เรียนพิเศษคืออะไร? เรียนไปทำไม? มีประโยชน์จริงหรือ?

เราคงจะทราบกันดีว่าสมัยก่อนพ่อแม่บางคนบังคับให้ลูกเรียนพิเศษ แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่านักเรียนอย่างเราๆนี่แหละ ที่เป็นคนขอเรียน(หรือแทบจะต้องอ้อนวอนกันเลยทีเดียว) แล้วจุดประสงค์จริงๆของการเรียนพิเศษคืออะไร มันมีความจำเป็นหรือไม่ ทั้งที่คอร์สเรียนพิเศษแพงกว่าเงินเฉลี่ยของแต่ละวิชาในเงินค่าเทอมเสียอีก แต่ทำไมหลายคนถึงพยายามพาตัวเองเข้าไปเรียนพิเศษกันจัง จริงหรือไม่ที่การเรียนพิเศษได้กลายเป็นค่านิยมผิดๆของวัยรุ่นไทยในปัจจุบันไปเสียแล้ว เรามาหาคำตอบด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ

เรียนพิเศษคืออะไร?

การเรียนพิเศษคือการเรียนเพิ่มเติมเสริมเนื้อหาที่มากกว่าในห้องเรียน หรือบางคนอาจเป็นการเรียนเพื่อทบทวนเนื้อหาเดิมกับครูผู้สอนคนอื่น เนื่องจากครูคนอื่นมีเทคนิคการสอนหรือวิธีการสอนที่เหมาะกับผู้เรียนมากกว่า ส่งผลให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาการเรียนได้ดีกว่าเดิมในห้องเรียน

กวดวิชาคืออะไร? เหมือนกับเรียนพิเศษไหม?

เรียนกวดวิชา หรือสถาบันกวดวิชามักเป็นคำที่ใช้เรียนเมื่อนักเรียนมีเป้าหมายการเรียนที่ชัดเจนแล้ว และต้องการให้โรงเรียนกวดวิชา หรือครูกวดวิชาช่วยกวดขันให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายนั้นด้วยวิธีต่างๆ เช่น เทคนิคการท่องจำที่มีประสิทธิภาพ ฝึกทำข้อสอบที่สถาบันหามาให้ เรียนเพิ่มเติมเนื้อหาที่ไม่ได้สอนในโรงเรียนทั่วไปแต่จำเป็นสำหรับกาาบรรลุเป้าหมายของนักเรียน เป็นต้น

การเรียนกวดวิชาจึงมีความหมายคล้ายกับการเรียนพิเศษมาก เพราะเป็นการเรียนเสริมจากการเรียนในห้องเรียนเหมือนกัน แต่การเรียนกวดวิชาจะเน้นไปที่ให้นักเรียนประสบความสำเร็จในเป้าหมายการเรียนที่ตั้งไว้ เช่น สอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นต้น ในขณะที่การเรียนพิเศษอาจจะเป็นแค่การเรียนทบทวนความรู้ หรือจะเป็นการเตรียมสอบเหมือนกันก็ได้

ครูสอนพิเศษคืออะไร?

ครูสอนพิเศษ หรือติวเตอร์ คือผู้สอน/ถ่ายทอดความรู้เนื้อหาที่นักเรียนต้องการเรียนเสริม หรือเรียนเพิ่มเติม โดยครูสอนพิเศษไม่จำเป็นต้องเรียนจบครู หรือมีวุฒิครู แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเนื้อหาที่นักเรียนต้องการเรียนเสริม ดังนั้นครูสอนพิเศษอาจจะเป็นแอร์ฮอสเตรส ที่เก่งภาษาอังกฤษมาก และหันมาเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ หรือนักศึกษาป.โท สายคณิตศาสตร์ ที่ทำงานเป็นครูสอนพิเศษเลขก็ได้

เด็กไทยทำไมต้องเรียนพิเศษ?

ระบบการศึกษาไทยมักเน้นการทำข้อสอบเป็นหลัก ดังนั้นผู้ที่ได้ฝึกทำข้อสอบมากที่สุดมักมีแนวโน้มที่จะสอบได้คะแนนสูงกว่า และแนวข้อสอบเหล่านี้มักไม่มีให้ฝึกทำในระบบการเรียนทั่วไป โรงเรียนกวดวิชาและติวเตอร์มักมีการเก็บรวบรวมข้อสอบ ศึกษา ทำความเข้าใจข้อสอบ และค้นหาเทคนิคที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ทำข้อสอบได้คะแนนดี จากนั้นจึงนำเทคนิคเหล่านี้มาถ่ายทอดแก่นักเรียนที่ต้องการเรียนพิเศษ

ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้เด็กไทยและผู้ปกครองกันมาให้ความสำคัญกับการเรียนพิเศษมีดังต่อไปนี้

1.ความยากของข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกยากกว่าที่เรียนในม.ปลายมากจริงๆค่ะ ยิ่งการสอบตรงของมหาวิทยาลัยชื่อดังยิ่งยากเข้าไปอีก เพราะปัจจุบันข้อสอบในโรงเรียนยังอยู่ในวงแคบๆ หลักสูตรมันยังไม่ดีพอที่ทำข้อสอบส่วนกลางได้ ใครๆก็ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ และการเรียนพิเศษก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เราได้รู้แนวข้อสอบใหม่ๆมากขึ้น

2.สไตล์การเรียนส่วนตัว

สไตล์การเรียนของแต่ละคนมันแตกต่างกัน วิธีที่ใช้ได้ผลกับคนๆหนึ่งอาจจะไม่ได้ผลกับอีกคนก็ได้ การอ่านเอง มันต้องวิเคราะห์เอง และหาคำตอบให้ตัวเองได้ ซึ่งมันใช้เวลาเยอะกว่ามาก คนที่เก่งมาก เค้าก็อ่านหนังสือเอง แต่จะมีสักกี่คนที่เรียนระดับปานกลาง อ่านหนังสือเอง แล้วได้คะแนนมากกว่าคนที่เรียนพิเศษ? แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นคนที่หัวดีคนหนึ่งในเมื่ออัตราคนที่เรียนเก่งแบบโดดเด่นจริงๆในห้องเรียนนั้นส่วนใหญ่มีอยู่ประมาณ 15% เท่านั้นเอง

3.การแข่งขันสูงกว่าเดิม

การแข่งขันที่สูงขึ้นในสมัยนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายๆคนตัดสินใจเรียนพิเศษ ปัจจุบันมันไม่ได้แข่งแต่ในห้องเรียนแล้วนะคะ ไหนจะต้องเตรียมentrance เตรียมสอบตรง สอบโควตาอีก จะมั่นใจได้ยังไงว่าเราจะสู้นักเรียนโรงเรียนอื่นได้ เพราะแต่ละโรงเรียนก็มีความสามารถในการผลิตนักเรียนไม่เท่ากัน แถมโรงเรียนยังสอนแตกต่างกัน ไม่เหมือนกัน บางทีอาจารย์บางคนเข้ามาแล้วไม่สอนก็มี ซึ่งสำหรับคนที่เรียนอยู่โรงเรียนที่ด้อยกว่า ก็คงต้องไปหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตัวเอง เพื่อชิงโอกาสที่ดีกว่าในการศึกษาต่อไป

4.เกรดดีได้แค่ส่งงานครบ

นอกจากนั้นเกรดเฉลี่ยในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถวัดความเก่งทางวิชาการได้ อาจารย์บางท่านบางโรงเรียนก็ออกข้อสอบง่าย หรือให้คะแนนช่วยในการทำการบ้าน/ทำงานส่งมากกว่าการสอบ ทำให้คนที่ไม่เก่งก็สามารถเก็บเกรดดีๆได้เท่ากับคนเรียนเก่งหากทำงานส่งครบ แต่โลกหลังการศึกษาในปัจจุบันนั้นมันโหดร้ายกว่านั้นค่ะ สถานประกอบการแทบทุกแห่งก็ต้องการคนที่เก่งจริง และการจัดอันดับมหาวิทยาลัยดังๆก็เป็นเกณฑ์วัดที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับสถานประกอบการ ดังนั้นคนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังจึงมักถูกมองว่าเป็นคนเก่งในระดับหนึ่ง และมักจะถูกเลือกให้ได้รับโอกาสในการเข้าทำงานก่อนมหาวิทยาลัยที่อยู่อันดับท้ายๆ ยกตัวอย่างเรื่องการรับสมัครงานของธนาคารสีม่วงที่เป็นข่าวดังเป็นต้น แน่นอนว่าคนที่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังก็มีอยู่มาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่ได้รับคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังมักมีเครดิตที่ดีกว่าอยู่ดีจริงๆค่ะ

5.อายุผู้เรียน

อายุก็เป็นปัจจัยที่ทำให้หลายคนหันมาเรียนพิเศษกัน โดยเฉพาะวิชาที่เกี่ยวกับภาษา ตัวอย่างเช่นคนที่อยู่ในวัยทำงาน แต่ต้องการพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษ ถ้าไปนั่งเรียนกับนักเรียนม.ปลายที่ตั้งใจมาเรียนเพื่อเกร็งข้อสอบมันก็รู้สึกแปลกๆพิกลให้ใช่ไหมคะ การจ้างติวเตอร์ตัวต่อตัวมาสอนเองเลยจึงเป็นทางออกที่ดีกว่ามากค่ะ ทั้งลดความตึงเครียดจากความรู้สึกแปลกแยก อีกทั้งยังสามารถกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนของคุณได้อีกด้วยว่าเป้าหมายในการเรียนครั้งนี้คืออะไร เช่น ต้องการพูดภาษาอังกฤษทั่วไปในชีวิตประจำวัน ต้องการเรียนภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสัมภาษณ์งาน ต้องการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเอาไว้คุยกับแฟนชาวต่างชาติ เป็นต้น

6.เรียนออนไลน์

การเรียนพิเศษมีวิธีการเรียนใหม่ๆที่เอื้ออำนวยให้สำหรับคนที่มีเวลาน้อย หรือมีเวลาไม่ตรงกับชาวบ้านชาวช่องเค้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์โดยโปรแกรมskypeหรือfacetime ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกวันเวลาที่จะเรียนได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น ขอแค่ให้ติวเตอร์ที่คุณจะเรียนด้วยมีเวลาตรงกันกับคุณเท่านั้นเอง

7.เลือกครูผู้สอนได้

ข้อสุดท้ายคือ การเรียนพิเศษนั้นเรามีสิทธิ์เลือกครูที่เราอยากจะเรียนได้ อาจจะเพราะครูคนนั้นมีประวัติการสอนดี หรือมีสไตล์การสอนเหมาะกับเรา หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันทำให้เรามีความรู้สึกอยากจะเรียนมากยิ่งขึ้น เราสามารถเข้าไปในเว็บไซต์และเลือกดูโปรไฟล์ของติวเตอร์ และอ่านรีวิวที่จะช่วยในการตัดสินใจเลือกติวเตอร์ที่จะมาสอนได้ เช่น เว็บไซต์ bestkru เป็นต้น ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เลือกติวเตอร์ที่ตนเองพอใจได้ง่ายขึ้น โดยอ่านจากประสบการณ์ หรือรีวิวของผู้เรียนท่านอื่น สำหรับบางคนการจ่ายเงินเรียนพิเศษยังกระตุ้นให้ต้องตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะเกิดความเสียดายในเงินที่ต้องจ่ายไป

สรุปทำไมเราถึงเรียนพิเศษ จะเรียนพิเศษดีไหม?

จุดประสงค์ของการเรียนพิเศษก็คือการเรียนเพิ่มเติมนอกห้องเรียนเพื่อบรรลุเป้าหมายต่างๆที่เราได้วางเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเกรดเฉลี่ยในห้องเรียน การสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือแม้แต่การทำงานก็ตาม หากเรียกว่าเป็นค่านิยมของสังคมสมัยนี้ การเรียนพิเศษก็จัดว่าเป็นหนึ่งในค่านิยมที่ดีค่ะ เพราะในเมื่อการเรียนพิเศษมีประโยชน์ ทำให้เราบรรลุเป้าหมายหลายๆอย่างที่ตั้งไว้ได้ อีกทั้งยังสร้างลักษณะนิสัยให้คนเราขวนขวายหาสิ่งที่ดีกว่าเพื่อให้ได้ความรู้ที่แน่นเพียงพอ ช่วยให้เราผ่านการประเมินผลที่เราต้องเจอในอนาคต ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะเรียนพิเศษก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญเรื่องเงินด้วยนะคะ หากพอมีเงิน ไม่ลำบากมากนัก การเรียนพิเศษก็ถือเป็นการลงทุนที่ดีอย่างหนึ่งเลยค่ะ

อัพเดทล่าสุด: