการถามว่า “สบายดีไหม” เรายังนิยมถามว่า “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง” หรือ “ช่วงนี้ทำอะไรอยู่” อีกด้วย ในภาษาญี่ปุ่นก็มีวิธีถามคุณสบายดีไหมได้หลายวิธีเช่นกัน บทความนี้เราจึงได้ครูภาษาญี่ปุ่นมาช่วยแนะนำวิธีถามว่า “คุณสบายดีไหม” ในภาษาญี่ปุ่น ให้คุณได้เลือกใช้และพูดได้เหมือนคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว
- 元気?
Genki?
สบายดีไหม - お元気ですか?
O Genki desu ka?
เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม - 最近はどうですか?
Saikin wa dou desu ka?
ช่วงนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง - 元気だった?
Genki datta?
ยังสบายดีอยู่ไหม - 気分はどうですか?
Kibun wa dou desu ka?
คุณรู้สึกอย่างไร - 最近どう?
Saikin dou?
ช่วงนี้คุณสบายดีไหม - 調子はどうですか?
Choushi wa dou desu ka?
เป็นอย่างไรบ้าง - どうよ?
Dou yo?
เป็นอย่างไรบ้าง - 気分どう?
Kibun dou?
คุณรู้สึกอย่างไร - どうしたんですか?
Dou shitan desu ka?
เป็นอะไรไป - 調子はどう?
Choushi wa dou?
เป็นอย่างไรบ้าง - 何事だ?
Nani koto da?
เกิดอะไรขึ้น - 今なにしてるの?
Ima nani shiteruno?
ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ - どうしたの?
Dou shita no?
เป็นอะไรไป - 私はただあなたの本当の気持ちが知りたいだけだよ。
Watashi tada anata no hontou no kimochi ga shiritai dake dayo.
ทั้งหมดที่ฉันต้องการคืออยากรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรจริงๆ - 心の声を聞かせて。
Kokoro no koe o kikasete.
บอกฉันสิว่าจริงๆคุณรู้สึกอย่างไร - 久しぶり!
Hisashiburi!
เป็นอย่างไรบ้าง (ไม่เจอกันตั้งนาน) - 最近なにしていますか?
Saikin nani shite-imasuka?
ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง / ทำอะไรอยู่ช่วงนี้ - なんか面白いことあった?
Nanka omoshiro koto atta?
มีข่าวดีอะไรหรือเปล่า - どうだい?
Dou dai?
เป็นอย่างไรบ้าง - 元気かい?
Genki kai?
หวัดดี เป็นไง สบายดีเปล่า - 最近なんか変わったことある?
Saikin nanka kawatta koto aru?
มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง / ช่วงนี้มีอะไรใหม่ๆไหม
元気?– สบายดีไหม
元気?(Genki?) เป็นคำถามง่ายๆ สบายๆ ที่ใช้คุยทักทายเพื่อนฝูง มีเพียงอย่างเดียวที่ต้องจำไว้เสมอเมื่อใช้ประโยคนี้ คือ อย่าลืมทำเสียงสูงขึ้นตอนท้ายประโยค เพื่อทำให้เป็นประโยคคำถาม
お元気ですか? – เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม
お元気ですか? (O Genki desu ka?) คือ ประโยคทักทายที่มีความหมายว่า ”สบายดีไหม” ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า 元気 (Genki) หมายถึง “มีชีวิตชีวา” หรือ “สุขภาพดี” เราจะเห็นประโยคนี้ในหนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นทุกเล่ม และเป็นประโยคง่ายๆที่ใช้กันบ่อยที่สุด เนื่องจากเป็นประโยคสุภาพที่เราสามารถใช้พูดกับคนแปลกหน้าหรือผู้ที่มีอายุมากกว่าได้
最近はどうですか? – ช่วงนี้คุณเป็นยังไงบ้าง
最近はどうですか? (Saikin wa dou desu ka?) เป็นอีกหนึ่งวิธีถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ในกรณีที่เราต้องการทราบว่าช่วงนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง ลองสังเกตประโยคก่อนหน้านี้จะมีคำว่า “desu ka” ซึ่งทำให้ประโยคฟังดูสุภาพ และเป็นทางการ หากตัด “desu ka” ก็จะฟังดูเป็นกันเองขึ้นมาทันที
元気だった? – สบายดีไหม
元気だった? (Genki datta?) เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้ถามว่า ”สบายดีไหม” แต่แตกต่างกันที่ประโยคนี้ให้ความสำคัญที่รูปอดีตกาลมากกกว่า เน้นว่าที่ผ่านมาเขาเป็นอย่างไรบ้าง
気分はどうですか? – คุณรู้สึกอย่างไร
気分はどうですか? (Kibun wa dou desu ka?) หมายถึง “คุณรู้สึกอย่างไร” คำว่า ”Kibun“ แปลว่าอารมณ์หรือความรู้สึก ดังนั้นหากแปลตามตัวอักษรก็จะหมายถึง อารมณ์หรือความรู้สึกในช่วงนี้ของคุณเป็นอย่างไร เป็นคำถามที่เน้นถามถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ ทั้งทางกายภาพและจิตใจ มากกว่าจะเป็นการถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง” แบบธรรมดาทั่วไป
最近どう? – ช่วงนี้คุณสบายดีไหม
最近どう? (Saikin dou?) ประโยคนี้ให้ความรู้สึกง่ายๆ เป็นกันเอง เราสามารถพูดเต็มๆว่า “sakin wa dou” ก็ได้ แต่ละ “wa“ ไว้ เพื่อให้ฟังดูเป็นกันเองมากขึ้น
調子はどうですか? – เป็นอย่างไรบ้าง
調子はどうですか? (Choushi wa dou desu ka?) หรือเป็นอย่างไรบ้างในภาษาไทย คำว่า ”Choushi“ แปลว่า “สภาพ” มักใช้ถามในกรณีที่เราเข้าใจสถานการณ์หรือบริบทของคู่สนทนาอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น หากถามเมื่อเพื่อนของคุณป่วย แสดงว่าคุณกำลังถามถึงความเจ็บป่วยของพวกเขา หรือหากเพื่อนของคุณกำลังยุ่งกับงานอยู่ ประโยคนี้ก็จะหมายความว่าคุณต้องการทราบถึงสถานการณ์งานของพวกเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง
調子はどう? – เป็นอย่างไรบ้าง
調子はどう? (Choushi wa dou?) ใช้ถามถึง”สภาพและความเป็นไป” ของคู่สนทนาเช่นเดียวกับประโยค 調子はどうですか? แต่ในลักษณะที่ฟังดูสบายๆเป็นกันเองมากขึ้น
どうよ? – เป็นไงบ้าง
どうよ? (Dou yo?) หรือเป็นไงบ้าง ประโยคนี้ให้ความเป็นกันเองขั้นสุด คำว่า ”Yo“ เมื่อเติมลงไปแล้วจะฟังดูกระตือรือร้นหรือกระตุ้นความสนใจเป็นพิเศษ
気分どう? – คุณรู้สึกอย่างไร
気分どう? (Kibun dou?) แปลว่าคุณรู้สึกอย่างไร แบบฟังดูเป็นกันเองมากขึ้นไปอีก
どうしたんですか? – เป็นอะไรไป
どうしたんですか? (Dou shitan desu ka?) เป็นวิธีในการพูดว่า ”สบายดีไหม” ในกรณีที่อยู่ในสถานการณ์เชิงลบ เมื่อคุณคิดว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติอยู่
どうしたの?– เป็นอะไรไป
どうしたの?(Dou shita no?) มีความหมายเหมือนกับ どうしたんですか? ซึ่งใช้ในสถานการณ์เชิงลบเหมือนกันแต่ฟังดูเป็นกันเองกว่ามาก เราสามารถตัดคำว่า ”No“ ท้ายประโยคออกไปเลยก็ได้
何事だ?– เกิดอะไรขึ้น
何事だ?(Nani koto da?) เป็นอีกหนึ่งประโยคที่ฟังดูสบายๆและเป็นกันเองมากๆ ใช้ถามเพื่อต้องการทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
今なにしてるの?– ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่
今なにしてるの?(Ima nani shiteruno?) เป็นคำถามทั่วไปที่พบบ่อย ใช้กันในหมู่เพื่อนสนิทมิตรสหาย เป็นอีกหนึ่งวิธีในการพูดเพื่อต้องการทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเพื่อนของคุณบ้าง
私はただあなたの本当の気持ちが知りたいだけだよ。– ทั้งหมดที่ฉันต้องการคืออยากรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรจริงๆ
私はただあなたの本当の気持ちが知りたいだけだよ。(Watashi tada anata no hontou no kimochi ga shiritai dake dayo.) เป็นวิธีการพูดที่ค่อนข้างจริงจังมาก เพื่อถามอย่างตรงไปตรงมาว่า ”สบายดีไหม” แบบต้องการคำตอบ แต่ควรรู้ไว้ว่าชาวญี่ปุ่นมักไม่ค่อยจะถามถึงความรู้สึกตรงๆในลักษณะนี้ เราจึงไม่ค่อยได้ยินประโยคนี้จากเจ้าของภาษาเองเท่าไหร่นัก
心の声を聞かせて。– บอกฉันสิว่าจริงๆคุณรู้สึกอย่างไร
心の声を聞かせて。(Kokoro no koe o kikasete.) ประโยคนี้หากแปลตรงตามตัวอักษรจะแปลเป็นภาษาไทยว่า ”ช่วยบอกเสียงจากหัวใจของคุณว่าเป็นเช่นไร” อย่างไรก็ตาม ประโยคนี้ไม่จำเป็นต้องแปลตรงตัวขนาดนั้น เพราะจะผิดความตั้งใจจริงของประโยคนี้ที่ต้องการเพียงแค่อยากรู้ความรู้สึกจริงๆไป
久しぶり!- เป็นอย่างไรบ้าง (ไม่เจอกันตั้งนาน)
久しぶり!(Hisashiburi!) จริงๆแล้วประโยคนี้แปลว่า ”ไม่เจอกันตั้งนาน” แต่ใช้สื่อความหมายว่า ”ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง” จะใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน
最近なにしていますか? – ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง / ทำอะไรอยู่ช่วงนี้
最近なにしていますか? (Saikin nani shite-imasuka?) เป็นอีกวิธีที่จะถามว่า ”ช่วงนี้เป็นอย่างไร” หรือ ”ทำอะไรอยู่” เน้นที่คำว่า shite-imasu ที่แปลว่า ”ทำอะไรอยู่” และ saikin ที่แปลว่า “ช่วงนี้”
なんか面白いことあった?– มีข่าวดีอะไรหรือเปล่า
なんか面白いことあった?(Nanka omoshiro koto atta?) เป็นคำถามที่เป็นกันเองสุดๆ สื่อความหมายว่า ”มีข่าวดีอะไรไหม” หรือ “ช่วงนี้มีอะไรดีๆเกิดขึ้นบ้าง” เป็นหนึ่งในวิธีถามถึงเรื่องหรือเหตุการณ์เชิงบวก
どうだい? – เป็นไง
どうだい? (Dou dai?) แปลว่า เป็นไง สบายดีมั้ย เป็นอีกคำหนึ่งที่ให้ความเป็นกันเองมากๆ ใช้กันเฉพาะในหมู่เพื่อนฝูงเท่านั้น คำว่า “Dai“ เป็นภาษาพูดของคำว่า “dayo“ ซึ่งทำให้ความเป็นทางการหายไปด้วย
元気かい? – หวัดดี เป็นไง สบายดีเปล่า
元気かい? (Genki kai?) มีความหมายว่า หวัดดี เป็นไง สบายดีหรือเปล่า เป็นภาษาพูดและฟังดูเป็นกันเอง ไม่มีพิธีรีตอง จะเห็นว่ามีคำว่า ”Kai“ ซึ่งเป็นภาษาพูดของคำว่า ”Desu ka“ อยู่ด้วย ห้ามใช้ประโยคนี้กับคนที่ไม่ใช่เพื่อนกันโดยเด็ดขาด
最近なんか変わったことある? – มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง / ช่วงนี้มีอะไรใหม่ๆไหม
最近なんか変わったことある? (Saikin nanka kawatta koto aru?) มีความหมายว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง / ช่วงนี้มีอะไรใหม่ๆไหม คำว่า koto คือ “สิ่งที่เกิดขึ้น” ส่วนคำว่า kawatta แปลว่า “เปลี่ยนแปลง”
วิธีตอบคำถาม “สบายดีไหม” ภาษาญี่ปุ่น
- 大丈夫です。
Daijōbu desu.
ฉันโอเค - 私は元気です。
Watashi wa genki desu.
ฉันสบายดี - 絶好調です。
Zekkōchō desu.
ฉันสบายดี - 眠いんです。
Nemui n desu.
ฉันง่วงนอน - いい感じです。
Ii kanji desu.
ฉันรู้สึกดี - 調子が悪いです。
Chōshi ga warui desu.
ฉันรู้สึกแย่ - おかげさまで。
Okagesama de.
ขอบคุณที่ถามนะ - 悪くないです。
Warukunai desu.
ฉันไม่ได้แย่ - ぼちぼちです。
Bochibochi desu.
ก็งั้นๆ - まあまあです。
Māmā desu.
ฉันรู้สึกเฉยๆ
หลังจบการสนทนา หากเราบอกลาคู่สนทนาด้วยการบอกขอให้มีวันที่ดีในภาษาญี่ปุ่น หรือโชคดีนะภาษาญี่ปุ่น ก็สามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้
ประเทศญี่ปุ่นมีมารยาททางสังคม และประโยคอวยพรต่างๆ ก็มีประโยคที่หลากหลายให้เลือกใช้ ดังนั้นการสื่อสารหรือการใช้คำอวยพรใดๆ จึงควรใช้เลือกประโยคที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นคำอวยพรวันเกิดภาษาญี่ปุ่น อวยพรวันปีใหม่ภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น